“สภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครเชียงใหม่ เป็นการรวมกันของเด็กนักเรียนในโรงเรียนภายในเขตเทศบาลเชียงใหม่ โดยแต่ละโรงเรียนจะมีตัวแทนมาร่วมกิจกรรมการเรียนรู้นอกห้องเรียน การพัฒนาชุมชน และรณรงค์แก้ปัญหาต่างๆ ที่วัยรุ่นอย่างพวกเราส่วนใหญ่ต้องเจอ ทั้งการกลั่นแกล้ง การพนัน ยาเสพติด ภัยจากโลกออนไลน์ ไปจนถึงการท้องก่อนวัยอันควร ตอนนี้ในสภามีด้วยกัน 21 คนครับ ตัวแทนจากโรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียนมี 4 คน อันนี้ไม่รวมคณะทำงานที่มีกระจายอยู่ทั้งในระดับมัธยมและมหาวิทยาลัย ซึ่งบางคนก็ทำงานสภามาก่อน
ผมเข้าร่วมสภาเด็กตั้งแต่ขึ้น ม.4 ปกติจะเป็นแค่ 2 ปี แต่พอดีมีโควิด ก็เลยได้เป็นต่อจนถึง ม.6 ที่เข้าร่วมเพราะเราชอบทำกิจกรรมอยู่แล้ว บ้านผมอยู่แถววัวลาย แต่ที่ผ่านมาก็ไม่ได้มีปฏิสัมพันธ์อะไรกับชุมชนนัก คือรู้ว่าเป็นชุมชนทำเครื่องเงินเก่าแก่ มีถนนคนเดิน และเป็นแหล่งท่องเที่ยวสำคัญ แต่ก็รู้ประมาณนี้ ถึงรู้ว่าเขามีการรวมกลุ่มจัดกิจกรรมในชุมชนเป็นบางวาระ
แต่ผมก็ไม่รู้จะเข้าหาหรือเริ่มต้นยังไง จนพอได้มาทำสภาเด็ก และมีหน้าที่ที่เราต้องลงพื้นที่ไปเรียนรู้หรือจัดกิจกรรมในชุมชนหรือไปทำค่าย จึงรู้สึกว่าเข้าทางพอดี เพราะผมคิดว่าพื้นที่ต่างๆ ในเชียงใหม่มีอะไรให้ศึกษามากมายเต็มไปหมด แต่มันไม่ค่อยอยู่ในบทเรียนในห้องเรียนเท่าไหร่นัก อย่างคลองแม่ข่าที่ผมรู้จักแค่ว่าเป็นคลองที่เคยมีความสำคัญในประวัติศาสตร์เมืองและตอนนี้มีแต่น้ำเสีย พอได้ลงพื้นที่ ก็เลยทราบถึงปัญหาต่างๆ ได้เข้าใจในความเหลื่อมล้ำจริงๆ ที่อยู่ใกล้ตัวเรามาก
หรือการได้ร่วมกิจกรรมวิชาดอยสุเทพศึกษา ที่มีพี่ๆ มาเล่าถึงดอยสุเทพในมิติที่ไม่เคยทราบมาก่อน อย่างการเป็นแหล่งน้ำสำคัญนับตั้งแต่การตั้งเมือง ความหลากหลายทางชีวภาพที่ได้รับการยอมรับระดับสากล หรือความผูกพันกับคนเชียงใหม่มากไปกว่าการเป็นที่ตั้งของวัดพระธาตุดอยสุเทพ ผมจึงคิดว่านี่เป็นกำไรที่ได้เข้าร่วมกิจกรรม
ผมตั้งใจจะสอบเข้าคณะบริหารน่ะครับ แต่ถ้าไม่ได้ ที่มองเตรียมไว้คือเรียนทำอาหาร ไม่ทราบเหมือนกันว่าสิ่งที่ได้จากสภาเด็กจะช่วยให้ผมสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้หรือเปล่า แต่คิดว่าผมก็ได้อะไรจากกิจกรรมเหล่านี้เยอะ เช่น ความกล้าแสดงความคิดเห็น การตั้งคำถาม หรือความรู้เกี่ยวกับชุมชนและเมืองเชียงใหม่ ก็หวังจะช่วยให้ผมสอบติดน่ะครับ”
///
จารุพัทร บุญเฉลียว
นักเรียนชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 โรงเรียนเชียงใหม่คริสเตียนและประธานสภาเด็กและเยาวชนเทศบาลนครเชียงใหม่
ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…
การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…
“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…