“บทบาทของหนูคือนักดิจิทัลพัฒนาเมือง เป็นตัวกลางที่เชื่อมระหว่างเทศบาลเมืองแก่งคอยกับทางสำนักส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (Depa) ในการขับเคลื่อนเมืองแก่งคอยให้เป็นสมาร์ทซิตี้ ก็ทำทั้งเขียนโครงการที่พยายามใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ มาช่วยพัฒนาเมืองหรือทำให้เมืองน่าอยู่ หรือถ้าทาง Depa เขามีทุนสนับสนุนที่น่าจะสอดคล้องกับเมืองของเราได้ หนูก็จะนำเสนอไปที่เทศบาล เป็นต้น
พอมาอยู่ตรงนี้ก็เห็นโอกาสหลายอย่างเลยค่ะ อย่างการทำสมาร์ทบัส (smart bus) เส้นทางรถสาธารณะที่คอยรับส่งผู้คนในเมือง เพราะที่ผ่านมาเมืองเราไม่มีรถสาธารณะวิ่งในเมืองเลย หรือการทำป้ายรถเมล์อัจฉริยะสำหรับเส้นทางรถประจำทางที่วิ่งระหว่างอำเภอหรือวิ่งเข้าตัวอำเภอเมืองสระบุรี เป็นป้ายที่แจ้งข้อมูลรถแบบเรียลไทม์ว่ารถถึงจุดไหนแล้ว เป็นต้น
อีกเรื่องที่พยายามทำอยู่คือ CDP หรือ City Data Platform แพลทฟอร์มข้อมูลกลางของเมือง เช่น ข้อมูลประชากร สถิติด้านอาชีพ ข้อมูลนักท่องเที่ยว เป็นข้อมูลกลางที่ง่ายต่อการสืบค้นและนำไปวิเคราะห์เพื่อพัฒนาเมืองต่อไป เพราะต้องยอมรับว่าที่ผ่านมา แก่งคอยเราขาดการเก็บข้อมูลตรงนี้ โดยเฉพาะข้อมูลของประชากรแฝง พอจะขับเคลื่อนโครงการอะไรที นักวิจัยเขาก็ต้องเข้ามาทำข้อมูลใหม่ซ้ำแล้วซ้ำเล่า
หรือแก่งคอยเราเป็นเมืองผู้สูงอายุ จึงมีความคิดของหลายภาคส่วนที่จะนำสมาร์ทโพล (smart pole) หรือเสาไฟอัจฉริยะ ที่เป็นทั้งเสาไฟ ที่ติดตั้งกล้องวงจรปิด ลำโพงสำหรับเสียงตามสาย ไปจนถึงปุ่มแจ้งเหตุฉุกเฉินสำหรับผู้สูงอายุหรือคนในเมืองมาใช้ ให้เสานี้กระจายไปตามจุดต่างๆ ของเมือง เพื่อเชื่อมไปยังหน่วยงานที่รับผิดชอบหรืออาสาสมัครดูแลเมือง ซึ่งก็จะช่วยดูแลผู้คนในพื้นที่ได้ดีมากๆ
ที่ผ่านมา หนูได้เขียน proposal ให้กับทางเทศบาลเพื่อยื่นไปทาง Depa เพื่อให้ได้ตราสัญลักษณ์เขตส่งเสริมเมืองอัจฉริยะแล้ว ซึ่งเป็นเครื่องหมายที่ระบุว่าแก่งคอยกำลังขับเคลื่อนสาธารณูปโภคให้รองรับกับการเป็นสมาร์ทซิตี้อยู่ เราได้ตราสัญลักษณ์นี้มาสักพักแล้ว เพียงแต่ตรานี้ไม่มีเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาว่ามีข้อกำหนดกี่ปี และต้องยอมรับว่า ที่ผ่านมา เทศบาลให้ความสำคัญกับการแก้ปัญหาพื้นฐานเป็นหลัก เช่น เรื่องปากท้อง รวมถึงปัญหาน้ำประปา ทางเทศบาลจึงยังมองว่าสมาร์ทซิตี้ยังเป็นเรื่องรอง โครงการที่เล่ามาข้างต้นจึงยังคงอยู่ในระดับแนวคิดและข้อเสนอ ไม่ได้คืบหน้าเท่าที่ควร
ซึ่งก็เข้าใจได้ค่ะ เพราะถ้าเรื่องพื้นฐานของเมืองยังไม่พร้อม เรื่องเทคโนโลยีใหม่ๆ เขาก็อาจจะยังไม่มีเวลาให้ความสำคัญนัก แต่ในอีกมุม หนูก็คิดว่าสองเรื่องนี้ทำพร้อมกันได้ หลายๆ โครงการของสมาร์ทซิตี้ ก็สามารถนำมาแก้ปัญหาขั้นพื้นฐานของเมืองได้ อย่างไรก็ดี ในช่วงหลังๆ หนูก็เห็นว่าเป็นแนวโน้มที่ดีที่ทางเทศบาลเริ่มรับฟังข้อเสนอจากหน่วยงานเอกชนที่เข้ามา และรับเข้ามาอยู่ในแผนของเมืองแล้ว ก็อยากให้มีการขับเคลื่อนร่วมกันจนเกิดเป็นรูปธรรมได้ในที่สุด
ถามว่าทำไมคนรุ่นใหม่อย่างหนูถึงเลือกมาทำงานแก่งคอย? หนูเป็นลูกคนเล็ก และเป็นลูกหลงด้วยค่ะ (หัวเราะ) พ่อแม่อายุมากแล้ว พอเรียนจบ (มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ) เลยกลับมาช่วยกิจการของครอบครัวก่อน แล้วพอดี Depa เขาเปิดรับสมัครงานนี้ก็เลยมาทำ นอกจากนี้ หนูยังเขียนนิยายออนไลน์เป็นอาชีพเสริมด้วย เลยไม่ได้คิดว่าจะต้องไปทำงานในกรุงเทพฯ หรือที่อื่น อยู่บ้านเราที่นี่ก็สบายดี แล้วได้ดูแลพ่อแม่ด้วย (ยิ้ม)
ถามว่าเหงาไหม? ก็นิดหน่อยค่ะ เพราะเพื่อนรุ่นเดียวกันที่เจอกันในเมืองมีอยู่แค่ 3 คนเอง ถ้าคนรุ่นใหม่ที่ทำงานโรงงาน เขาก็จะไปพักที่พักใกล้โรงงาน ไม่มีใครอยู่ในตัวเมืองเลย ถึงอยากให้มีเพื่อนในเมืองเยอะกว่านี้ แต่ก็เข้าใจข้อจำกัดของเมืองที่ไม่ได้เอื้อให้คนรุ่นหนูสามารถทำงานอยู่ที่นี่ได้นัก
ก็อยากเห็นแก่งคอยพัฒนามากกว่านี้ อยากให้มีโครงการที่ทำงานร่วมกันระหว่างรัฐกับภาคเอกชนเยอะๆ เพราะไม่เพียงโครงการจะดึงให้คนรุ่นใหม่มาทำงาน แต่ถ้าเมืองมันพัฒนา โอกาสใหม่ๆ ก็จะเกิด เพื่อนๆ ในแก่งคอยก็อาจจะเยอะขึ้นตามไปด้วย”
สุกัญญา ตรีสุนทรรัตน์
นักดิจิทัลพัฒนาเมือง
ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…
การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…
“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…