“สูตรอาหารของยายส่วนใหญ่ได้มาจากคุณยายของยายอีกที ยายจะทำอาหารเช้าที่คนที่นี่กินกันโดยเฉพาะพี่น้องมุสลิม เช่น โรตีมะตะบะ นาซิดาแฆ ข้าวเหนียวหน้าปลาแห้ง ข้าวยำ และอื่นๆ เมื่อก่อนขายอยู่ที่ย่านตลาดเก่า ก่อนข้ามทางรถไฟมาเปิดร้านตรงทางเข้าตลาดสดยะลาตอนปี พ.ศ. 2500 ตอนนี้ก็รุ่น 4 เป็นรุ่นหลานยายดูแลเป็นหลักแล้ว
ถึงจะส่งต่อให้รุ่นหลัง ยายก็ยังชอบทำอาหารอยู่ ทุกวันนี้ก็ยังตื่นตี 4 มาช่วยเขา แต่หลักๆ จะเป็นลูกสาวทำ และให้หลานเป็นคนดูแลร้าน ส่วนวัตถุดิบก็ซื้อจากตลาดด้านหลังร้านเลยสะดวก ทยอยทำจนร้านเปิดตอนตี 5 กว่าอาหารทุกอย่างจะครบก็ราวๆ 6 โมง และก็ขายแบบนี้ไปจนเที่ยงก็หมด ระหว่างที่ร้านเปิด ก็จะมีผู้ช่วยเตรียมวัตถุดิบกันต่อสำหรับทำอาหารของวันพรุ่งนี้ วนเวียนอย่างนี้ทุกวันเป็นสิบๆ ปี ไม่มีวันหยุด
อาหารเช้าเป็นวิถีชีวิตของชาวใต้ คนที่นี่กินอาหารเช้าเป็นมื้อหลัก โดยเฉพาะนาซิดาแฆที่เป็นอาหารเช้าคู่วิถีชีวิตของคนในพื้นที่สามจังหวัดชายแดน นาซิดาแฆคือข้าวมันที่ผสมจากข้าวเจ้า ข้าวเหนียว และข้าวสังข์หยด นำมาแช่น้ำค้างคืนให้พองตัว วันรุ่งขึ้นค่อยนำมานึ่งและมูนกับหางกะทิ น้ำตาลทราย เกลือ หอมแดง ขิง ลูกซัด เราจะเสิร์ฟข้าวมันนี้กับแกงต่างๆ เช่นแกงปลา หรือแกงไก่ จะได้รสทั้งมัน หวาน เค็ม และรสเผ็ดจากน้ำแกง
นอกจากนาซิดาแฆ ก็มีข้าวราดแกง และโรตี แต่ไม่ว่าจะกินอะไร ที่คนส่วนใหญ่ขาดไม่ได้คือน้ำชา คนที่นี่นิยมดื่มเป็นน้ำชาร้อนกับนมข้นหวานตบท้ายมื้ออาหาร และพูดคุยกับเพื่อนต่อ ขณะที่คนในภาคอื่นๆ พบปะเพื่อนฝูงตามร้านอาหารในมื้อเย็น คนยะลาจะเจอกันตอนเช้า ร้านอาหารเช้าแบบเราจึงเหมือนเป็นชีพจรของคนที่นี่
ที่ยายยังช่วยเขาอยู่ เพราะสนุกนะ มันเป็นชีวิตเราไปแล้ว ตื่นมาเตรียมอาหาร รอรับลูกค้า และเห็นผู้คนหมุนเวียนเปลี่ยนเข้ามาในร้าน เป็นส่วนหนึ่งของชีวิตพวกเขา ยิ่งถ้ามีคนชมว่าอาหารอร่อย ยายก็มีความสุข”
กุหลาบ สัสดีพันธ์
เจ้าของร้านไทยอิสลาม ร้านอาหารเช้าเก่าแก่คู่เมืองยะลา
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…