ขณะที่ปลูกต้นไม้ เราทุกคนก็ล้วนเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานตามวิถีของตัวเองด้วยเช่นกัน

“ที่นี่เป็นบ้านเดิมคุณตา ภายหลังแม่ต่อเติมข้างหน้าเป็นคลินิกทำฟัน แต่ตอนนี้แม่ไม่ทำแล้ว พอเราเรียนจบกลับมาก็เห็นบ้านหลังนี้มีศักยภาพ พร้อมกับที่เห็นว่าพะเยายังไม่พื้นที่สร้างสรรค์ หรือพื้นที่ที่คนรุ่นใหม่ได้เชื่อมโยงกับชุมชน เลยไม่ไปทำงานที่ไหน กลับมาเปิดร้านที่บ้านเลย

ที่นี่เป็นร้านอาหารกึ่งคาเฟ่ มีไอศกรีม และขนม ที่ตั้งชื่อว่า ‘นิทานบ้านต้นไม้’ ก็ตามตัวเลยค่ะ เราสนใจเรื่องความสัมพันธ์กับคนกับธรรมชาติและคนกับสังคม โดยสังคมที่ใกล้ตัวเราที่สุดก็คือครอบครัว เลยใช้คำว่าบ้านมาแทนคุณค่าของครอบครัว แล้วให้ต้นไม้เป็นตัวแทนของธรรมชาติ

เราเชื่อว่าทุกสิ่งทุกอย่างและทุกคนล้วนมีคุณค่าในตัวเอง แต่ด้วยปัจจัยหลายอย่าง อาจทำให้เรามองข้ามสิ่งนี้ไป ก็คิดว่าถ้าเราใช้พื้นที่แห่งนี้เป็นเครื่องมือทำให้เขาค้นพบคุณค่าของตัวเองได้คงดีไม่น้อย ขณะเดียวกันเราก็สามารถทำธุรกิจไปพร้อมกันได้ ตอนนี้ก็เปิดมา 8 ปีแล้วค่ะ

เราเป็นคาเฟ่ที่ขยันจัดกิจกรรมโดยใช้สวนหลังบ้านเรานี่แหละจัดงานเรื่อยมา ทั้งตลาดนัดสินค้าทำมือ เวิร์คช็อปวาดสีน้ำ ปั้นดิน ถักไหมพรม โดยชวนเครือข่ายที่เป็นเพื่อนๆ กันมาร่วม และวางคอนเซปต์ของกิจกรรมในแต่ละช่วง หมุนเวียนไปเรื่อยๆ เราอยากให้คนในชุมชนมาใช้ ครอบครัวมาทำกิจกรรมร่วมกัน และมองว่ามันจะเป็นกลไกในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชุมชนผ่านพื้นที่ของการเรียนรู้และผลิตผลิตภัณฑ์สร้างสรรค์ 

พอจัดงานไปแต่ละครั้ง ก็มีโอกาสได้รู้จักคนมากขึ้น และตั้งกลุ่มกับเพื่อนๆ ในนาม Phayao Lovers ได้ไปร่วมกับหน่วยงานอื่นๆ จัดงานในเมืองบ้าง เช่น งานลอยกระทงของเมือง (ล้า’ลา’ลอย คอยเธอที่กว๊านพะเยา) หรืองานเทศกาลกาแฟและชา (Phayao Coffee & Tea Lovers)

ซึ่งนอกจากเรามีส่วนช่วยเมืองด้านการทำอีเวนท์กระตุ้นเศรษฐกิจให้กับเมือง เราก็ยังสามารถทำตามเป้าหมายที่คิดไว้แต่แรก คือการส่งเสริมให้เกิดความเข้าใจของผู้คนในสังคมผ่านการร่วมมือกันทำงาน ซึ่งความเข้าใจตรงนี้นี่แหละจะเป็นเครื่องมือสำคัญในการพัฒนาเมือง

เรามีภาพฝันไกลๆ ว่าอยากพัฒนาย่านที่เราอยู่ (ถนนราชวงศ์เชื่อมสู่กว๊านพะเยา – ผู้เรียบเรียง) ให้เป็น creative district โดยเริ่มเล็กๆ จากรอบๆ ร้าน เพราะเห็นว่าพะเยาเรามีต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมเยอะ และเมื่อทำอีเวนท์ไปเรื่อยๆ ก็พบว่าเรามีทรัพยากรบุคคลที่มีศักยภาพไม่น้อยเลย ต้นทุนดีอยู่แล้ว แค่ต้องหารวิธีเชื่อมเข้ากับภาพใหญ่ของเมือง จากย่านเล็กๆ ถ้าได้แรงเสริม มันก็อาจทำให้เมืองทั้งเมืองเป็นเมืองสร้างสรรค์ ที่มาช่วยยกระดับคุณภาพชีวิตของผู้คนได้ต่อไป

เราเชื่อว่าถ้าอยากเห็นดอกไม้ คุณก็ต้องลงมือปลูกต้นไม้ แต่ดอกไม้จะไม่สวยเลยถ้ามันมีต้นไม้แค่ต้นเดียว เราจำเป็นต้องช่วยกันปลูกเพื่อจะได้ชื่นชมดอกไม้ที่สวยงามด้วยกัน การได้ร่วมมือกันเช่นนี้ ยังทำให้เราได้เห็นศักยภาพของกันและกัน เช่นนั้นแล้ว ขณะที่ปลูกต้นไม้ เราทุกคนก็ล้วนเป็นดอกไม้ที่เบ่งบานตามวิถีของตัวเองด้วยเช่นกัน”

บงกช กาญจนรัตนากร
เจ้าของร้านนิทานบ้านต้นไม้ ตัวแทนจากกลุ่ม Phayao Lovers
และนายกสโมสรโรตารี่พะเยา
https://www.facebook.com/nithanbaantonmai/

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago