“ชื่อนายตี๋ ลูกชิ้นปลากราย มาจากชื่อเตี่ยค่ะ เตี่ยชื่อเล่นชื่อตี๋ ชื่อจริงชื่อคมสันต์ สุวิทยารักษ์ เปิดร้านนี้มาเกือบ 30 ปีแล้ว แรกเริ่มเลย ต้องย้อนไปสมัยอากง อากงเป็นคนจีนมาตั้งรกรากที่นครสวรรค์ และทำก๋วยเตี๋ยวเป็ดขายเป็นหลัก พร้อมกับขายลูกชิ้นปลากรายเสริมด้วย หลังอากงเสียชีวิต เตี่ยก็มารับช่วงต่อ โดยขายลูกชิ้นปลากรายอย่างเดียว เพราะสมัยนั้นลูกชิ้นปลากรายเริ่มเป็นของฝากของจังหวัดนครสวรรค์แล้ว โดยทำส่งร้านค้าในตลาดก่อน พวกแผงปลา หรือร้านก๋วยเตี๋ยวอื่นๆ
ความที่ลูกชิ้นเราไม่ใส่สารกันบูด เวลาฝากร้านเขาขาย แล้วร้านขายไม่หมด เขาก็จะตีสินค้าคืนมา เราก็ขาดทุน เตี่ยก็เลยคิดว่างั้นทำรถเข็นขายก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลาของเราเองดีกว่า เพราะแต่ไหนแต่ไร เวลามีงานบุญอะไร เราก็ทำก๋วยเตี๋ยวอยู่แล้ว น้ำซุปเราก็มีสูตรของเรา เตี่ยก็เลยเปิดร้านก๋วยเตี๋ยวเมื่อราว 30 ปีที่แล้ว ขายชามละ 10 บาท ขายอยู่ในห้องไม้ฝั่งตรงข้ามนี้ร่วมกับร้านหมูสะเต๊ะของน้องชายเตี่ย ก่อนย้ายมาขายในรถเข็นของตัวเอง จนเก็บเงินซื้อตึกตรงนี้ได้ และขยายสาขาเพิ่มอีก 2 สาขาในปัจจุบัน เราเป็นรุ่นที่ 2 ค่ะ มาช่วยตอนที่ก๋วยเตี๋ยวนายตี๋ติดตลาดแล้ว ซึ่งก่อนหน้านี้ก็ช่วยที่บ้านตั้งแต่ตอนทำลูกชิ้นส่งขายเลย พอมาถึงรุ่นเรา เราก็หาเมนูอื่นๆ มาเสริม มีอาหารจานเดียว ของกินเล่น ของหวานให้ครบวงจร เพราะลูกค้าบางคนอาจไม่ได้อยากกินก๋วยเตี๋ยว แต่ตามเพื่อนมา เขาจะได้มีทางเลือก โดยสาขาหลักสาขานี้มีเรากับน้องชายบริหาร แต่เตี่ยก็ยังมาคุมอยู่หน้าร้าน ส่วนอีกสองสาขา (หน้าวัดยางโทน ทางไปอำเภอโกรกพระ และสาขาเส้นเลี่ยงเมือง ตรงข้ามบุญทวีวัสดุ) จะมีน้องสาว และน้องชายดูแล เป็นธุรกิจครอบครัวอย่างแท้จริง (ยิ้ม)
ความลับของลูกชิ้นปลากรายหรือคะ ความจริงแล้วเราไม่ใช้แค่เนื้อปลากรายอย่างเดียว แต่เราจะผสมเนื้อปลากรายกับเนื้อปลาฉลาดด้วย รสสัมผัสจะออกมาพอดี เมื่อก่อนเราหาปลาเอง ไปซื้อจากพิจิตร รังสิต และเรานี่แหละรับจ้างแม่ขูดเกล็ดปลาได้ค่าแรงตัวละ 3 บาท แต่เดี๋ยวนี้ พอลูกชิ้นปลากรายได้รับความนิยม ก็มีแม่ค้ามาเสนอขายให้เลย เราก็จะเช็คเนื้อปลาก่อนแปรรูปทุกครั้ง ทุกวันนี้แม่ก็ยังเป็นคนคุมสูตรไม่ให้เพี้ยน
ความที่พอมีสื่อหรือโซเชียลมีเดียมาทำคอนเทนต์ร้านเราบ่อยๆ มาก ตี๋ลูกชิ้นปลากรายเลยได้รับความสนใจเป็นหนึ่งในจุดเช็คอิน หรือเป็นหน้าเป็นตาของเมืองนครสวรรค์ไปกลายๆ เราตระหนักเรื่องนี้ดี จึงต้องพยายามรักษามาตรฐานของรสชาติและการบริการให้ดีอยู่ตลอด เราก็หวังให้ร้านก๋วยเตี๋ยวร้านนี้เป็นร้านคู่เมืองต่อไปอีกหลายๆ รุ่น”
รุ่งรัตน์ สุวิทยารักษ์ และนายตี๋ คมสันต์ สุวิทยารักษ์
เจ้าของร้านตี๋ ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นปลากราย นครสวรรค์
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…