งานกระเป๋าสานจากผักตบชวา เป็นอะไรที่หลายหน่วยงานต้องการส่งเสริม แต่ส่งเสริมแล้วเขาไม่ได้ขายให้เรา คนทำของจากผักตบขายก็เยอะ ราคาก็จะมาเบียดกัน

“เราเป็นอาสาสมัครแรงงานจังหวัดปทุมธานี ทีนี้ทางแรงงานจังหวัดอยากให้ประชาชนในพื้นที่มีรายได้ที่เป็นแรงงานนอกระบบ เขาต้องการแกนนำให้ชุมชนได้เรียนรู้ อยู่ร่วมกัน ทำกิจกรรมด้วยกัน ให้คนมีปฏิสัมพันธ์กัน ได้มีรายได้ เราไม่ได้ทำอะไร เป็นแม่บ้าน ก็เข้าไปทำ ในชุมชนมี 900 กว่าหลังคาเรือน ก็ขี่จักรยานถามกันในหมู่บ้านพรพิมานว่าใครอยากทำอะไร ซึ่งเขาต้องการฝึกอาชีพ ก็รวมกันจัดตั้งกลุ่มขึ้นมาเมื่อประมาณปี 2557 ไปร่วมอบรมแล้วมาทำพวกผลิตภัณฑ์ไล่ยุง มัดย้อม จากนั้นก็ไปขึ้นทะเบียนโอทอป เพื่อให้เขาได้เรียนรู้ว่าถ้ามันขายได้ ขึ้นทะเบียนโอทอปได้ จะมีการพัฒนาต่อเนื่องจากหน่วยงานต่าง ๆ ที่เข้ามาช่วย เพราะเมื่อเราไปเรียนแล้ว เขาก็อยากให้ต่อยอด เช่น สมาชิก 20 คนที่เข้าร่วมเรียน มีอย่างน้อย 1 คนที่ไปต่อยอด ถือว่าประสบความสำเร็จ เพราะฉะนั้นโครงการที่เราไปเรียนเราถือว่าประสบความสำเร็จเพราะมีคนไปต่อยอดทุกโครงการ

สินค้าของกลุ่มผลิตภัณฑ์บ้านประดิษฐ์พรพิมานทุกชิ้นขึ้นมาตรฐานมผช. (ผลิตภัณฑ์ชุมชน) ของเราที่เด่น ๆ ก็มีเชือกร่ม ผลิตภัณฑ์สานจากผักตบชวา ซึ่งเป็นงานของ KBO (Knowledge – Based OTOP เครือข่ายองค์ความรู้ ของกรมการพัฒนาชุมชน) ด้วย งานผ้ามัดย้อมเราก็ทำสไตล์ไม่ฉูดฉาด เอามาต่อยอดเป็นกระเป๋า หมวก และเราจับงานตามสถานการณ์ อย่างช่วงปีแรกที่โควิดระบาด หน้ากากไม่พอ เราก็เย็บหน้ากากผ้าส่งหน่วยงาน เช่นกรมการพัฒนาชุมชนเขาก็สั่ง เราก็ขายได้ พอหน้ากากพอ เราก็คิดหาทำอะไรต่อ ได้รับแจกสเปรย์แอลกอฮอล์มา เป็นขวดเล็ก พกพา อยู่ในกระเป๋า เราเอาไปใช้ลำบาก ก็คิดว่าเรามีเชือกร่มอยู่ ถ้าเอามาคล้องคอล่ะ เลยทำเป็นสายคล้องคอใส่ขวดสเปรย์แอลกอฮอล์ขึ้นมา ก็ใช้งานสะดวก ได้รับการส่งเสริมจากนายกเทศบาลธัญบุรีท่านก็สั่งเป็นของแจก พอคนเห็น คนใช้ ก็มีออเดอร์เพิ่มเข้ามา

งานกระเป๋าสานจากผักตบชวา ก็ขายได้ ซึ่งผักตบเป็นอะไรที่หลายหน่วยงานต้องการส่งเสริม แต่ส่งเสริมแล้วเขาไม่ได้ขายให้เรา คือเขาพยายามขจัดผักตบ ไปที่ไหนก็ยังเห็นผักตบลอย ๆ คนทำของจากผักตบขายก็เยอะ ราคาก็จะมาเบียดกัน ซึ่งงานกว่าจะทำออกมาได้ ต้องเอาผักมาตาก เอามาเข้าเครื่องรีดเส้น กว่าจะมาขึ้นรูป กว่าจะถักเสร็จ ลงแวกซ์ มันหลายกระบวนการ แล้วคนซื้อก็อยากได้ของถูก มันต้องคนใจรักจริง ๆ เขาถึงจะซื้อ หรืองานมัดย้อม แรก ๆ ก็ดี แต่พอถึงจุดหนึ่ง ก็จะตัน แต่เราไม่ได้ทำอย่างเดียว ออกไปดูตลาดข้างนอกด้วย ไปตลาดโบ๊เบ๊ เขาขาย 99 บาท 120 บาท เราขาย 250 บาท ใครจะซื้อ มีโรงงานที่ทำแล้วถูกเพราะต้นทุนเขาถูก เราทุนสู้เขาไม่ได้ เรามองไปถึงอนาคตเลยว่า วันนึงเราขายดี อุตสาหกรรมเข้ามาแน่ เราก็เลยทำตามพรีออเดอร์ ไม่ได้ทำงานหน้าร้าน สินค้าที่ทำไว้ 1 2 3 4 ก็ไม่ได้ทิ้งหรอก แค่ปรับตัวตามสถานการณ์

แต่ปัญหาหลัก ๆ ก็คือ โดยรวมสมาชิกเราต่อยอดงานออกมา ฝีมือดีนะ แต่ช่องทางการขายมันตัน เพราะหนึ่งเป็นสตรีที่เป็นแม่บ้าน เขาก็ดูแลลูก ดูแลครอบครัว เขาไม่ใช่แม่ค้ามืออาชีพ แล้วก็เป็นผู้สูงอายุ ไม่สะดวกเดินทาง ก็เลยมาตกปัญหาว่า ใครจะช่วยเราขายได้ ซึ่งล่าสุดที่มีประชุมเราก็พูดตรง ๆ เลยว่าตอนนี้ไม่อยากได้ละ ฝึกอาชีพทุกปี ๆ เราได้อาชีพใหม่ที่คุณฝึกให้แล้ว เราก็ต้องการพัฒนาต่อยอด แต่เมื่อพัฒนาแล้ว ไม่มีการขายให้ เราอยากได้ช่องทางการตลาด สมมติว่าหน่วยงานคุณมีงบเท่านี้ คุณมาซื้อของเราแล้วเอาไปขายได้มั้ย ? ให้คนกลางที่เป็นอาสาสมัครขาย เขาก็มีรายได้ตรงนั้นด้วย กลุ่มก็มีรายได้ด้วย คือปัญหานี้ไม่ใช่แค่เรา ในเครือข่ายคุยกันก็ปัญหาเดียวกัน ซึ่งหลายหน่วยงานก็ช่วยแจ้งให้ไปออกร้านขายเวลามีงานหรือกิจกรรม แต่เราจะออกไปขายงานที่มีวันสองวัน ถ้างานสามวันเจ็ดวันเราไปออกไม่ไหว ไม่สามารถพาทีมไปได้ บางทีตลาดที่หาให้ก็พาเราไปเข้ามุมในหลืบ ก็ทำให้ผู้ประกอบการเข็ด เพราะไปแล้วขายไม่ค่อยได้ แต่เขามีค่าใช้จ่ายอย่างค่าเดินทาง ค่ากิน ค่าจอดรถก็วันละเป็นร้อย ผู้ประกอบการก็เวียนซื้อกันเอง เราก็พยายามแก้ปัญหาเองด้วย ถ้ามีโอกาสฝากของไปขายได้เราก็ฝาก เช่น กลุ่มโอทอปชบาพารวยให้เราไปฝากขายที่ตลาดไก่คู่ คลอง 14 หรือใครมีกำลังหน้าร้านสามารถซื้อเราได้ แต่เราก็ต้องคิดถึงเขาด้วยว่าเราไปเพิ่มภาระหน้าร้านให้เขาดูแลหรือเปล่า ? หรือเกิดของเราเสียหายขึ้นราขึ้นมาจะยังไง ? ขายออนไลน์ก็ช่วยได้ แต่ไม่ได้ปัง แล้วก็มีผู้ใหญ่ เจ้าหน้าที่กระทรวงช่วยซื้อ บางท่านก็ช่วยถือกระเป๋าถ่ายรูปประชาสัมพันธ์ให้

อีกปัญหาคือ โครงการอบรมเน้นผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไป แต่มาเรียนแล้วต้องจัดโต๊ะต้องอะไรบางคนเขาก็ไม่ไหว ก็พยายามผลักดันว่าผู้สูงอายุ เขาทำได้ แต่ขายไม่ได้ ขอเป็นผู้สูงอายุบวกลูกบวกหลาน เพราะลูกหลานจะช่วยต่อยอดได้ เขาจูงกันมาเรียน ก็ได้ความสัมพันธ์ในครอบครัว พอผู้สูงอายุทำชิ้นงานออกมา ก็ลูกหลานเขาเป็นคนโพสต์ลงเฟซบุ๊ก ไม่ใช่ตัวเขา บางท่านเก่ง โพสต์ได้เอง แต่ก็เป็นส่วนน้อยที่จะทำได้ ส่วนใหญ่ลูกหลานเป็นคนต่อยอด แต่ลูกหลานเข้าอบรมไม่ได้ตามเกณฑ์อายุ ก็จะไม่ได้ใบประกาศที่จะใช้ในการเป็นวิทยากร ต้องไปขวนขวายเรียนเอง มาฝึกทำ แล้วอีกปัญหาก็คือ ในอำเภอเดียวกันมีของขายเหมือนกัน ไปอบรมมาเหมือนกัน แล้วก็ไปขายด้วยกัน เราก็ต้องคิดให้แตกต่าง แต่ทีนี้ ครูสอนลวดลายเดียวกัน แบบเดียวกัน มีลายอื่นแต่เขาไม่สอน เพราะมันอาจจะใช้เวลานาน อย่างไปเรียน 20 คน อีกหมู่บ้านนึงก็ทวีไปทีละ 20 คน ๆ ก็เป็นร้อยคนแล้วที่เรียนลายเดียวกัน ถ้าอยากส่งเสริมอาจจะแบ่งลายนี้สิบคน ลายนี้สิบคน แล้วคนเก่งก็มาสอนกัน ก็น่าจะดี”

ญาณิศา จงปัญญานนท์

เลขากลุ่มวิสาหกิจชุมชน ผลิตภัณฑ์บ้านประดิษฐ์พรพิมาน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

4 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago