ชัยชนะ

Start
195 views
13 mins read

“หนูสอบได้แค่ที่สองค่ะ”

สาวน้อยวัย 9 ขวบตอบพร้อมๆ กับที่น้ำใสเริ่มปริ่มขอบตา ถึงแม้ฉันจะบอกว่าได้ที่สองก็ยังดีกว่าเพื่อนคนอื่นๆ อีกตั้งมากมาย

แต่น้ำใสๆ ที่หยาดลงอาบแก้มก็บอกฉันว่าเพื่อนอีกเกือบ 40 คนนั้นไม่มีความหมายเพราะสายตาของเธอเห็นแต่คนที่ได้ที่หนึ่งเพียงคนเดียว…

นี่เป็นเพียงหนึ่งในหลายๆ เหตุการณ์ที่บอกฉันว่าเด็กๆ เห็นความสำคัญของชัยชนะและการได้เป็นที่หนึ่งเพียงไร และบนเส้นทางไปสู่ชัยชนะนั้น เด็กหลายคนทุ่มเททุกวิถีทางถึงแม้จะต้องเล่นขี้โกง แอบดูคำตอบหรือปัดแข้งปัดขาเพื่อน ทำอย่างไรก็ได้ ขอให้ชนะก็แล้วกัน

สังคมเราปลูกฝังให้รังเกียจ “คนขี้แพ้” และมักลืมไปว่าความพ่ายแพ้หรือความล้มเหลวนั้น

ความจริงให้บทเรียนที่มีค่าแก่เราหลายอย่าง มันช่วยให้เราเห็นจุดอ่อนและช่องโหว่ของตัวเราเองที่ควรแก้ไขปรับปรุง มันสอนให้เราเรียนรู้ว่าถึงแม้จะล้มไปในวันนี้ ก็ยังลุกขึ้นใหม่ได้ในวันหน้า พร้อมๆ กับฝึกให้เราแข็งแกร่งขึ้น ฉันพบว่าคนที่ให้ความสำคัญและเคยชินกับการที่ “ต้อง” ชนะเสมอนั้น เมื่อไม่ประสบความสำเร็จเข้าสักครั้งหัวใจมักเปราะบางและพร้อมจะแตกรานร้าวได้อย่างง่ายดาย

ที่สำคัญวันที่เราแพ้มักเป็นวันที่เราได้เรียนรู้น้ำใสใจจริงของคนรอบๆ ตัวว่ารักใคร่เราเพียงไร ยามที่เราชนะ ยามที่เราประสบความสำเร็จ ผู้คนมักพากันมาห้อมล้อมยินดี โดยที่เราแทบไม่มีทางรู้เลยว่าพวกเขาเหล่านั้นหวังอะไรจากเราหรือเปล่า วันที่เราล้มเหลวต่างหากที่เราจะได้ “เห็น” ส่วนลึกของหัวใจเขาว่าใครบ้างที่คบหาเป็นเพื่อนกับเราด้วยใจจริง ใครบ้างที่เราจะวางใจได้ว่าเขาจะอยู่เคียงข้างเราเสมอ

แต่สักกี่คนที่จะตระหนักถึงคุณค่าของความพ่ายแพ้และล้มเหลว ฉันจึงพบว่าพ่อแม่มากมายยังคงสอนลูกให้วิ่งตะบึงไปบนเส้นทางสู่ชัยชนะไม่ว่าจะแลกมาด้วยอะไรก็ตาม ฉันพยายามบอกเด็กๆ เสมอว่าชัยชนะที่ได้มาด้วยวิธีสกปรกนั้นมันไร้ศักดิ์ศรีและไม่มีเกียรติ ต่อให้ชนะ ก็ไม่ใช่เรื่องที่น่าภาคภูมิใจแต่ควรเป็นเรื่องที่น่าอับอายมากกว่า แต่ไม่ว่าจะเพียรปลูกฝังให้เขารู้สึกละอายต่อชัยชนะที่ได้มาอย่างไม่ถูกต้องเพียงไร เด็กๆ หลายคนก็ยังคงยึดติดกับรสชาติอันหอมหวานของชัยชนะและมีตะกอนขุ่นมัวในใจเมื่อพ่ายแพ้

ฉันจึงเห็นเด็กแอบโกงด้วยวิธีต่างๆ อยู่เสมอเวลาทำข้อสอบถึงแม้ว่าจะเป็นการสอบที่ห้องสมุดซึ่งไม่มีผลใดๆ ต่อคะแนนสอบในโรงเรียนของเขาเลย ฉันพยายามบอกพวกเขาว่าถ้าแอบดูบทเรียน ป้าก็จะไม่รู้ว่าหนูไม่รู้ ก็จะไม่ตอกย้ำบ่อยๆ เพื่อช่วยให้หนูเก่งขึ้น การโกงที่ทำอยู่จึงเท่ากับเป็นการโกงตัวเอง แต่กว่าจะสอนให้เด็กส่วนใหญ่เข้าใจได้ก็ใช้เวลาหลายเดือนและบางคนก็

ยังอยากได้ที่หนึ่งมากกว่าความรู้อยู่ดี

แต่จะเป็นอื่นไปได้อย่างไรในเมื่อสังคมรอบตัวล้วนหล่อหลอมให้เขาคุ้นเคยกับการแข่งขันที่ผู้ชนะได้รับความชื่นชม ในขณะที่ผู้แพ้ นอกจากจะไม่ได้อะไรแล้ว ยังอาจถูกต่อว่าและได้รับการเยาะเย้ยดูถูก แม้แต่ในวงการกีฬาที่ควรจะฝึกให้ “รู้แพ้ รู้ชนะ รู้อภัย” นักกีฬาก็ยังถูกสอนให้มองฝ่ายตรงข้ามเป็นคู่ต่อสู้ที่ต้องห้ำหั่นเอาชนะให้ได้ในทุกวิถีทาง และ..ที่แย่ยิ่งกว่านั้น…ยังมักถูกฝึกว่าจะโกงได้อย่างไรโดยไม่ถูกกรรมการลงโทษอีกด้วย!

ฉันถูกเลี้ยงมาให้ให้ความสำคัญกับการเคารพตัวเองและเชื่อว่าหนึ่งในวิถีทางที่จะนำไปสู่การเรียนรู้ที่จะเคารพตัวเองอย่างแท้จริงนั้น เด็กๆ จะต้องเรียนรู้ที่จะรู้จักภูมิใจแต่ในสิ่งที่ควรค่าแก่ความภาคภูมิใจ ในสายตาของฉัน ชัยชนะเป็นเพียงผลพลอยได้

ความพยายามต่างหากที่เป็นสิ่งที่ควรภูมิใจ การที่ได้รู้สึกว่าเราได้พยายามอย่างเต็มกำลังแล้วคือชัยชนะที่แท้จริง ไม่ว่าผลสุดท้ายของความพยายามนั้นจะออกมาอย่างที่หวังไว้หรือไม่ก็ตาม

ฉันรู้ว่ามันยากที่จะปลูกฝังความคิดนี้ให้กับเด็กท่ามกลางบรรยากาศทางสังคมในปัจจุบัน แต่ฉันก็ยังขอยืนยันและยังจะพยายามต่อไปที่จะสอนเด็กๆ ว่า ถ้าเราให้ความสำคัญกับความพยายามมากกว่าความสำเร็จ คู่ต่อสู้ที่แท้จริงของเราก็คือตัวเราเอง…

และเราจะมีโอกาสชนะเสมอ..

แม้ว่าบางครั้ง..หรืออาจจะบ่อยครั้ง…

ชัยชนะนั้นอาจจะถูกมองว่าเป็นชัยชนะของผู้แพ้ก็ตาม

อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย

อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย อดีตอาจารย์ของภาควิชาสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยศิลปากร วิทยาเขตพระราชวังสนามจันทร์ หลังเออรี่รีไทร์จากชีวิตราชการ ใครบอกว่าเกษียณแล้วจะสบาย อาจารย์อู่ทองกลับบอกว่ามีชีวิตที่ยุ่งกว่าเดิมด้วยซ้ำ มีงานเข้ามามิได้ขาด เช่น การเปิดห้องสมุดของ อบต. ให้เด็กๆ ในชุมชน อีกทั้งยังต้องจัดทัวร์พาเพื่อนพ้องน้องพี่คอเดียวกันไปท่องเที่ยว โดยเน้นไปยังสถานที่ที่คนส่วนใหญ่ไม่ค่อยไปกันโดยเอาความชอบส่วนตัวเป็นที่ตั้ง ดังนั้น ทัวร์อู่ทองจึงเต็มไปด้วยอรรถรสของศิลปวัฒนธรรมและวิถีชีวิตพื้นบ้านในหลากหลายประเทศ ทั้งยังตั้งต้นเก็บภาพจิตรกรรมฝาผนังตามวัดวาอารามทั่วประเทศไทยอย่างจริงจังไว้เป็นมรดกให้คนรุ่นหลังได้เห็นงานฝีมืออันทรงคุณค่าของคนรุ่นก่อนที่บันทึกเรื่องราววิถีชีวิตในรุ่นของตนไว้ให้คนรุ่นต่อๆ ไปได้ทันเห็นก่อนจะเลือนหายไปตามวันเวลา

ติดตามผลงานของอาจารย์อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัยที่ผลิตออกมาเป็นหนังสือหลายเล่ม(ส่วนใหญ่มีรางวัลเป็นการันตี) ได้โดยการเสิร์ชคำว่า "อู่ทอง ประศาสน์วินิจฉัย"