ดอกไม้พันดวง เครื่องมือนำร่องของ แคมเปญ ‘เชียงใหม่เมืองเทศกาล เจ้าภาพคือทุกคน เริ่มต้นที่ยี่เป็ง’

“คนเมืองเรียกดอกไม้ปันดวง ถ้าเป็นภาษากลางก็คือดอกไม้พันดวง นี่เป็นชื่อของเครื่องสักการะตั้งธรรมหลวงของชาวไทลื้อ ชาวบ้านจะเด็ดดอกไม้ที่ปลูกไว้มาวางซ้อนกันบนแตะหรือไม้ไผ่สานคล้ายตระแกรง หรือรูปทรงอื่นๆ เพื่อไปแขวนประดับวิหารวัดก่อนวันขึ้น 15 ค่ำในประเพณียี่เป็ง คนเฒ่าคนแก่หลายคนยังพอจำได้ แต่คนรุ่นหลังนี้แทบไม่คุ้นเคย เพราะพิธีกรรมนี้หายไปจากในตัวเมืองนานแล้ว

เรื่องดอกไม้ปันดวงกลับมาเป็นที่สนใจอีกครั้ง ภายหลังที่เราชวนชาวบ้านและเครือข่ายภาคประชาสังคม ร่วมปรึกษาหารือกันเกี่ยวกับเมืองแห่งการเรียนรู้ ต่างเห็นตรงกันว่า เราควรเรียนรู้จากต้นทุนที่เรามี รวมถึงมรดกที่กำลังเลือนหาย เพราะจริงๆ นี่คือสิ่งที่เป็นพื้นฐานที่สุด ทว่าก็ทรงคุณค่าที่สุดใกล้ตัวเรา และเมื่อแม่ครูนุสรา เตียงเกตุ พาเราไปอำเภอแม่แจ่ม ไปพบกับหมู่บ้านที่ยังมีการทำดอกไม้พันดวงถวายวัดกันอยู่ ก็พบว่าสิ่งนี้แหละที่เป็นคำตอบของเมืองแห่งการเรียนรู้ในแบบฉบับเชียงใหม่

นั่นเป็นช่วงปลายปี 2564 ก่อนเทศกาลยี่เป็ง อย่างที่ทราบกันว่าโควิด-19 ทำให้ธุรกิจท่องเที่ยวของเมืองเชียงใหม่ซบเซาหนัก และเราต่างมาทบทวนว่ารูปแบบการท่องเที่ยวแบบเดิมของเมืองอาจไม่ยั่งยืนอีกต่อไป นั่นทำให้ประเด็นเรื่องเศรษฐกิจสร้างสรรค์ที่ขับเคลื่อนโดยชุมชนจึงถูกหยิบยกขึ้นมาใคร่ครวญ ซึ่งนำมาสู่การตั้งธงที่จะขับเคลื่อนจุดแข็งดั้งเดิมของเมือง ในฐานะเชียงใหม่เมืองแห่งเทศกาล แต่หัวใจสำคัญของเราคือเทศกาลที่ว่ามันต้องริเริ่มและขับเคลื่อนจากพลังของเครือข่ายชุมชน ผู้เป็นเจ้าของเทศกาล ซึ่งอย่างที่บอกว่าเราคุยกันก่อนงานยี่เป็งพอดี จึงตั้งชื่อแคมเปญกันว่า ‘เชียงใหม่เมืองเทศกาล เจ้าภาพคือทุกคน เริ่มต้นที่ยี่เป็ง’ เพื่อให้เห็นว่าชาวบ้านและเครือข่ายชุมชนของเราเองนี่แหละที่จะเป็นหัวใจสำคัญของการจัดงานในทุกเทศกาล

และดังที่กล่าวไป ดอกไม้พันดวง คือเครื่องมือนำร่อง เพราะนอกจากความหมายที่ยึดโยงกับประเพณี ยังมีความสวยงาม ความหอมจากดอกไม้ และความเป็นไปได้ใหม่ๆ ในการออกแบบสร้างสรรค์

เราเริ่มจากชักชวนเครือข่ายชุมชนลงพื้นที่ไปเรียนรู้การทำดอกไม้พันดวงที่แม่แจ่ม จากนั้นก็จัดเวิร์คช็อปชักชวนนักออกแบบมาพัฒนารูปแบบดอกไม้พันดวง ร่วมกับผู้ประกอบการในเชียงใหม่ ทดลองปรับรูปแบบของการสานไม้ไผ่ให้เป็นรูปทรงร่วมสมัย เลือกสีสันของดอกไม้ให้มีความยูนีค ที่สำคัญคือ สนับสนุนให้มีการนำไปใช้ในอุตสาหกรรมท่องเที่ยว ทั้งการตบแต่งโรงแรม สปา เป็นของชำร่วยต้อนรับแขก ไปจนถึงออกแบบกิจกรรมท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม ชักชวนนักท่องเที่ยวมาเรียนรู้ และทดลองออกแบบดอกไม้พันดวงตามสไตล์ของเขาเอง เป็นต้น และแน่นอน เมื่องานยี่เป็งที่ผ่านมา เราก็นำดอกไม้พันดวงนี่แหละไปตบแต่งขบวนแห่ และพื้นที่ต่างๆ ทั่วเมือง

ดอกไม้พันดวง หรือตุง โคมล้านนา และประทีป เป็นเพียงองค์ประกอบเล็กๆ ที่ทำให้เราเห็นว่าเชียงใหม่รุ่มรวยไปด้วยวัตถุดิบทางวัฒนธรรมที่ยังพอมีคนสืบสานและรอคอยให้คนรุ่นต่อมาศึกษาเรียนรู้ เพื่อนำไปต่อยอดเป็นงานออกแบบ หรือสินค้าเชิงสร้างสรรค์มากมาย เช่นเดียวกับภาพใหญ่ของเมือง ที่เต็มไปด้วยประเพณีและเทศกาลที่ยึดโยงอยู่กับวิถีชีวิตคนเมืองตลอดทั้งปี

เรามองว่าถ้าองค์กรทุกฝ่ายหันหน้าเข้าหากัน และมีวิสัยทัศน์เดียวกันโดยมีชาวบ้าน ผู้เป็นเจ้าของและผู้ขับเคลื่อนที่แท้จริงของเทศกาลนั้นๆ เป็นศูนย์กลาง เชียงใหม่จะเป็นจุดหมายการท่องเที่ยวอันยั่งยืน ซึ่งเกิดจากตัวตนของเราจริงๆ และเพราะเสน่ห์ที่เกิดจากตัวตนเช่นนี้แหละ ที่จะดึงดูดให้นักท่องเที่ยวมาเยือนเมืองแห่งนี้ และกลับมาเยือนอีกครั้ง ซ้ำแล้วซ้ำเล่า”

///

ดร.รชพรรณ ฆารพันธ์

นักวิจัยโครงการจัดตั้งศูนย์ล้านนาสร้างสรรค์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

#WeCitizensTh  #LearningCity  #ChiangMai

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

14 hours ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

3 days ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

3 days ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

4 days ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

4 days ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

4 days ago