ตอนนี้เหลือรถผมวิ่งอยู่คันเดียว ยังปั่นอยู่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร อยู่บ้านก็เบื่อ ออกมายังได้ดูโน่นดูนี่

“ผมปั่นสามล้อมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2512 ตอนอายุ 17 สมัยนั้นไม่มีรถอะไร มีแต่สามล้ออย่างเดียว ตอนนั้นคล้ายๆ ว่าเราก็ทำสนุกๆ งั้นแหละ ไม่ได้คิดเป็นอาชีพจริงจัง ก็ทำๆ หยุดๆ มาจริงจังช่วงหลังนี้ 40 ปีละ รถก็ซื้อมาตั้งแต่แรกเริ่ม ถูก คันละ 5-600 บาท สมัยนั้นทองบาทละ 400 ตอนนั้นน้าชายปั่นอยู่ พ่อกับน้าก็พากันไปซื้อมาให้ตอน 17 นั่นแหละ เขามองว่าเรามันคล้ายความรู้ไม่มี เขาอยากให้เรามีงานทำ งานก็เหมาะกับนิสัย เราไม่ชอบอยู่ใต้บังคับใคร อย่างนี้มีอิสระ ไปได้ทั่ว ออกมาทำงานตอนไหนก็ได้ กลับบ้านตอนไหนก็ได้ ตอนนั้นมีแต่สามล้อ มีตุ๊กตุ๊กอยู่ 2-3 คัน แค่นั้นแหละ วิ่งจากตลาดฉัตรไชยไปหน้าวังไกลกังวล 3 บาท สมัยนั้นก๋วยเตี๋ยวชามละสลึงถึงสองบาท ผมวิ่งวันนึง 20-30 บาทก็เหลือกินแล้ว ค่าใช้จ่ายก็ถูกหมด แต่เทียบสมัยนี้ 300 บาท 500 บาทยังไม่พอกินเลย วิ่งตามระยะได้ 40 บาท 50 บาท แล้วแต่ เจอคนใจดีเขาให้เป็นร้อยก็มี

               แต่ก่อนมีสามล้อเป็นร้อยคัน ฝรั่งนักท่องเที่ยวมากันเยอะ จนสักปี 2550 มีรถเยอะสัก 300 คัน ฝรั่งมาก็ต้องมานั่ง วันนึงขี่ได้ 300-500 บาท บางคนขยันก็ได้เป็นพัน คนพูดภาษาเก่งก็ยิ่งได้มาก สามล้อเริ่มน้อยคือตั้งแต่ปี 2560 มา เหลือประมาณยี่สิบกว่าคัน ลดไป คนขี่ก็ตายไปมั่ง เลิกมั่ง รถสามล้อหัวหินเหลืออยู่ประมาณ 4-5 คัน แต่เขาก็มีอายุ ไม่วิ่งละ เด็กก็ไม่เอาหรอก เขากลัวเหนื่อย ตอนนี้เหลือรถผมวิ่งอยู่คันเดียว ยังปั่นอยู่ก็ไม่รู้จะไปทำอะไร อยู่บ้านก็เบื่อ ออกมายังได้ดูโน่นดูนี่ ใครจ้างเราก็ไป ใครไม่จ้าง ถึงเวลาเราก็กลับบ้าน ก่อนนี้ผมจอดอยู่หลังตลาดฉัตรไชย มาจอดที่หน้าวัดหัวหินได้ซักสิบปีแล้ว มาสามโมงเย็น เข้าบ้านสักทุ่มนึง ตอนเย็นไม่ร้อนมาก จะมีคนนั่ง กลางวันมันร้อน เราร้อน คนก็ร้อน ไม่อยากนั่ง บางคนเห็นเรานั่งนานๆ ก็เรียกไปส่ง คนเฒ่าคนแก่เขานั่ง สมัยนี้ลูกหลานไม่นั่งแล้ว ถอยรถเครื่องมาวิ่งกันแล้ว นักท่องเที่ยวก็มีบ้าง แต่ช่วงโควิดนี่ไม่ต้องพูดถึงเลย เงียบมาก ออกมาทุกวัน รถไม่มีวิ่งเลย รถเมล์ก็ไม่มี ก็คิดว่าออกมาน่าจะได้ลูกค้าอยู่ ใหม่ๆ ก็ดีหน่อย อยู่ๆ ไปก็ลด

               เมื่อก่อนสามล้อมีทะเบียนรถ ใบขับขี่สาธารณะ ตอนหลังเขายกเลิก คือเราเป็นรถโบราณ รถอนุรักษ์ ตอนนี้ไม่มีรถแบบนี้ขายแล้ว ที่มีอยู่ 3-4 คันเขาก็เก็บไว้ ไม่ขาย รถคันนี้ของผมก็ 50 กว่าปี ต้องซ่อมเอง มีช่างเป็นเพื่อนกันทำมั่งแต่ก็ไม่ทำมั่ง เมื่อก่อนอะไหล่เยอะ เราก็ซื้อมาเปลี่ยนได้เรื่อยๆ เดี๋ยวนี้อะไหล่น้อย ต้องใช้ของเก่ามาเปลี่ยน ถ้าผมเลิก สามล้อก็หมดไป เหลือคันเดียวก็ขี่จนขี่ไม่ไหวล่ะ ออกมายังได้เงินบ้าง ได้ออกกำลัง แต่ก่อนเราทำด้วยความสนุก ตอนนี้ก็อย่างนั้นแหละ เราไม่ออกมาก็รำคาญ เราเคยออกมา เป็นไปตามอายุ ยังมีแรงอยู่ก็ออกมาปั่น ได้ยืดเส้นยืดสาย ไม่นั่งเฉาอยู่บ้าน ทำไปเรื่อยๆ แบบนั้นแหละ บอกไม่ถูก จะบอกสนุกก็ไม่สนุกหรอก ทุกวันนี้ออกมาบางวันก็ได้ บางวันไม่ได้เลย ก็หงุดหงิดหน่อย ได้เวลาก็กลับ พรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”

จรรญา พรมหอม

สามล้อปั่น

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

อ่านเสียงแก่งคอย เสียงของเมืองที่ก้าวข้ามบาดแผลประวัติศาสตร์มาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

WeCitizens ชวนผู้อ่านเรียนรู้เมืองแก่งคอย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้ แก่งคอยเปลี่ยนบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอ่านความคิด วิถีชีวิตผู้คนแก่งคอยได้ที่ WeCitizens : เสียงแก่งคอย, สระบุรี - WeCitizens Flip PDF…

1 year ago

ฟังเสียงนครสวรรค์ เมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

WeCitizens ชวนผู้อ่านเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางทางน้ำในอดีต นครสวรรค์จึงเป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในฐานะของเมืองที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวจีนโพ้นทะเล E-book ฉบับเสียงนครสวรรค์ฉบับนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ วัฒนธรรมชาวจีนและเทศกาลตรุษจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศและนานาชาติ และไปฟังเสียงผู้คนชาวนครสวรรค์ที่มองบ้านเมืองของตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…

1 year ago

แก่งคอย…ย้อนรอยสงครามโลกเปลี่ยนบาดแผลประวัติศาสตร์สู่เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากจะถูกจดจำจากเพลงดังที่มีชื่อเดียวกับชื่ออำเภอของ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพลงฮิตของคาราบาว ซึ่งสื่อถึงที่มาของชื่อ ‘แก่งคอย’ อย่าง ‘แร้งคอย’ หากไม่ใช่คนในพื้นที่ อาจนึกภาพไม่ออกว่าอำเภอของจังหวัดสระบุรีที่เป็นปากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และประตูสู่ภาคอีสาน มีความสำคัญอย่างไร? ไม่เพียงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำป่าสักและทางรถไฟ อำเภอแก่งคอย ยังเป็นจุดเริ่มต้น (ต่อจากอำเภอเมืองสระบุรี)…

1 year ago

ขอนแก่นโมเดล
The Legacy of City Development

เพราะเมือง คือ ผู้คน และผู้คน คือ ตัวแปรสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ความเจริญงอกงามทางวัฒนธรรมหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานคุณภาพชีวิต จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของคนในเมืองเป็นฐานสำคัญ กว่าทศวรรษที่ ‘ขอนแก่นโมเดล’ เป็นโมเดลการพัฒนาเมืองที่ได้รับการยอมรับ และพูดถึงในฐานะแนวคิดและปฏิบัติการการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด…

1 year ago

“ขอนแก่นเราไม่ใช่เป็นเมืองที่นั่งรอคนเข้ามาทำนู่นนี่ให้”

เมืองขอนแก่น ผู้คน กับการเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป           ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ อยู่ไกลโพ้นจากชายทะเล แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ หรือทรัพยากรธรรมชาติสำคัญก็น้อยนิด แต่มีคนที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเมืองกลุ่มใหญ่ที่กล้าคิดกล้าฝัน พยายามทำทุกลู่ให้ความหวังเป็นจริงได้ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ช่วงเวลาเพียงกึงศตวรรษนำพาเมืองขอนแก่น เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด  ‘ผู้คน และความร่วมมือ…

1 year ago

“สำนึกรักท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญของจิตสำนึกของคนขอนแก่น”

“เมื่อพูดถึงเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เราดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘พัฒนาเมืองสู่สากล สร้างสังคมแห่งความสุข’ การที่เมืองจะพัฒนาได้และสร้างสังคมที่เป็นสุข ต้องเริ่มที่ ‘คน’ คนที่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเมือง ยกตัวอย่างในกรณีที่เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น ถ้าเราจะพัฒนาขอนแก่นเป็นเมือง…

1 year ago