ตอนรับราชการ เป็นผู้บริหารด้วย ต้องอยู่กับงาน อยู่กับคน มีแต่เรื่องเครียด พอเกษียณปุ๊บ มาอยู่กับต้นไม้ มันเถียงเราไม่ได้ฮะ

“ผมรับราชการเป็นผู้บริหารของมหาวิทยาลัยการกีฬาแห่งชาติ วิทยาเขตกรุงเทพ เมื่อเกษียณอายุราชการมาแล้วก็ใช้เวลายามว่าง จริงๆ ทำตั้งแต่ก่อนเริ่มเกษียณแล้ว คือปลูกต้นไม้ เพราะสิ่งที่เราได้รับการปลูกฝังมาตั้งแต่เด็กคือเรื่องการดูแลต้นไม้ ก็ทำให้เราติดเป็นนิสัย การปลูกต้นไม้ของผมเริ่มจากปลูกในบ้าน ทดลองปลูกไปเรื่อย ตั้งแต่ไม้ผล ไม้ทานได้ เห็ด ผักสวนครัว แรก ๆ ใช้ปุ๋ยเคมีเพราะเป็นสิ่งที่เราเห็นอยู่ทุกวัน เคมีทำให้ต้นไม้โตเร็ว แต่ข้อเสียเยอะ เราเริ่มเห็นแล้วว่าสภาพดินมันแข็ง ต้องมาคลุมดินใหม่ สารฆ่าแมลงก็ต้องใช้เคมี พอเราใช้ เริ่มเห็นอันตราย มันคันที่มือ มีอาการแพ้ ผื่นขึ้น แล้วพอเรามีความรู้เพิ่มขึ้น รู้แล้วว่าทุกวันนี้ความปลอดภัยในการปลูกต้นไม้หรือปลูกผัก มันมีอันตรายเยอะ เพราะสารเคมีมันเข้ามาใช้ในสวน ใช้กับชาวบ้านเยอะ เห็นสารมะเร็งเกิดขึ้นในชุมชนเยอะมาก

เราก็เลยมาใช้สารอินทรีย์ในการดูแลต้นไม้ ศึกษาด้วยตนเองว่าอะไรที่ไม่ใช้เคมีกำจัดแล้วมันช่วยได้ ก็เริ่มจากการปรุงดิน ต้นไม้ต้องการ NPK (ธาตุอาหารไนโตรเจน ฟอสฟอรัส และโพแทสเซียม) ซึ่งเกิดจากพวกมูลสัตว์ ทำให้ดินโปร่งร่วนซุยใช้พวกแกลบดิน มะพร้าว มูลไส้เดือน เราเอามาปรุงดินก็เห็นความงอกงามเกิดขึ้น พอต้นไม้งอกงามแล้ว มาบำรุง พอดินเริ่มหมดสภาพ ไม้ไม่ค่อยโต เราก็มาศึกษาต่อ ว่าจะใช้อินทรีย์อะไรเข้าไปดูแล เช่น ทำปุ๋ยชีวภาพ ปุ๋ยฮอร์โมนนมสด ปุ๋ยฮอร์โมนไข่ พอต้นไม้งามก็ใช้น้ำส้มควันไม้มากำจัดแมลง ทดลองทำสารกำจัดแมลงโดยใช้สะเดา พริก เหล้าขาว น้ำส้ม ก็ทำให้ต้นไม้งาม ปลอดจากแมลงรบกวน ผักที่ปลูกก็ปลอดภัย เราเอามากินได้โดยไม่ต้องกังวล ผักหวาน กรอบ อร่อย

ทีนี้หลายหน่วยงานเห็นเราทำเกษตรอินทรีย์ มีองค์ความรู้ ก็ให้ช่วยไปถ่ายทอด เราเป็นครูอยู่แล้วเราก็ยินดีไปถ่ายทอดเรื่องการใช้ EM การปรุงดิน ดูแลต้นไม้ การใช้ฮอร์โมน การทำน้ำหมักชีวภาพ ให้ชุมชน ให้โรงเรียน ชาวบ้านได้ปลูกผักไว้กินโดยไม่เกิดอันตราย ถ้าเหลือใช้เหลือกินก็แจกจ่าย ถ้ามากจริง ๆ ก็ขายกัน นักเรียนปลูกผักไปทำอาหารกิน ก็เกิดประโยชน์ เด็กได้กินอาหารปลอดภัย แล้วผมเป็นวิทยากรให้สสส. เรื่องอาหารปลอดภัยด้วย ก็มีความคิดทำศูนย์เรียนรู้ชุมชน เป็นบ้านสวนครูตู่ อยู่ตรงหลังหมู่บ้านการ์เด้นโฮม คลอง 12 เป็นบ้านสวนที่เราคิดไว้ว่าจะเอาไว้ปลูกต้นไม้ ก็ทำเป็นแปลงผักยกแคร่ ให้ชาวบ้านมาเรียนรู้ มีพวกน้ำหมัก ฮอร์โมนขี้นก ใครไปใครมาก็แจกให้เขาไปใช้ พอเขาใช้ก็อยากทำเอง เราก็สอนเขา อย่างเช่นที่แคบ ๆ ในหมู่บ้าน เขามีแต่ปูน ไม่มีที่จะปลูก เรามีองค์ความรู้เรื่องการใช้ยางรถยนต์มาผ่า มาตัด เราก็จะสอนการกรีดยางเก่าทำเป็นภาชนะในการปลูกต้นไม้ แล้วศูนย์เรียนรู้ชุมชนก็จะไปเชื่อมโยงกับพื้นที่เรียนรู้ของเมืองสนั่นรักษ์ให้คนมาเที่ยวด้วย

ตอนรับราชการ เป็นผู้บริหารด้วย ต้องอยู่กับงาน อยู่กับคน มีแต่เรื่องเครียด พอเกษียณปุ๊บ มาอยู่กับต้นไม้ มันเถียงเราไม่ได้ฮะ แล้วมันเห็นความเจริญเติบโตขึ้นมา ก็เป็นความสุข กับชุมชนเราถ่ายทอดองค์ความรู้ เขารู้จักปลูกผักปลอดสารพิษกินเองแทนที่จะต้องไปซื้อ ทำให้คุณภาพชีวิตเขาดีขึ้น สิ่งที่เราได้กลับมาคือความสุข ได้มีการแลกเปลี่ยนกัน ได้ความรู้ใหม่ ๆ เพิ่มขึ้น แล้วย่านสนั่นรักษ์มันสงบดี ที่ทำงานอยู่คลอง 13 ย่านนี้อยู่แล้ว เราเห็นความสงบในชุมชน ไม่ค่อยมีอะไรหวือหวา ไม่ค่อยเป็นโรงงานอุตสาหกรรม ส่วนใหญ่มีอาชีพเกษตรกร แต่ในแง่นึงที่เขาทำสวนทำไร่ ทำเกษตรเคมีมาตลอด การจะไปเปลี่ยนความคิดของเขาก็ยากเหมือนกัน ผมเป็นประธานชุมชนทสม. (อาสาสมัครพิทักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมหมู่บ้าน กรมส่งเสริมคุณภาพสิ่งแวดล้อม) ด้วย มีหน้าที่ดูแลเรื่องสิ่งแวดล้อมในชุมชน มันมีปัญหาเรื่องมลพิษจากการเผาหลังเกี่ยวผลผลิต เราจะไปให้ความรู้เขาเรื่องหมักฟางหญ้าเป็นปุ๋ย เขาบอก โอ้ย กว่าจะได้ใช้เป็นเดือน ไม่ทันหรอก เราก็พยายามแทรกซึม อย่างน้ำหมักชีวภาพ ทุกคนรู้จัก ทำใช้เอง เขาเห็นประโยชน์ ตอบโจทย์ได้ แต่ปุ๋ยเคมี ยาฆ่าแมลงนี่ยาก เขายังต้องใช้อยู่ ก็ต้องใช้เวลาให้เขาเรียนรู้ไป”

ประกาศิต ทองอินศรี

บ้านสวนครูตู่ ปลูกผักปลอดสาร

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

CITY ON THE MOVE : CIAP ระยะที่ 2 บพท. ผนึกกำลัง 45 พื้นที่ รวมพลังพัฒนาเมืองน่า

ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี  ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…

4 weeks ago

CITY ON THE MOVE : ปลดล็อคศักยภาพท้องถิ่นใหม่ กับ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง

การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…

4 weeks ago

CITY ON THE MOVE :<br />สถาบันพัฒนาเมือง มิติใหม่งานพัฒนาเมือง

“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา   วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…

4 weeks ago

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

2 months ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

2 months ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

2 months ago