“ผมเกิดและโตบนในย่านยมจินดา เปิดร้านก๋วยเตี๋ยวตรงนี้มา 20 ปี เช่าเขาตั้งแต่ราคาหลักร้อยจนขึ้นมาเป็นหลักพัน ขณะที่ตึกแถวอื่นๆ มีค่าเช่าขึ้นไปถึงหลักหมื่น อยู่ตั้งแต่ถนนยมจินดายังคึกคัก ก่อนจะเงียบเหงาไปพักใหญ่ แล้วก็เริ่มกลับมามีชีวิตชีวาจากที่คนรุ่นใหม่เริ่มเห็นคุณค่าของการพัฒนาธุรกิจในย่านเมืองเก่า
ราว 10 กว่าปีก่อน มีทีมเทศบาลชุดหนึ่งจัดกิจกรรมให้ชาวบ้านในย่านเมืองเก่าเลือกรูปเก่าที่บ้านตัวเองมาคนละหนึ่งรูป นัดหมายกันที่ศาลเจ้าแม่ทับทิม และให้แต่ละคนเล่าถึงเบื้องหลังรูปถ่ายนั้นๆ จากที่ผมโตมาโดยไม่ค่อยสนใจคุณค่าของย่านตัวเองเท่าไหร่ กิจกรรมนั้นทำให้ผมอินกับชุมชนบ้านเกิดตัวเองไปเลย เพราะได้รู้ว่าเออ เมื่อก่อนท่าเรือประดู่เรามีเรือสำเภามาเทียบท่า มีคนลงไปดำกุ้งตรงนี้ เคยมีโรงหนังตั้งอยู่ หรือตึกเก่าในซอยนี้ ถ้าไม่โดนไฟไหม้ไปก่อน ตลาดเก้าห้องที่สุพรรณบุรีอาจไม่ได้เกิด เพราะตึกเขาสวยสู้ของเราไม่ได้เลย
นับแต่นั้นผมก็เลยเข้าร่วมกิจกรรมของ ‘ชมรมอนุรักษ์และฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง ถนนยมจินดา’ มาตลอด ก็เริ่มตั้งแต่ร่วมกับผู้ประกอบการจัดถนนคนเดินในย่าน มาพัฒนาเส้นทางการท่องเที่ยวบนถนนสายนี้เชื่อมกับแหล่งท่องเที่ยวอื่นในตัวเมืองร่วมกับ สสส. หรือล่าสุดที่ร่วมกับโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้จัดงาน ‘ยมจินเดย์’ จัดกิจกรรมเชิงสร้างสรรค์ในย่าน มีการฉายหนัง ทำเวิร์คช็อปศิลปะ มินิคอนเสิร์ต การนำชมบ้านเก่า และอื่นๆ ดึงดูดให้ทุกคนเห็นว่าถนนสายนี้ไม่ใช่แค่ย่านอนุรักษ์ แต่ยังเป็นพื้นที่ที่รองรับความคิดสร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่ได้ทุกคนด้วย
จริงอยู่ที่กระแสที่คนรุ่นใหม่หันกลับมาสนใจย่านเก่าและการทำธุรกิจในย่านเก่าช่วยให้ย่านยมจินดากลับมามีชีวิตชีวาอีกครั้ง แต่ผมก็ฝันอยากเห็นการเติบโตของย่านยั่งยืนกว่านี้ ปัจจุบันถนนสายนี้มีบ้าน 128 หลัง มีเปิดค้าขายเพียง 30 หลัง และมีร้านกาแฟประมาณ 15 หลัง นอกจากนั้นปิดไว้ เพราะเจ้าของย้ายไปอยู่ที่อื่นเสียส่วนใหญ่ จำนวนที่ปิดไว้มีมากกว่าครึ่ง บ้านเก่าสวยๆ ที่เป็นมรดกของย่านหลายหลังก็ปิดไว้ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่ามันเป็นพื้นที่ส่วนตัวของเขา แต่นั่นล่ะ ถ้ามีการเปิดบ้านกันมากกว่านี้ ยมจินดาจะเป็นย่านเมืองเก่าที่คึกคักขึ้นมากเลย
ความที่ผมทำงานชมรม จึงเห็นว่าตลอด 10 ปีมานี้ มีหน่วยงานต่างๆ นำงบประมาณมาจัดกิจกรรมในย่านยมจินดาราว 30 ล้านบาทได้ แต่เกือบทั้งหมดเป็นการลงไปกับการจัดอีเวนท์ ซึ่งไม่ใช่ไม่ดีนะ ดีเลย แต่ก็เหมือนมาจุดพลุแล้วหายไป ย่านเรายังคงไม่มีโครงสร้างพื้นฐานใดๆ ที่เอื้ออำนวยต่อการท่องเที่ยว ที่จอดรถยังไม่มี หรืออย่างน้อยรถรับส่งนักท่องเที่ยวขนาดเล็กเชื่อมจุดต่างๆ ก็ควรจะมีได้แล้ว
ควบคู่ไปกับการจัดกิจกรรมที่ทางชมรมผมร่วมทำกับชาวชุมชนอยู่แล้ว จึงคิดว่าหน่วยงานต่างๆ น่าจะมาร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานในย่านเราด้วย ผมเชื่อว่าถ้าทุกอย่างพร้อม ยมจินดาเป็นแลนด์มาร์คสำคัญที่เชื่อมได้ทั้งเจดีย์กลางน้ำ ป่าโกงกาง วัดลุ่มมหาชัยชุมพล ศาลเจ้าพ่อตากสิน ศูนย์การเรียนรู้พระเจ้าตาก ทั้งหมดจะช่วยดึงเม็ดเงินทางการท่องเที่ยวให้ระยองได้มากกว่านี้อีกเยอะ”
เกียรติศักดิ์ แซ่ไล้
เจ้าของร้านก๋วยเตี๋ยวหมูเลียงบ้านสะพานไม้
ชมรมอนุรักษ์และฟื้นฟูเมืองเก่าระยอง ถนนยมจินดา