ป้าเป็นคนตะเคียนเลื่อน (ตำบลตะเคียนเลื่อน อำเภอเมืองนครสวรรค์) ปลูกผักพื้นบ้านและทำเกษตรตามวิถีธรรมชาติมาหลายสิบปีแล้ว ป้าทำเพราะเห็นว่าเราปลูกอะไร เราก็กินแบบนั้น ก็เลยไม่ใช้เคมี เพราะเราไม่อยากกินเคมีเข้าไป
ใช่แล้ว จะบอกว่าป้าทำมาก่อนที่จะเข้าใจเรื่องเกษตรปลอดภัยหรือเกษตรอินทรีย์ก็ได้ ถึงแม้ตอนหลังป้าอยากทำสวนป้าเป็นออร์แกนิก 100% แต่ก็พบว่ามีเงื่อนไขหลายประการที่ยังทำไม่ได้ ซึ่งก็ไม่เป็นไร เราทำเกษตรปลอดภัยที่เรามั่นใจกับผลผลิตเราได้ไปก่อน แล้วเดี๋ยวค่อยๆ ขยับต่อไป
พอมารู้จักกฎบัตรนครสวรรค์ จะบอกว่าเจอเพื่อนร่วมอุดมการณ์เดียวกันก็ได้ เพราะได้รู้จักเครือข่ายเกษตรกรที่ทำอาหารปลอดภัยเหมือนเรา และเขาก็ช่วยหาตลาดให้ พร้อมสร้างแนวร่วมส่งเสริมอาหารปลอดภัยให้คนในเมืองได้กิน
ที่สำคัญคือการได้ร่วมทำพื้นที่การเรียนรู้ด้านการเกษตรที่ ‘ฟาร์มสุขสมใจ’ ในตัวเมือง เหมือนเราได้ถ่ายทอดองค์ความรู้ให้กับคนรุ่นหลังหรือผู้ที่สนใจ สนับสนุนให้เขาทำการเกษตรเองที่บ้าน หรือชักจูงให้เกษตรรายอื่นๆ หันมาทำเกษตรปลอดภัย หรือถ้าทางกฎบัตรได้องค์ความรู้อะไรใหม่ๆ เขาก็ชวนให้เราไปเรียนรู้ ซึ่งเป็นประโยชน์อย่างมาก
ขณะเดียวกัน เราก็ช่วยเหลือผู้ที่เข้ามาเรียนรู้กับเราในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การหาต้นพันธุ์ กิ่งพันธุ์ ปุ๋ย รวมไปถึงหาตลาด และช่องทางการขายออนไลน์อีกด้วย เราก็พยายามขยายเครือข่าย ชี้ให้เห็นว่าทำแบบนี้มันดียังไง ลดต้นทุนการผลิต ผู้ผลิตก็ปลอดภัย ดีต่อสุขภาพทั้งผู้ผลิตและผู้บริโภค ที่สำคัญคือเราได้บุญ เพราะเราไม่ได้ส่งอาหารที่เป็นพิษให้คนอื่นกิน
ป้ามาทำตรงนี้แล้วมีความสุข วัดค่าเป็นราคาไม่ได้ เพราะเราเห็นทุกคนเป็นเพื่อนที่มีความหวังดีต่อคนอื่นๆ เหมือนกัน แน่นอน ป้าทำฟาร์มป้าก็คิดถึงการทำธุรกิจเพื่อหาเงิน เราก็ทำให้เราอยู่ได้ แต่ในอีกมุม พอมาทำพื้นที่การเรียนรู้ เราคิดว่ามันคือการแบ่งปันประสบการณ์ แบ่งปันความรู้ และแบ่งปันเครือข่าย เกื้อกูลซึ่งกันและกัน ในขณะเดียวกันเมื่อพวกเราเกษตรกรมีเครือข่าย เราก็สามารถต่อรองกับตลาดและต่อรองกับพ่อค้าคนกลางได้ด้วยเช่นกัน
ถ้าถามว่าเด็กรุ่นใหม่สมัยนี้ควรเรียนรู้อะไรให้มากๆ ป้าคิดว่าคือเรื่องบุญนิยมนะ ไม่ใช่ทุนนิยม เพราะความคิดเรื่องการทำบุญ หรือการแบ่งปันผู้อื่นโดยไม่หวังผลตอบแทนมันค่อยๆ เลือนหายไปจากสังคมสมัยใหม่แล้ว อยากให้คนรุ่นใหม่ได้ตระหนักว่าการให้มันมีความสุขไม่ใช่แค่ผู้รับ แต่ผู้ให้ก็มีความสุขที่ได้ให้ ได้แบ่งปันด้วยเช่นกัน”
คำปัน นพพันธ์
เจ้าของไร่บ้านคำปัน และสมาชิกกลุ่มเกษตรและอาหารปลอดภัย กฎบัตรนครสวรรค์
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…