“ผมเริ่มเล่นดนตรีกลางคืนระหว่างที่เรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ จนเรียนจบออกมาก็ไม่ได้ทำงานตรงสายที่เรียน เป็นนักดนตรีกลางคืนอย่างเดียว เล่นตั้งแต่ที่มังกี้คลับยังเปิดอยู่ ที่วอร์มอัพ และอื่นๆ ต่อเนื่องมา 12 ปี จนแม่ตามตัวให้ผมกลับไปช่วยธุรกิจที่บ้านที่ลำปางเมื่อราว 5 ปีที่แล้ว ก็เลยตัดสินใจเลิกเพื่อกลับมาอยู่บ้าน
ผมเรียนมัธยมที่โรงเรียนบุญวาทย์วิทยาลัย จากนั้นก็ไปอยู่เชียงใหม่มา 16 ปี ระหว่างนั้นมีโอกาสกลับบ้านบ้าง แต่การกลับมาอยู่ลำปางแบบเต็มเวลา รวมถึงเปลี่ยนรูปแบบงานโดยสิ้นเชิงเลยก็ทำให้ผมใช้เวลานานเหมือนกันกว่าจะปรับตัวได้
เพราะถึงลำปางจะไม่ใช่เมืองเล็กแล้ว แต่พูดถึงความหลากหลายทางด้านศิลปวัฒนธรรมร่วมสมัย ก็ถือว่ายังห่างไกลจากเชียงใหม่มาก อย่างพวกร้านเหล้าก็จะเปิดเพลงคล้ายกันไปหมด ไม่ได้มีทางเลือกมากนัก ตอนกลับมาใหม่ๆ หลักๆ ผมจะไปนั่งที่ Mao Deep Café จนผ่านไปปีหนึ่ง มีรุ่นน้องที่โรงเรียนไปได้อาคารตรงเชิงสะพานรัษฎา แล้วเขาก็เปิดร้านกันตรงนั้น ผมก็เลยย้ายไปนั่งประจำที่นั่น นั่งบ่อยๆ เข้าเขาก็ชวนมาร่วมหุ้น ซึ่งเขาก็ให้อิสระผมในการเลือกเพลงหรือเลือกวงดนตรีมาเปิด ผมก็เลยลองนำเสนอเพลงอินดี้ที่ต่างออกไปจากร้านส่วนใหญ่ในลำปางดูบ้าง คือเลือกให้ตอบโจทย์เราก่อน ซึ่งทุกคนก็โอเค ร้าน The Gravity Club จึงกลายมาเป็นธุรกิจที่เติมเต็มชีวิตผม
ร้านนี้เปิดมาได้ 5 ปีแล้วครับ ตอนกลางวันผมจะช่วยธุรกิจที่ครอบครัว พอตกเย็นก็มาเปิดร้าน ผมทำทั้งดูแลจัดการภายในร้าน เลือกเพลงที่จะเปิด และทำอาหาร พอโควิด-19 เริ่มซา แล้วรัฐบาลอนุญาตให้กลับมามีการแสดงดนตรีสดได้ ด้วยความที่ทางร้านกระทบหนักเอาการ เราก็เลยประหยัดเงินลงด้วยการเลือกจ้างวงดนตรีแค่ช่วงสุดสัปดาห์ ส่วนวันธรรมดา ผมก็จะเล่นดนตรีโฟล์คในร้านบ้าง ลูกค้าของร้านส่วนหนึ่งเป็นคนทำงานที่ชอบฟังเพลง ส่วนอีกกลุ่มใหญ่ๆ คือนักศึกษาธรรมศาสตร์ครับ คือรุ่นพี่เขามากันก่อน แล้วก็ชวนรุ่นน้องตามๆ กันมา กลายเป็นร้านประจำของพวกเขา
เรื่องทำเลของร้านนี้ก็เป็นส่วนสำคัญครับ เราได้ตรงเชิงสะพานรัษฎา ติดริมน้ำวัง คนมากินข้าวหรือมาดื่มก็ได้เห็นวิวทั้งสะพานและแม่น้ำ เป็นทิวทัศน์แลนด์มาร์คของเมืองเลย ส่วนเสาร์-อาทิตย์ คนมาเดินกาดกองต้า เขาก็แค่ข้ามสะพานมานั่งได้ง่ายๆ และก็เพราะผมได้เห็นทิวทัศน์แบบนี้ทุกวัน เลยทำให้ผมคิดว่าเอาเข้าจริงถ้าหน่วยงานราชการเขาทำงานกับนักออกแบบ เมืองเราสวยกว่านี้ได้อีกเยอะนะครับ
อย่างช่วงเทศกาล เขาจะประดับไฟสะพาน ตบแต่งทัศนียภาพในเมือง สวยเลย แต่พอพ้นเทศกาล เขาก็เอาออก ปล่อยให้มันมืดๆ ทึมๆ แบบเดิม คือผมมองบางเรื่องก็ไม่ได้ใช้งบประมาณอะไรเยอะ ถ้าเขาทำต่อเนื่อง รวมถึงทำที่อื่นๆ มีการจัดการเรื่องไลท์ติ้งดีๆ ไม่ต้องแฟนซีหวือหวา แค่เรียบๆ แต่ให้สถาปัตยกรรมมันโดดเด่นขึ้นมา คือพื้นฐานของเมืองเก่าลำปางนี่สวยอยู่แล้วนะครับ ทั้งสะพาน ทั้งทิวอาคาร หรือวัดวาอาราม อาจจะเติมแค่วิธีการที่จะทำยังไงให้มันโดดเด่นหรือเสริมเสน่ห์ขึ้นมา ถ้าเมืองมีสุนทรียะ มูลค่าเพิ่มก็จะตามมาเองครับ”
สุเมธ เชาว์เสาวภา
หุ้นส่วนร้าน The Gravity Club
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…