“ทวดพี่เคยเป็นทหารของซุนยัดเซ็น และเป็นเพื่อนกับเจียง ไคเชก ก่อนจีนกำลังจะแตก ทวดพี่จึงตัดสินใจอพยพมาเมืองไทย มาตั้งรกรากอยู่พิษณุโลก”

“ทวดพี่เคยเป็นทหารของซุนยัดเซ็น และเป็นเพื่อนกับเจียง ไคเชก สมัยนั้นจีนกำลังจะแตกเพราะสงครามกลางเมือง ผู้คนก็ต่างอพยพออกจากประเทศ เจียง ไคเชก ไปอยู่ไต้หวัน ส่วนทวดนั่งเรืออพยพมาอยู่เมืองไทย มาขึ้นฝั่งที่ย่านที่ทุกวันนี้คือตลาดใต้ เมืองพิษณุโลก

สมัยที่ทวดพี่มาที่นี่เป็นยุคที่คนจีนอพยพมาประเทศไทยกันมากที่สุด รวมถึงเมืองพิษณุโลก มาถึงท่านก็ทำหลายอย่างจนเก็บเงินตั้งตัวเปิดร้านขายของได้ สมัยก่อนทวดชื่อ เตียก้ำชอ ยังไม่ได้สัญชาติไทย กระทั่งในหลวง รัชกาลที่ 5 เสด็จมาพิษณุโลก ทวดท่านก็รวบรวมพ่อค้าชาวจีนในตลาดมาตั้งซุ้มขบวนรับเสด็จ ในหลวงมาเห็นเข้า ก็ทรงประทับใจ พอเสด็จกลับ พระองค์ก็มีดำริโปรดเกล้าให้พระราชทานชื่อไทยให้ทวดเป็น ขุนกิตติกรพานิช ซึ่งนั่นยังทำให้ท่านได้สัญชาติเป็นคนไทย

ความที่ทวดมีหัวทางการค้าและเป็นคนขยัน ท่านจึงเป็นเจ้าของที่ดินหลายแห่งในพิษณุโลก ซึ่งต่อมาท่านก็ยกให้เป็นที่ดินสาธารณะประโยชน์หลายแห่ง เช่นที่ตั้งของโรงเรียนจีน โรงเจ มูลนิธิ และศาลเจ้า

พอหมดรุ่นทวด ก็มาถึงรุ่นอากงพี่ ท่านเป็นคนก่อตั้งโรงภาพยนตร์เจริญผล บริเวณวงเวียนหอนาฬิกา นั่นเป็นยุคหลังไฟไหม้ใหญ่ทั่วเมืองเมื่อปี 2500 ซึ่งรุ่นอากงนี่แหละที่เป็นรุ่นบุกเบิกสร้างอาคารคอนกรีตทั่วเมืองที่เราเห็นกันอยู่ทุกวันนี้ แม่พี่ตอนสาวๆ ก็มาช่วยอากงขายตั๋วที่โรงหนัง ส่วนลุงพี่ ก็ไปเซ้งโรงหนังศิวาลัยบริเวณตลาดใต้ และเปลี่ยนชื่อเป็นโรงหนังกิตติกรตามชื่อของทวด ขณะที่โรงหนังเจริญผลจะฉายหนังฝรั่ง โรงหนังกิตติกรของลุงจะฉายหนังจีนของชอว์บราเธอร์สเป็นหลัก เลยไม่ได้เป็นคู่แข่งกัน ก็ทำอยู่ได้หลายปี จนถึงยุคที่วิดีโอเข้ามา โรงหนังก็เริ่มเสื่อมความนิยมลง โรงหนังกิตติกรปิดก่อน แล้วตามมาด้วยเจริญผล

พี่ยังทันยุคที่โรงหนังยังรุ่งเรืองอยู่นะ สมัยนั้นพิษณุโลกมันไม่มีสถานบันเทิงตอนกลางคืนเยอะ วัยรุ่นไม่รู้จะไปไหน เขาก็นัดกันมาดูหนัง รอบโรงหนังจึงมีร้านอาหารและขนมขายเต็มไปหมด สมัยนั้นโรงหนังจะฉายแบบมีนักพากย์ ผู้ชายคนนึง ผู้หญิงคนนึง ผู้ชายก็จะพากย์เสียงตัวละครเพศชายทั้งหมด ผู้หญิงก็พากย์เพศหญิง ส่วนวิธีการประชาสัมพันธ์ ก็จะมีช่างศิลป์เขียนป้าย และมีรถแห่คอยโฆษณาว่าสัปดาห์นี้ฉายเรื่องอะไร   

หลังโรงหนังปิดตัว ความที่ย่านนี้มันมีร้านอาหารมาเปิดอยู่แล้ว ก็กลายมาเป็นย่านอาหารการกินใจกลางเมืองเลย ร้านอย่างข้าวแกงประชานิยม ไอศกรีมเจริญผล ราดหน้า ผัดไทย ก๋วยเตี๋ยวลูกชิ้นเรือธง เหล่านี้คือร้านที่อยู่มาตั้งแต่สมัยที่มีโรงหนัง ส่วนถามว่าทำไมจึงไม่เห็นอาคารโรงหนังหลงเหลืออยู่แล้ว ก็เพราะมันถูกไฟไหม้ช่วงปี 2540 จึงเหลือแต่ที่ดินเปล่าๆ
 
ส่วนตึกที่เราอยู่นี่ เป็นตึกที่สร้างหลังไฟไหม้ใหญ่เมือง สร้างเสร็จปี พ.ศ. 2500 หลังจากไฟไหม้เอาเรือนไม้เก่าหายหมดเมื่อช่วงต้นปี อากงพี่เป็นคนสร้างก็ยกให้แม่พี่ต่อ และทุกวันนี้พี่ใช้เป็นที่สอนพิเศษ แม่บอกว่าอากงขนทรายจากแม่น้ำน่านใกล้ๆ นี่แหละมาก่อสร้าง  

ก่อนไฟไหม้ใหญ่ คนในตลาดเขาสร้างเรือนไม้ไว้ริมแม่น้ำเลยนะ มีระเบียงยื่นออกไป จนไฟไหม้เขามีการจัดระเบียบ มีการวางผังเมืองใหม่ เรือนไม้แบบนี้จึงไม่เหลือแล้ว แต่พี่ยังทันสมัยที่มีคนปลูกเรือนแพลอยอยู่บนแม่น้ำ เมื่อก่อนก็เป็นเสน่ห์แหละ แต่ความที่อยู่กันเยอะ มันเลยดูไม่ถูกสุขลักษณะ เทศบาลเลยสั่งให้เก็บไปหมด

เคยคิดว่าอยากจะมีเรือนแพสักเรือนเหมือนกัน แต่สมัยก่อนยังไม่มีถังน้ำมัน เขาจะใช้ไม้ไผ่มาผูกเป็นแพเพื่อทำให้บ้านลอยน้ำได้ ค่าบำรุงรักษาจึงสูงมาก จนหลังๆ มีถังน้ำมันมาเป็นทุ่น เลยถูกลง ทุกวันนี้จะเห็นร้านอาหารบนแพเปิดทำการอยู่หลายแห่งตลอดแม่น้ำน่าน ส่วนใหญ่ก็ลอยจากถังน้ำมันเปล่านี่แหละ

ส่วนใหญ่ก็ฟังเขาเล่ามา พี่ไม่ได้อายุมากพอจะเห็นทุกอย่างที่เล่าไปหรอก แต่ก็อายุมากพอจะเห็นความเปลี่ยนแปลงหลายๆ สิ่งในย่านตลาดใต้แห่งนี้ ซึ่งว่าไปมันก็เปลี่ยนไปเร็วมากเลยนะ จากยุคโรงหนัง มาเป็นร้านเช่าวิดีโอ สักพักก็ไม่เหลือร้านเช่าวิดีโอสักแห่งในเมือง หรือจากยุคที่พิษณุโลกเป็นย่านกลางคืนที่คึกคักมากๆ จนมันมาซบเซาในช่วงโควิด

มีเรื่องหนึ่งที่สะท้อนใจเรามากที่สุดเกี่ยวกับยุคสมัย อันนี้ได้ยินแม่เล่ามาว่า สมัยทวดเสียชีวิต ความที่ท่านเป็นเพื่อนกับเจียงไคเชก และผูกพันกับจีนคณะชาติที่ไต้หวันมาก พอจะทำพิธีศพ เราจึงต้องเขียนจดหมายส่งไปไต้หวัน และต้องเก็บศพทวดไว้เกือบเดือน เพื่อรอจดหมายแสดงความเสียใจจากเจียงไคเชก นั่นล่ะ จนจดหมายมาถึง ถึงจะเผาศพท่านได้ คือถ้าเป็นสมัยนี้ เราส่งไลน์แป๊บเดียว ก็ทราบเรื่องไปถึงไต้หวันแล้ว”    

จิตรลดา เล็งประพันธ์
ทายาทรุ่นที่ 4 ของขุนกิตติกรพานิช

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

CITY ON THE MOVE : CIAP ระยะที่ 2 บพท. ผนึกกำลัง 45 พื้นที่ รวมพลังพัฒนาเมืองน่า

ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี  ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…

4 weeks ago

CITY ON THE MOVE : ปลดล็อคศักยภาพท้องถิ่นใหม่ กับ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง

การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…

4 weeks ago

CITY ON THE MOVE :<br />สถาบันพัฒนาเมือง มิติใหม่งานพัฒนาเมือง

“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา   วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…

4 weeks ago

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

2 months ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

2 months ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

2 months ago