“หลวงปู่ไต่ฮงกง ท่านเป็นพระ ช่วยเหลือคนตกทุกข์ได้ยาก เก็บศพไร้ญาติ สร้างถนนหนทางสะพาน จนสำเร็จเป็นพระที่ชาวจีนนับถือมาก องค์เดียวกับที่มูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ศาลเจ้าไต่ฮงกงรังสิตอัญเชิญท่านมาประดิษฐาน รวมถึงเทพเจ้าศักดิ์สิทธิ์อย่างจี้กง เจ้าพ่อกวนอู เทพไท้ส่วยเอี๊ยที่มาแก้ปีชง หลวงพ่อโสธร คนก็มาไหว้เพราะศักดิ์สิทธิ์ ศาลเจ้าเมื่อก่อนเล็ก ๆ คนมีจิตศรัทธาบริจาคก็พัฒนาสร้างไปเรื่อย ๆ จนมาจดทะเบียนจากสมาคมเป็นมูลนิธิรวมใจรังสิตปทุมธานี (ไต่ฮงกงรังสิต) ช่วยเหลือคนในตำบล ไฟไหม้ น้ำท่วม มีอุทกภัย มีสิ่งของไปแจก คนมาบริจาคโลงศพ ข้าวสาร อาหารแห้ง เสาร์อาทิตย์มีโรงทาน ใครเข้ามาก็มาดื่มน้ำ กาแฟ กินก๋วยเตี๋ยว กินโจ๊ก คนในตลาดเอาผลไม้มาไหว้ก็วางไว้ให้แจก วนไปแบบนี้ ได้มาก็แจก วันเสาร์อาทิตย์ก็มีโรงเรียนสอนภาษาจีนกลางให้เด็กนักเรียน เด็กเห็นวัฒนธรรมจีนว่ามีอะไร ติดตัวเขาไปก็ดี ตอนนี้คนรุ่นใหม่เข้ามาเยอะ มีคนสืบทอดต่อเนื่อง วัฒนธรรมก็ไม่หายไป แล้วปีนึงก็จัดหลายเทศกาล ปีใหม่ ตรุษจีน กินเจก็มีขบวนแห่ศาลเจ้าไปรอบตลาด งานทิ้งกระจาดก็ใหญ่ ไม่ต่ำกว่าห้าพันคนที่มา ให้คนเข้ามารับของแล้วก็วนออก ไม่มีแย่งกันรับ
ผมอยู่ในพื้นที่ ประสบการณ์ทำงานในพื้นที่ชุมชน ผมไม่กลัวใคร ปากไวใจถึง แล้วได้ผู้ใหญ่ดีคนในเขตนับถือ เราตั้งใจทำเต็มที่ ก็เลยสนุกกับการทำงานสังคม เห็นปุ๊บก็ทำเลย ไฟดับริมทางก็ยกหูบอก ผ่านไปเห็นน้ำขึ้นที่ประตูน้ำจุฬาลงกรณ์ก็รีบโทรบอกเจ้าหน้าที่ เราไม่อยู่เฉย ในด้านเทศบาลนครรังสิต นายกตรีลุพธ์ก็เป็นคนรุ่นใหม่ ไฮเทค ดิจิทัล ผมว่าเขาโอเคนะ ให้โอกาสเขาพิสูจน์ตัวเอง ส่วนเฮียฮุย (ครรชิต อมรทิพย์รัตน์ ประธานมูลนิธิรวมใจรังสิตปทุมธานี) ก็หัวรุ่นใหม่พอสมควร ประธานทำ เราก็ลุย ทำแล้วมีความสุข สนุก มีเพื่อน มีทั้งเรื่องที่มองไม่เห็น แต่เราเจอบ่อย เช่น ได้ยินอากงมาพูด ท่านมาเตือน อย่างล่าสุดผมมาเปลี่ยนไฟ ก็ไปซื้อหลอดไฟโล่ง ๆ มาติด กะให้สว่าง ๆ แต่มันเหมือนสปอตไลต์ ไฟมันจ้า พอกลับบ้านไปนอน ได้ยินท่านบอก “อั๊วแสบตา” เราก็ไปเอาโคมมาครอบ ไฟก็ไม่จ้ามากละ
โรงทานที่ทำอยู่ตรงหน้าโรงเรียนสอนภาษาจีน เดิมทีก็ตั้งตู้ เอามาม่ามาใส่ เพิ่มกาแฟ ทำไปทำมาก็ดี กลางวันเลี้ยงก๋วยเตี๋ยวดีกว่า เย็นเด็กไม่มีอะไรกิน โจ๊กดีกว่า ใครจะกินก็กิน เราเอาเงินจากที่คนมาทำบุญ ผู้ปกครองเห็น คนอื่นเห็น ก็มาขอเป็นเจ้าภาพ เรามีความสุขว่ารู้จักให้ก่อน อย่าไปคิดว่าได้อย่างเดียว คนที่เขารับไปบางทีเขามีศักยภาพ เขาอยากจะให้เหมือนเรานี่แหละ แต่เขาไม่รู้จะไปให้ที่ไหนที่มันให้แล้วรู้สึกมีความสุขด้วย อย่างนี้คนมา ดูสิ เด็กกิน ผู้ใหญ่กิน ยิ้มแย้ม อยากเป็นส่วนหนึ่งของการให้ ไม่ต้องเอาเงินมาอย่างเดียว มาร่วมตักร่วมแจกก็ได้ ช่วยกันคนละนิดคนละหน่อย พอรวมกันมันก็มาก อันดับแรกคือคุณกล้าให้ หรือคุณคิดว่า “น่าจะ” ให้ มันก็ไม่เกิด มองหน้ากัน อยากทำ ก็ทำ ไม่ไปคิดเล็กคิดน้อย อย่าไปคิดว่าคนนี้รวยแล้วมากิน ไม่มีเรื่องของรวยจน
ความทุกข์ของผมทุกวันนี้คือหิว ไม่มีกิน แต่พอกินอิ่มก็หายทุกข์ ความสุขที่ยั่งยืนคือสร้างใจให้ยอมรับทุกอย่าง ยิ้มได้แม้กระทั่งมีความทุกข์ อยู่อย่างพอดี ๆ มีเยอะก็ใช้ มีน้อยก็ประหยัด ซึ่งกว่าจะทำได้ก็ใช้เวลาหลายปีนะ ก่อนนี้มีตัวตนเยอะ ทิฐิเยอะ จมทุกข์กับคนที่มาด่าเรา จนวันหนึ่งรู้สึกเหนื่อยที่ไปเครียดกับเรื่องพวกนี้ แล้วมาเข้าใจเรื่องตัวกูของกู หลักธรรมอิทัปปัจจยตา บวชเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อปัญญา วัดชลประทานฯ ได้ไปอยู่กับท่านพุทธทาส อยากทำอะไรต้องตั้งจิต ทุกอย่างอยู่ที่จิตที่แน่วแน่ เราถึงได้โล่ง แล้วมาถึงจุดที่ว่ามีความสุขกับการทำงานที่เป็นการกุศล การทำงานที่ไม่อิงกับผลประโยชน์ของใคร ได้เอาลมหายใจมาสร้างประโยชน์ แต่การเป็นจิตอาสาคือทำเสร็จแล้วสามารถดึงใจของคนเข้ามาอยู่กับเราได้ อยู่กับชุมชนได้ และพร้อมจะเดินหน้าไปด้วยกัน ไม่ใช่จิตอาสาเพราะทำเพื่อเอาชนะ เพื่อยกตัวเองให้มีหน้าตา หากทำงานอาสาแต่ยึดตัวเองเป็นหลัก ไม่ฟังใคร กลายเป็นทำให้ชุมชนแตกแยก นี่คือข้อเสียของการเป็นจิตอาสาที่หลายคนลืม อันนี้อันตรายที่สุดเพราะผมเคยผ่านมาแล้ว บางเรื่องมันเลวร้ายลง แม้กระทั่งสถานที่ที่คนเคารพนับถือก็ทำให้มันจาง ถึงเราจะชนะแต่มันเกิดความพ่ายแพ้ทั้งชุมชน ทุกคนที่มาช่วยกันที่ศาลเจ้าก็เหนื่อยแต่มีความสุขนะ ไปอยู่ที่อื่นไม่มีคุณค่า มาอยู่ที่นี่ รู้สึกตัวเองมีคุณค่าโดยที่ไม่ต้องมีใครมาชม มันเป็นศรัทธาที่ต้องลงมือทำ”
สุนทร โชคธนอนันต์
ศิษย์อากง มูลนิธิรวมใจรังสิตปทุมธานี (ไต่ฮงกงรังสิต)