“ปีแรกบีจะลงพื้นที่กับอาจารย์เอ (รศ.ดร. ผณินทรา ธีรานนท์) เป็นหลักก่อน ไปสื่อสารกับชุมชนและหน่วยงานต่างๆ ในเขตเทศบาลเมืองพะเยาว่าเรากำลังทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ และเราทุกคนจะได้ประโยชน์อะไรจากโครงการนี้ ส่วนน้องๆ คนอื่นๆ จะเป็นผู้ช่วยนักวิจัยแยกกันไป จะทำพวกสืบค้นงานวิจัย งานสถิติ ประสานงาน หรือทำเอกสาร
เราไม่รู้จักกันมาก่อน มาเจอกันที่นี่ ทุกคนมีพื้นเพต่างกัน บีเรียนรัฐศาสตร์ ต้องตาเรียนบริหารธุรกิจ ส่วนแตงกวาและเนสเรียนวิทยาศาสตร์สิ่งแวดล้อม เอาจริงๆ แม้ทุกคนจะมีความรู้และทักษะเรื่องการสนับสนุนงานวิจัย แต่นอกจากบี ก็ไม่มีใครได้ลงพื้นที่ทำงานวิจัยเชิงสังคมมาก่อน
ซึ่งแน่นอน ในช่วงแรกๆ กระทั่งพวกเราเองที่เป็นผู้ช่วยนักวิจัยก็ยังไม่ค่อยเข้าใจดีนักว่าโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้คืออะไร การทำงานของพวกเราจึงเป็นการทำความเข้าใจและเรียนรู้ร่วมกัน ก่อนออกไปประสานงาน และสื่อสารกับคนอื่นๆ เพื่อให้ทุกคนเห็นภาพตรงกันว่าการที่เราได้มาเรียนรู้ร่วมกันนี่แหละที่จะช่วยยกระดับทักษะและองค์ความรู้เฉพาะของผู้คนและชุมชนของเราเองได้ ซึ่งจะนำไปสู่การสร้างอาชีพหรือพัฒนาธุรกิจในภาพรวมของเมืองพะเยา
ความโชคดีของพวกเราก็คือนอกจากมีโอกาสได้ทำงานกับชุมชน ความที่เราทำโครงการที่ชวนนวัตกรต่างๆ มาให้ความรู้แก่ผู้คน ก็ทำให้เราได้ความรู้และทักษะจากนวัตกรไปด้วย ก็ตั้งแต่งานหัตถกรรม สบู่ น้ำพริก ขนม ไปจนถึงทำบ้านดินเลยค่ะ (หัวเราะ) และในขณะเดียวกัน เพราะเราต้องประสานงานในโครงการวิจัย จึงได้ทักษะการเป็นพิธีกร การทำสื่อ ไปจนถึงการตัดต่อวิดีโอด้วย เหนื่อยเหมือนกัน แต่ก็สนุกที่ได้เรียนรู้สิ่งใหม่ๆ ผ่านการทำงาน
ที่สำคัญคือการได้เปิดโลก เพราะจากที่เราทำแต่งานในออฟฟิศ พอลงพื้นที่พูดคุยกับชุมชนที่หลากหลาย รวมถึงหน่วยงานต่างๆ จึงได้รู้ว่าแต่ละคนมีมุมมองอย่างไร หรือคิดจากฐานความคิดแบบไหน ทำให้เราได้มุมมองใหม่ๆ และทักษะการทำความเข้าใจผู้คนเพิ่มเข้ามา
รู้สึกดีใจค่ะที่โครงการลุล่วงมาด้วยดี โดยเฉพาะอย่างยิ่งที่ได้เห็นพี่ๆ ลุงๆ และป้าๆ ในชุมชนที่ร่วมกับโครงการและสามารถต่อยอดไปสู่อาชีพใหม่ๆ หรือทำให้ธุรกิจที่พวกเขาทำอยู่แล้วมีรายได้เพิ่มมากขึ้นจริงๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งพี่ๆ จากกลุ่มคนหูหนวกพะเยา ที่พวกเขาเหมือนเริ่มต้นจากศูนย์ พอโควิดมาก็หารายได้ไม่ได้ สื่อสารกับใครก็ลำบาก แต่พอได้มาเรียนรู้กับโครงการเรื่องการทำน้ำพริก ก็สามารถต่อยอดไปเป็นอาชีพใหม่ได้จริง และมีความกระตือรือร้นในการพัฒนาสูตรไปขายกับเครือข่ายคนหูหนวกในจังหวัดอื่นๆ ตามงานต่างๆ
เห็นแบบนี้ก็รู้สึกว่าสิ่งที่เราช่วยนักวิจัยทำโครงการมีความสำเร็จที่เป็นรูปธรรมอย่างน่าชื่นใจ และประสบการณ์จากโครงการก็ยังสอนพวกเราด้วยว่า
ถ้าไม่หยุดเรียนรู้ ชีวิตก็จะไม่มีทางพบกับทางตัน เช่นที่เราพบโอกาสและความเป็นไปได้ใหม่ๆ จากสิ่งที่เราได้เรียนรู้ในโครงการนี้”
นางสาวนันท์นภัส สำเภาเงิน (ต้องตา)
นางสาวอภิชญา ใจด้วง (เนส)
นางสาวมารศรี เงินเย็น (บี)
นางสาวรัตนาภรณ์ รัตนากรไพบูลย์ (แตงกวา)
ผู้ช่วยนักวิจัยโครงการพะเยาเมืองแห่งการเรียนรู้
อ่าน WeCitizens เมืองนนทบุรีน่าอยู่ที่ชาญฉลาด Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/zria/ Download PDF File : https://drive.google.com/file/d/1i8cV4rE0UCSgzDUjU4nk52TxKjp1Tnyo/view?usp=share_link บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ของคนเมืองนนทบุรี นำโดย นายกฯ สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2564-…
จากแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพสู่เป้าหมาย Healthy City “ระบบติดตามผลสุขภาพเวชศาสตร์วิถีชีวิตนครนนท์จะทำให้การดูแลสุขภาพของคนนนท์เป็นเรื่องง่าย และมีแรงจูงใจ”WeCitizens สนทนากับ รศ. ดร.สมพร คุณวิชิต อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถึงบทบาทในการขับเคลื่อนงานวิจัย “การบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดและการยกระดับบริการสาธารณะด้านสุขภาวะสำหรับผู้สูงวัยในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี”จากนักวิจัยชั้นแนวหน้าด้านการจัดการภัยพิบัติ และการศึกษา…
“จะว่าไป ชุมชนศรีพรสวรรค์ 2 ที่พวกเราอาศัยอยู่ ก็เป็นชุมชนของคนตลาดก็ว่าได้ เพราะอยู่ใกล้ตลาดฐานเพชรนนท์ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่ง-ปลีกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด นับว่าเป็นการสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ปู่ย่าตายายเคยขายของที่ตลาดนี้ ก็ส่งต่อให้ลูกหลาน ต่อเนื่องกันมาเป็นสิบ ๆ ปี หลายครอบครัวอยู่ที่นี่ก่อนท่านนายกฯ (นายกเทศมนตรี)…
“ชุมชนโยกย้ายตั้งอยู่ที่ตำบลสวนใหญ่ ไม่ไกลจากท่าน้ำนนท์ บ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ริมถนนพิบูลสงคราม ตรงข้ามตลาดเทศบาลนนทบุรีเดิมพื้นที่นี้เคยเป็นสวนทุเรียน ก่อนจะกลายมาเป็นศูนย์ราชการเมืองนนท์ กระทั่งมีการย้ายศาลากลางออกไปและเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนพื้นที่รอบ ๆ ก็กลายเป็นตลาดเก่าที่ค่อย ๆ ซบเซา โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ที่ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูเหมือนจะค่อย ๆ ตายลง…
“ผมเกิดและโตที่ชุมชนวัดทางหลวง อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายเลยครับ แม่ผมเคยเป็นอาสาสมัครชุมชน พอท่านอายุมากขึ้น—แปดสิบกว่าปีแล้ว—ผมก็เลยไปช่วยแทนบ้าง ไปประชุมบ้าง ทำกิจกรรมชุมชนบ้าง ไป ๆ มา ๆ ก็เลยกลายเป็นกรรมการชุมชน และสุดท้ายก็เป็นประธานชุมชน หลัก ๆ ผมทำธุรกิจขายหมูฝอย…
"ความน่าอยู่ของนนทบุรีคือความเป็นเมืองใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯแต่ยังคงแฝงไว้ด้วยบรรยากาศแบบชนบทที่เรียบง่ายป้าก็หวังว่าเราจะสามารถรักษาเสน่ห์นี้ไว้ได้ต่อไป" “ชุมชนวัดลานนาบุญ ตั้งอยู่ในตำบลตลาดขวัญ เขตเทศบาลนครนนทบุรี เป็นชุมชนชาวสวนดั้งเดิม โดยมีลำคลองสายสำคัญสองสายไหลผ่าน ได้แก่ คลองบางตะนาวศรี ซึ่งเป็นคลองสายใหญ่ที่ไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และคลองบางขวาง ซึ่งเป็นคลองสายเล็กตัดผ่านกลางซอย ชาวบ้านในชุมชนแทบทุกหลังคาเรือนจะมีคลองสองสายนี้ไหลผ่านใกล้บ้าน จึงเป็นชุมชนใกล้เมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและความเป็นธรรมชาติไว้ได้เมื่อก่อนชาวบ้านนิยมปลูกทุเรียนกันมาก แต่ช่วงหนึ่งความนิยมซบเซาลง จึงหันไปปลูกผลไม้อื่น…