ผมเป็นคนดอยช้าง จังหวัดเชียงราย ครอบครัวผมปลูกกาแฟมาตั้งแต่ปี 2529 แต่สมัยก่อนผมไม่เคยคิดที่จะทำธุรกิจเกี่ยวกับกาแฟเลย
ผมเรียนหนังสือในระบบตามปกติที่กรุงเทพฯ จบมาก็ได้ทำงานโรงงานของแบรนด์สุราเจ้าหนึ่ง เป็นเจ้าหน้าที่ตรวจสอบฝ่ายโรงงานต่างจังหวัด โรงงานมีทั้งหมด 12 แห่งทั่วประเทศ ผมก็จะเดินทางไปตรวจสอบโรงงานละ 2 เดือน หมุนเวียนไปแบบนี้ทั่วประเทศ ผมทำงานนี้มา 5 ปีแล้ว จนรู้สึกไม่อยากเดินทางบ่อย พอดีได้แฟนเป็นคนกาฬสินธุ์ ก็เลยขอย้ายมาประจำโรงงานที่ขอนแก่นใกล้ๆ ทำอีกสักพัก ก็คิดอยากมีธุรกิจของตัวเอง เลยลาออกมา
ผมเริ่มธุรกิจน้ำดื่มที่กาฬสินธุ์ก่อน แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ช่วงนั้นคือราวๆ ปี 2545 ก็คิดกับแฟนว่าเราจะเปลี่ยนมาทำธุรกิจอะไรต่อไปดี แล้วมันก็มีความคิดหนึ่งแทรกเข้ามาว่าอยากกลับบ้านที่เชียงราย ไอ้ความคิดนั้นแหละที่จุดประกายผมว่า ในเมื่อบ้านเราปลูกกาแฟ ทำไมถึงไม่เอากาแฟที่บ้านมาขายที่กาฬสินธุ์
ความต้องการนี้สอดคล้องกับปัญหาที่ครอบครัวผมกำลังเจอพอดี เพราะเขาปลูกกาแฟส่งร้าน แต่บางครั้ง ร้านเขาไม่ได้รับซื้อทั้งหมดที่เราปลูก เช่นบางสัปดาห์เขาอาจจะรับผลผลิตเราแค่ 3 วัน ส่วนอีก 4 วันเขาไม่ซื้อ กาแฟเราจึงเหลือ ถ้าผมเปิดร้านกาแฟ ก็จะได้ช่วยจัดการต้นทุนให้ที่บ้านได้
อีกอย่างหนึ่งคือ ช่วงนั้นกาแฟดอยช้างเริ่มเป็นที่นิยมแล้ว ตามเมืองใหญ่ๆ ก็เริ่มมีร้านที่ขายกาแฟสดผุดขึ้น แต่ที่กาฬสินธุ์ยังไม่มี ผมก็เลยตัดสินใจกลับบ้านไปเรียนรู้เรื่องกาแฟใหม่ทั้งหมดอีกครั้ง และกลับมาเริ่มธุรกิจร้านกาแฟสดในคีออสเล็กๆ หน้าบ้านของแฟนบนถนนกาฬสินธุ์ ใกล้ๆ วัดกลาง ในปี 2553 เป็นร้านกาแฟสดร้านแรกของกาฬสินธุ์
ใช้เวลานานอยู่เหมือนกัน กว่าจะให้คนที่นี่รู้จักว่ากาแฟสดคืออะไร น่าจะ 2-3 ปีได้นะที่ธุรกิจอยู่ตัวและมีกำไร มาปี 2556 ก็ขยับขยายด้วยการเปิดโรงคั่วของเราเอง และจากคีออสเล็กๆ ก็ขยับมาเป็นคาเฟ่จริงจังในบ้านของแฟนเมื่อปี 2560
เริ่มแรกผมขายกาแฟแก้วละ 25 บาท ขายดีเลยครับ แต่พอตอนหลังมาร้านกาแฟเริ่มเยอะขึ้น ส่วนแบ่งตลาดก็มากขึ้น และพอมาพิจารณาต้นทุน ราคานี้ก็แทบไม่เหลือกำไร จึงขยับราคาขึ้นมา และนำสตอรี่ของไร่กาแฟบนดอยช้างที่บ้านมาเป็นจุดขาย รวมถึงแบ่งประเภทการเสิร์ฟตามการแปรรูปเมล็ด เพื่อสร้างความแตกต่าง สอดรับกับที่คนดื่มกาแฟเริ่มให้ความสนใจกับแหล่งที่มาของเมล็ดหรือกระบวนการต่างๆ พอสมควร ร้านเราก็เลยมีจุดขายที่ชัดเจน
ลูกค้าส่วนใหญ่เป็นคนต่างจังหวัดกับนักท่องเที่ยวครับ ราวๆ 80% ส่วนอีก 20% เป็นคนท้องถิ่น ซึ่งเข้าใจได้ เพราะเมืองเราเป็นเมืองเล็กๆ แต่ก็พอมีลูกค้าประจำในตัวเมืองบ้าง ส่วนลูกค้าต่างจังหวัด เรามักจะได้จากการที่เขามาทำธุระที่เมืองกาฬสินธุ์ หรือบางคนอาจขับรถไปสกลนคร มุกดาหาร หรือนครพนม ซึ่งสามจังหวัดนี้การไปมาหาสู่กันต้องผ่านจังหวัดเรา พวกเขาก็จะแวะเข้าเมืองมาดื่มกาแฟที่ร้าน
ทุกวันนี้ในตัวเมืองกาฬสินธุ์น่าจะมีร้านกาแฟรวมคีออสเล็กๆ ด้วย ราวๆ 50-60 ร้านครับ ถามว่าแข็งขันกันสูงไหม ก็พอสมควร แต่เราอาศัยเปิดมาก่อน และมีลูกค้าประจำติดแล้ว จึงพอไปได้
ถามว่าชอบอะไรในเมืองนี้? ส่วนหนึ่งก็เพราะเป็นบ้านเกิดของแฟน เลยมีต้นทุนที่ดี อีกเรื่องคือเมืองมันเงียบสงบ ปลอดภัย และผู้คนมีมนุษยสัมพันธ์ดี
แต่มองอีกมุม ข้อดีที่ผมว่ามามันก็เป็นข้อเสียด้วยนะ เพราะพอเมืองมันไม่หวือหวา มันเลยไม่ค่อยมีการลงทุนใหม่ๆ แล้วถ้าคุณสังเกตในย่านใจกลางเมืองตรงนี้ จะเห็นอาคารพาณิชย์ปิดไว้และแขวนป้ายให้เช่าหลายหลัง แต่ก่อนอาคารเหล่านี้ก็เป็นร้านค้านั่นแหละ แต่พอเจ้าของกิจการอายุมาก เขาก็ไม่ขายของแล้ว และไม่ได้ส่งเสริมให้ลูกหลานสานต่อกิจการ คนรุ่นใหม่ส่วนใหญ่พอไปเรียนที่อื่น เขาก็ทำงานที่อื่นด้วยเลย
ประเด็นก็คือค่าเช่าตึกหลายตึกในย่านนี้ มีราคาสูงพอๆ กับค่าเช่าในเมืองใหญ่อย่างขอนแก่นเลยนะครับ พอราคาเช่ามันสูงแบบนี้ คนรุ่นใหม่ที่อยากเริ่มธุรกิจก็ไม่กล้าเช่า เพราะไม่รู้จะคุ้มต้นทุนหรือเปล่า หลายตึกจึงหาผู้เช่าไม่ได้สักที เพราะถ้าผมเป็นคนรุ่นใหม่ที่ไม่ได้มีตึกอยู่ที่นี่ ผมก็คงเลือกไปเช่าที่ขอนแก่น ซึ่งมีแนวโน้มที่จะขายดีมากกว่า
คิดว่าถ้าหน่วยงานไหนอยากฟื้นฟูหรือกระตุ้นเศรษฐกิจให้เมือง การสร้างความร่วมมือและทำความเข้าใจกับเจ้าของอาคารในย่านก็เป็นสิ่งสำคัญครับ”
สิงห์คำ วาสีอนุรักษ์
เจ้าของร้านโรงคั่วกาแฟสิงห์ฟาร์ม (SingFarm Coffee Roaster)
https://www.facebook.com/profile.php?id=100046379663842
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…