“ปี 2565 นี้ a.e.y.space จะมีอายุครบ 10 ปี เรียกได้ว่าอาร์ทสเปซแห่งนี้ถือเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้สมดุลชีวิตของผมตลอดระยะเวลาที่ผ่านมานี้ลงตัวก็ไม่ผิดนัก
ผมออกจากงานประจำในฐานะอาร์ทไดเรคเตอร์ของค่ายเพลงแห่งหนึ่งที่กรุงเทพฯ เพื่อกลับมาสงขลาเมื่อราว 15 ปีก่อน ความที่ครอบครัวมีธุรกิจทำประมงและส่งออกอาหารทะเลจึงต้องมาช่วยเขา แต่ทำไปได้สักพักก็พบว่านี่ไม่ใช่ทาง เลยหาเวลาไปรับงานกราฟิกดีไซน์ที่หาดใหญ่มาทำบ้าง เพราะเป็นงานที่ผมถนัดและสนุกกับมันมากกว่า
พอรับจ๊อบกราฟิกดีไซน์มากเข้าก็อยากเปิดสตูดิโอออกแบบที่นี่ แต่ก็รู้กันว่าผู้ประกอบการต่างจังหวัดมักไม่ลงทุนกับค่าออกแบบ ผมจึงตัดสินใจเปิดโรงพิมพ์ครบวงจรชื่อ Print Up ซึ่งทำให้ผมยังคงทำงานที่ตัวเองถนัด โดยสามารถนำมูลค่าของงานออกแบบไปรวมอยู่กับสิ่งพิมพ์ที่ผลิตได้
ธุรกิจโรงพิมพ์เป็นไปด้วยดี เรามีลูกค้าทั้งผู้ประกอบการ หน่วยงานรัฐ และสถาบันการศึกษาในสงขลาและใกล้เคียง ทำไปได้สักพัก ก็พอดีกับที่ผมไปเห็นว่ามีตึกเก่าบนถนนนางงามในย่านเมืองเก่าสงขลาประกาศขาย อาคารหลังนี้เคยเป็นภัตตาคารขึ้นชื่อซึ่งผ่านช่วงรุ่งเรืองมาหลายปีแล้ว ผมตัดสินใจซื้อมัน เพื่อไปบูรณะเป็นพื้นที่แสดงงานศิลปะ ซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่เคยมีมาก่อนในเมืองเมืองนี้
ย้อนกลับไปเมื่อ 10 ปีที่แล้ว ย่านเมืองเก่าสงขลาไม่ได้เป็นแหล่งท่องเที่ยวที่มีความคึกคักเหมือนทุกวันนี้ ที่นี่เป็นชุมชนชาวประมงที่มีหอพักราคาถูก คาราโอเกะ และซ่อง แต่อาคารเก่าในย่านนี้สวยงามและมีคุณค่าทางสถาปัตยกรรมมาก โดยผู้ที่มีส่วนจุดประกายให้ผมบูรณะตึกในย่านคือ พี่โก๋-นพดล ขาวสำอางค์ ที่มาซื้อตึกและรีโนเวทก่อนหน้า ผมไปปรึกษาพี่โก๋เรื่องตึก และชวนให้เขามาเป็นศิลปินที่มาแสดงงานคนแรกในตึกหลังนี้เสียด้วยเลย
a.e.y.space แตกต่างจากที่อื่นตรงเราไม่ใช่แกลเลอรี่เชิงพาณิชย์ กล่าวคือผมไม่ได้เปิดที่นี่มาเพื่อขายงานศิลปะเป็นหลัก หากเป็นการชักชวนศิลปินที่ผมสนใจและเขาก็สนใจที่อยากทำงานที่เกี่ยวข้องกับเมืองสงขลามาทำงานร่วมกัน ขณะเดียวกันก็มีการจัดฉายภาพยนตร์ เวิร์คช็อป และเสวนาต่างๆ หวังให้กิจกรรมทางศิลปะที่เกิดในพื้นที่เล็กๆ ของเราจะมีส่วนสร้างชีวิตชีวาให้กับเมือง ก็ค่อยๆ ทำไป เราขยับเข้าหาผู้คน และผู้คนขยับเข้าหาเรา ให้ที่นี่เป็นส่วนหนึ่งของย่าน และไม่มากก็น้อย เป็นส่วนส่งเสริมให้เมืองแห่งนี้น่าอยู่
ส่วนเหตุผลที่ทำให้ผมสามารถทำแกลเลอรี่ที่ไม่เคยสร้างรายได้อะไรมาได้ตั้ง 10 ปี คือการที่ผมมีธุรกิจโรงพิมพ์ซึ่งเป็นอาชีพหลักของผมนั่นแหละครับ ผมถือคติทำงานที่ได้เงินมาเยอะๆ เพื่อแบ่งรายได้มาทำในสิ่งที่เราอยากทำ เป็นการหล่อเลี้ยงหัวใจ ขณะเดียวกันการทำโรงพิมพ์ก็ช่วยสนับสนุนการปริ้นท์ภาพถ่าย ป้าย สติ๊กเกอร์ ใบปลิว หรือเอกสารประกอบนิทรรศการในแต่ละครั้งด้วย ก็เป็นธุรกิจที่ช่วยประหยัดต้นทุนโครงการที่ผมทำด้วยใจรักนี้ไปในตัว
นอกจากการได้ทำงานร่วมกับเครือข่ายคนทำงานสร้างสรรค์และกลุ่มนักพัฒนาเมืองหลายต่อหลายรุ่น การมีอยู่ของ a.e.y.space ยังเป็นเหมือนพื้นที่กลางที่พร้อมร่วมงานกับหน่วยงานที่ประสงค์เข้ามาทำงานเชิงสร้างสรรค์ในเมืองเก่าสงขลา เช่นที่เคยร่วมงานกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (CEA) ทำนิทรรศการภาพถ่ายบุคคลในย่านเมืองเก่า Portrait of Songkhla (2020) ตามมาด้วย Made in Songkhla (2021) ที่ชวนนักออกแบบรุ่นใหม่มาจับคู่ผู้ประกอบการในย่านเพื่อพัฒนาสินค้าร่วมกัน
หรือที่ทางเราเป็นเจ้าภาพนอกพื้นที่ของตัวเอง อย่างที่เพิ่งจัดไปคือการฉายภาพยนตร์กลางแปลง ‘Singorama สงขลาภาพยนตร์’ ซึ่งเปลี่ยนโรงงิ้วภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองสงขลา ให้กลายมาเป็นที่ฉายหนัง และชวนทุกคนล้อมวงนั่งชมด้วยกัน
ด้วยเสียงตอบรับอย่างดีเยี่ยมจากคนสงขลา เราจึงมีแผนจะจัดงานซิงโกรามาอย่างต่อเนื่อง โดยจะหมุนเวียนจัดตามสถานที่ต่างๆ ของเมือง ไม่ว่าจะริมทะเลสาบ ริมชายหาด หรือภายในป่าสน เราอยากให้บรรยากาศของการฉายหนังทำให้เมืองแห่งนี้มีสีสัน และเปิดให้ผู้คนคิดถึงการใช้พื้นที่ของเมืองอย่างสร้างสรรค์ต่อๆ ไปด้วย
แม้จะผ่านมา 10 ปีแล้ว แต่ทุกวันนี้ผมก็ยังตื่นเต้นกับการได้ทำอาร์ทสเปซแห่งนี้เหมือนในขวบปีแรกอยู่เลยนะ ตื่นเต้นที่ได้ร่วมงานกับศิลปิน ได้ทำกิจกรรมหรือเปิดพื้นที่ให้หน่วยงานต่างๆ มาทำกิจกรรมเพื่อคนสงขลา และที่สำคัญคือดีใจที่เรามีส่วนในการจุดประกายให้คนรุ่นใหม่กลับบ้านเกิด เพื่อเริ่มธุรกิจหรือโปรเจ็กต์ที่น่าสนใจในย่าน
อย่างที่บอกว่าพื้นที่แห่งนี้ทำให้ชีวิตผมมีสมดุล ได้ทำงานที่มีรายได้แน่นอน เพื่อนำรายได้มาทำโครงการศิลปะที่เรารัก ขณะเดียวกัน แม้สิ่งที่เราทำไม่ได้ยิ่งใหญ่อะไร แต่ความที่สงขลาเป็นเมืองราชการ ที่ผ่านมาอีเวนท์ในเมืองทั้งหมดก็ล้วนเป็นอีเวนท์แบบข้าราชการ ถ้าเราไม่ลุกขึ้นมาทำ สงขลาก็อาจเป็นแบบนั้นต่อไป ผมจึงคิดว่าสิ่งที่ทำมาทั้งหมดนี้ ก็มีส่วนสร้างสมดุลให้เมืองเมืองนี้ และทำให้คนรุ่นใหม่เห็นว่าสงขลาก็เป็นเมืองของพวกเขาด้วยเช่นกัน”
ปกรณ์ รุจิระวิไล
นักออกแบบและเจ้าของ a.e.y.space สงขลา
https://www.facebook.com/Aeyspace/
อ่าน WeCitizens เมืองนนทบุรีน่าอยู่ที่ชาญฉลาด Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/zria/ Download PDF File : https://drive.google.com/file/d/1i8cV4rE0UCSgzDUjU4nk52TxKjp1Tnyo/view?usp=share_link บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ของคนเมืองนนทบุรี นำโดย นายกฯ สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2564-…
จากแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพสู่เป้าหมาย Healthy City “ระบบติดตามผลสุขภาพเวชศาสตร์วิถีชีวิตนครนนท์จะทำให้การดูแลสุขภาพของคนนนท์เป็นเรื่องง่าย และมีแรงจูงใจ”WeCitizens สนทนากับ รศ. ดร.สมพร คุณวิชิต อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถึงบทบาทในการขับเคลื่อนงานวิจัย “การบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดและการยกระดับบริการสาธารณะด้านสุขภาวะสำหรับผู้สูงวัยในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี”จากนักวิจัยชั้นแนวหน้าด้านการจัดการภัยพิบัติ และการศึกษา…
“จะว่าไป ชุมชนศรีพรสวรรค์ 2 ที่พวกเราอาศัยอยู่ ก็เป็นชุมชนของคนตลาดก็ว่าได้ เพราะอยู่ใกล้ตลาดฐานเพชรนนท์ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่ง-ปลีกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด นับว่าเป็นการสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ปู่ย่าตายายเคยขายของที่ตลาดนี้ ก็ส่งต่อให้ลูกหลาน ต่อเนื่องกันมาเป็นสิบ ๆ ปี หลายครอบครัวอยู่ที่นี่ก่อนท่านนายกฯ (นายกเทศมนตรี)…
“ชุมชนโยกย้ายตั้งอยู่ที่ตำบลสวนใหญ่ ไม่ไกลจากท่าน้ำนนท์ บ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ริมถนนพิบูลสงคราม ตรงข้ามตลาดเทศบาลนนทบุรีเดิมพื้นที่นี้เคยเป็นสวนทุเรียน ก่อนจะกลายมาเป็นศูนย์ราชการเมืองนนท์ กระทั่งมีการย้ายศาลากลางออกไปและเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนพื้นที่รอบ ๆ ก็กลายเป็นตลาดเก่าที่ค่อย ๆ ซบเซา โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ที่ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูเหมือนจะค่อย ๆ ตายลง…
“ผมเกิดและโตที่ชุมชนวัดทางหลวง อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายเลยครับ แม่ผมเคยเป็นอาสาสมัครชุมชน พอท่านอายุมากขึ้น—แปดสิบกว่าปีแล้ว—ผมก็เลยไปช่วยแทนบ้าง ไปประชุมบ้าง ทำกิจกรรมชุมชนบ้าง ไป ๆ มา ๆ ก็เลยกลายเป็นกรรมการชุมชน และสุดท้ายก็เป็นประธานชุมชน หลัก ๆ ผมทำธุรกิจขายหมูฝอย…
"ความน่าอยู่ของนนทบุรีคือความเป็นเมืองใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯแต่ยังคงแฝงไว้ด้วยบรรยากาศแบบชนบทที่เรียบง่ายป้าก็หวังว่าเราจะสามารถรักษาเสน่ห์นี้ไว้ได้ต่อไป" “ชุมชนวัดลานนาบุญ ตั้งอยู่ในตำบลตลาดขวัญ เขตเทศบาลนครนนทบุรี เป็นชุมชนชาวสวนดั้งเดิม โดยมีลำคลองสายสำคัญสองสายไหลผ่าน ได้แก่ คลองบางตะนาวศรี ซึ่งเป็นคลองสายใหญ่ที่ไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และคลองบางขวาง ซึ่งเป็นคลองสายเล็กตัดผ่านกลางซอย ชาวบ้านในชุมชนแทบทุกหลังคาเรือนจะมีคลองสองสายนี้ไหลผ่านใกล้บ้าน จึงเป็นชุมชนใกล้เมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและความเป็นธรรมชาติไว้ได้เมื่อก่อนชาวบ้านนิยมปลูกทุเรียนกันมาก แต่ช่วงหนึ่งความนิยมซบเซาลง จึงหันไปปลูกผลไม้อื่น…