“พื้นเพผมเป็นคนท่าตะโก ซึ่งคนที่นั่นเขาทำโรงสี ตอนคุณขับรถผ่านท่าตะโกมาที่นี่ (อ.ไพศาลี) จะเห็นปล่องลมสูงตระหง่านเต็มไปหมด ซึ่งนั่นมีมานานมากแล้ว ลูกหลานเจ้าของโรงสีจากท่าตะโกเขาก็กระจายตัว มาอยู่ที่ไพศาลีก็เยอะ ผมก็หนึ่งในนั้น
ที่ท่าตะโกและไพศาลีมีโรงสีเยอะ เพราะมันอุดมสมบูรณ์ ที่นาปลูกข้าวขึ้น อย่างไพศาลีนี่มีข้าว ข้าวโพด มันสำปะหลัง แต่เดี๋ยวนี้คนปลูกข้าวโพดและถั่วงาลดลงเยอะ อ่อ เมื่อก่อนปลูกฝ้ายกันด้วย แต่เดี๋ยวนี้ไม่มีแล้ว เกษตรกรไพศาลีจะปลูกข้าวหอมมะลินาดินปนทราย เขาก็ส่งข้าวเปลือกมาสีที่ผม รวมถึงอำเภอใกล้เคียงอย่างท่าตะโก หนองบัว รวมถึงจังหวัดพิจิตร พ่อค้าบางส่วนเขาก็ซื้อข้าวจากชาวนาและเอามาขายผมด้วยเหมือนกัน ซึ่งทำเลตรงนี้มันดี ไปทางอินทร์บุรี (จังหวัดสิงห์บุรี) ขึ้นเหนือไปทางพิษณุโลก-อุตรดิตถ์-ลำปาง การขนส่งข้าวเลยสะดวก
วิถีเกษตรกรเปลี่ยนไปเยอะ เมื่อก่อนชาวนาปลูกข้าวบางส่วนและสีกินเอง สังเกตไหมว่าบ้านบางหลังเขามียุ้งไว้เก็บข้าว เพราะสมัยก่อนเขาเกี่ยวข้าวแห้งในนาแล้วใส่ยุ้งเก็บ แต่ทุกวันนี้ เขาใช้รถเกี่ยวสดแล้วเอามาขายโรงสีเลย กลายเป็นว่าชาวนาบางส่วนส่งข้าวให้โรงสี และก็ซื้อข้าวจากโรงสีมากินอีกที เพราะเขาจะได้กินข้าวสดๆ ไม่ต้องไปเก็บแบบสมัยก่อน
พอสีข้าวเสร็จ ก็เอาไปอบ ทุกวันนี้เรามีกำลังผลิตอยู่ที่ 400 เกวียนต่อ 24 ชั่วโมง เมื่อก่อนไม่ได้เยอะเท่านี้ เพราะทำกับภรรยาสองคน แต่พอลูกมาช่วยก็เลยขยายได้ อบเสร็จก็เอาไปใส่บรรจุภัณฑ์ขาย ผมใช้เครื่องสีจากเยอรมนี เพราะมีประสิทธิภาพมาก ในถุงใส่ข้าวยังมีสโลแกน ‘เครื่องจักรเยอรมันชั้นนำของโลก’ เพราะเครื่องมันขัดสีข้าวแล้วได้ผลผลิต หรือ yield ที่ดี มีข้าวท่อนออกมาน้อย ถ้าเครื่องจักรทั่วๆ ไป สีหนึ่งตันคุณอาจได้ข้าวต้นราว 420-450 กิโลกรัม แต่ของผมได้ราวๆ 500 กิโลฯ ได้ราคามากกว่า ข้าวส่วนใหญ่ผมขายในประเทศนี่แหละ มีแบรนด์ของตัวเองชื่อ ‘ข้าวตราบัวชมพู’ เป็นเกรดเดียวกับที่ส่งออก ขายตามร้านค้าและห้างสรรพสินค้าเชนใหญ่ที่มีทั่วประเทศ
ส่วนข้าวท่อนหรือข้าวหัก ผมก็เอาไปขายให้โรงงานทำเส้นก๋วยเตี๋ยวและขนมจีน ขนมจีนหล่มสักที่ดังๆ ของเพชรบูรณ์เขาก็ใช้ข้าวท่อนจากโรงสีผม เพราะข้าวท่อนของเราคุณภาพโอเค แป้งมันทำออกมาได้เส้น
ผมภูมิใจที่โรงสีผมยังผลิตข้าวหอมมะลิแท้และขายให้คนไทยได้กินอยู่ คุณเคยได้ยินไหมที่มีข่าวว่าคนไทยไม่ค่อยได้กินข้าวหอมมะลิไทย ซึ่งบางส่วนก็จริงเพราะคนขายนิสัยไม่ดี เอาข้าวจากไหนไม่รู้มาตีตราบอกว่าเป็นข้าวหอมมะลิ แต่ของเรา คุณเอาไปตรวจที่ศูนย์วิทยาศาสตร์ข้าว ม.เกษตรศาสตร์ กำแพงแสน ได้เลย
นอกจากนี้ อีกเรื่องที่ภูมิใจคือการได้ดูแลคนงาน ใครทำงานกับผม ผมสอนหมดทุกเรื่อง หลายคนเขาก็แยกไปตั้งธุรกิจของตัวเอง ผมก็สนับสนุนเต็มที่ คนงานเป็นร้อยๆ ผมก็ดูแล ทำงานกับผมรายได้ดีนะ หลายตำแหน่งเงินเดือนสูงกว่าพนักงานบริษัทใหญ่ในกรุงเทพฯ อีก ก็อยากให้คนที่นี่มีคุณภาพชีวิตที่ดี ผมไม่ค่อยห่วงเรื่องธุรกิจแล้ว มีลูกชายมาช่วยสานต่อ และก็มีระบบการทำงานรองรับหมดแล้ว ที่ยังทำอยู่ทุกวันนี้เพราะยังสนุกดี เครียดกับงานน้อยลง ลูกค้าจะรายใหญ่รายเล็กผมก็ขายด้วยมาตรฐานเดียวกันหมด ผมย้ำกับทุกคนเสมอว่าธุรกิจเราสำเร็จได้เพราะความซื่อสัตย์ ถ้าเจอข้าวไม่ได้คุณภาพเราก็รับคืน หรือเขาเอาไป บางทีมีหนูมากัดถุงข้าวสารแตก เรารู้ว่าเราขาดทุนก็ยังรับคืน ธุรกิจเราอยู่ได้แล้ว ขาดทุนนิดหน่อยไม่เป็นไร แต่อย่าให้คู่ค้าเราขาดทุน นั่นล่ะทำให้ธุรกิจเรายั่งยืน”
เสวก ล้อพูนผล
เจ้าของบริษัท ล้อพูลผลไรซ์มิลล์ จำกัด
https://lppricemill.com/
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…