“ผมโตมาก็เห็นหนังใหญ่แล้ว เลยไม่คิดว่ามันพิเศษยังไง จนมาได้แสดงเองในที่ต่างๆ จึงพบว่าสิ่งที่เราทำอยู่ มันเป็นศิลปะที่หลงเหลืออยู่เป็นที่ท้ายๆ ของประเทศแล้ว”

“ผมเริ่มฝึกเชิดหนังใหญ่ตอนอายุ 10 ขวบครับ ตอนนั้น พระครูบรุเขต วุฒิกร อดีตเจ้าอาวาสวัดบ้านดอน มาถามเด็กนักเรียนในโรงเรียนวัดบ้านดอนว่าใครอยากเรียนเชิดหนังใหญ่บ้าง ผมเห็นว่าน่าสนใจดีก็เลยเข้าร่วม

จากตอนแรกก็แค่เล่นสนุกๆ แถมยังได้ค่าขนมอีกเวลาไปออกแสดงตามที่ต่างๆ พอเล่นไปเล่นมาก็พบว่าเป็นความผูกพันที่ได้แสดงร่วมกับเพื่อน และได้ฝึกซ้อมรุ่นน้องต่อๆ มาให้มาแสดงร่วมกับเรา อีกทั้งพอได้ไปตระเวนเปิดการแสดงที่ต่างๆ รวมถึงในต่างประเทศ เล่นจบได้ยินเสียงปรบมือก็รู้สึกภาคภูมิใจ ทุกวันนี้ผมอายุ 29 อยู่ในกลุ่มหนังใหญ่วัดบ้านดอนมาได้เกือบ 20 ปีแล้ว

เรามีด้วยกันรวมๆ 30 คน ถ้าไม่ใช่เด็กนักเรียนอยู่ ทุกคนก็ต่างมีงานประจำของตัวเอง อย่างผมทำงานโรงงาน จะนัดซ้อมร่วมกันทุกวันจันทร์ พุธ และศุกร์ ของทุกสัปดาห์ ถ้าต้องไปแสดงที่อื่น ส่วนใหญ่ก็จะขอเจ้าภาพว่าสะดวกแสดงวันเสาร์และอาทิตย์ เพราะเป็นวันหยุดของทุกคน ถ้าเป็นวันธรรมดา ก็จะแสดงตอนเย็น

อย่างที่บอกว่าผมอยู่คณะนี้ช่วยครูอำไพ (อำไพ บุญรอด หัวหน้าคณะ) ฝึกเด็กๆ มาหลายรุ่นจนเป็นชีวิตประจำวันไปแล้ว พอผมมีลูกชาย บางวันก็ต้องพาลูกมารอตอนฝึกซ้อมด้วย พอกลับบ้าน ลูกชายก็ทำท่าเชิดหนังตาม ผมเห็นเขาสนใจ ก็เลยจับเขาฝึก เริ่มฝึกตอน 8 ขวบ ทุกวันนี้เขาเรียนอยู่ ป.5 อายุ 11 ขวบ กลายมาเป็นนักแสดงในคณะเราไปด้วยแล้ว

ซึ่งก็เช่นเดียวกับเจ้าคนเล็กตอนนี้ 5 ขวบ คนนี้ตามพี่ชายเขา ผมก็ให้พี่เขาฝึกให้ และครูอำไพแกก็เอ็นดู เลยให้รับบทเชิดตัวละครลิง กลายเป็นว่าในคณะนี้มีผม และลูกชายอีกสองคนมาเป็นคนเชิด ทุกเย็นวันจันทร์ พุธ และศุกร์ หลังเลิกงานผมก็จะไปรับลูกมาที่โรงละคร แล้วก็ซ้อมด้วยกัน สนุกดีครับ ได้ทำในสิ่งที่ชอบพร้อมกับลูกๆ แล้วลูกๆ ก็ดูสนุกที่ได้ทำด้วย

เอาจริงๆ แต่ก่อนก็ไม่คิดว่าการเชิดหนังใหญ่นี้พิเศษยังไงนะ เพราะโตมาเราก็เห็นว่ามีคณะนี้แสดงอยู่ที่วัดบ้านดอนแล้ว แต่พอเราได้แสดงเองและไปโชว์ตามที่ต่างๆ นี่แหละถึงได้รู้ว่าสิ่งที่เราเล่นมันเป็นศิลปะที่หลงเหลืออยู่ที่ท้ายๆ ของประเทศเราแล้ว จึงรู้สึกภูมิใจที่มีส่วนสืบสานและส่งต่อให้คนรุ่นหลัง ซึ่งก็รวมถึงลูกๆ ของผมด้วย ก็หวังว่าถ้าเขาโตขึ้น ก็จะส่งต่อสิ่งนี้ให้คนรุ่นต่อไป

วีระพงษ์ นิมา
กิตติศักดิ์ นิมา
และกิตติคุณ นิมา
ครอบครัวนักเชิดหนัง กลุ่มหนังใหญ่วัดบ้านดอน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

อ่านเสียงแก่งคอย เสียงของเมืองที่ก้าวข้ามบาดแผลประวัติศาสตร์มาสู่เมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิต

WeCitizens ชวนผู้อ่านเรียนรู้เมืองแก่งคอย เมืองประวัติศาสตร์ที่มีบาดแผลจากสงครามโลกครั้งที่ 2 แต่ในวันนี้ แก่งคอยเปลี่ยนบาดแผลแห่งประวัติศาสตร์เป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ตลอดชีวิตอ่านความคิด วิถีชีวิตผู้คนแก่งคอยได้ที่ WeCitizens : เสียงแก่งคอย, สระบุรี - WeCitizens Flip PDF…

1 year ago

ฟังเสียงนครสวรรค์ เมืองศูนย์กลางแห่งภาคเหนือตอนล่างและภาคกลางตอนบน

WeCitizens ชวนผู้อ่านเดินทางไปจังหวัดนครสวรรค์ เมืองที่อยู่กึ่งกลางระหว่างภาคเหนือและภาคกลาง เมืองที่เป็นจุดเปลี่ยนถ่ายการเดินทางทางน้ำในอดีต นครสวรรค์จึงเป็นเมืองสำคัญอีกเมืองหนึ่งในฐานะของเมืองที่เป็นศูนย์กลาง (Hub) ทั้งด้านการค้า การคมนาคม และนำมาซึ่งความหลากหลายทางวัฒนธรรมของผู้คนหลากหลายกลุ่ม โดยเฉพาะชาวจีนโพ้นทะเล E-book ฉบับเสียงนครสวรรค์ฉบับนี้ จะพาผู้อ่านทุกคนไปเรียนรู้วิถีชีวิตของชาวนครสวรรค์ วัฒนธรรมชาวจีนและเทศกาลตรุษจีนที่มีชื่อเสียงโด่งดังในระดับประเทศและนานาชาติ และไปฟังเสียงผู้คนชาวนครสวรรค์ที่มองบ้านเมืองของตนเองตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน…

1 year ago

แก่งคอย…ย้อนรอยสงครามโลกเปลี่ยนบาดแผลประวัติศาสตร์สู่เมืองเรียนรู้ตลอดชีวิต

นอกจากจะถูกจดจำจากเพลงดังที่มีชื่อเดียวกับชื่ออำเภอของ ก้าน แก้วสุพรรณ และเพลงฮิตของคาราบาว ซึ่งสื่อถึงที่มาของชื่อ ‘แก่งคอย’ อย่าง ‘แร้งคอย’ หากไม่ใช่คนในพื้นที่ อาจนึกภาพไม่ออกว่าอำเภอของจังหวัดสระบุรีที่เป็นปากทางขึ้นอุทยานแห่งชาติเขาใหญ่และประตูสู่ภาคอีสาน มีความสำคัญอย่างไร? ไม่เพียงเป็นเมืองท่าที่สำคัญในการขนส่งสินค้าผ่านแม่น้ำป่าสักและทางรถไฟ อำเภอแก่งคอย ยังเป็นจุดเริ่มต้น (ต่อจากอำเภอเมืองสระบุรี)…

1 year ago

ขอนแก่นโมเดล
The Legacy of City Development

เพราะเมือง คือ ผู้คน และผู้คน คือ ตัวแปรสำคัญที่สุดในการพัฒนาเมือง ความเจริญงอกงามทางวัฒนธรรมหรือการเติบโตทางเศรษฐกิจ และมาตรฐานคุณภาพชีวิต จึงขึ้นอยู่กับศักยภาพ ความสามารถ และความร่วมมือร่วมใจของคนในเมืองเป็นฐานสำคัญ กว่าทศวรรษที่ ‘ขอนแก่นโมเดล’ เป็นโมเดลการพัฒนาเมืองที่ได้รับการยอมรับ และพูดถึงในฐานะแนวคิดและปฏิบัติการการพัฒนาเมืองที่ก้าวหน้ามากที่สุด…

1 year ago

“ขอนแก่นเราไม่ใช่เป็นเมืองที่นั่งรอคนเข้ามาทำนู่นนี่ให้”

เมืองขอนแก่น ผู้คน กับการเรียนรู้เพื่อก้าวต่อไป           ไม่มีภูเขา ไม่มีแม่น้ำสายใหญ่ อยู่ไกลโพ้นจากชายทะเล แหล่งท่องเที่ยวมีชื่อ หรือทรัพยากรธรรมชาติสำคัญก็น้อยนิด แต่มีคนที่เอาจริงเอาจังกับการพัฒนาเมืองกลุ่มใหญ่ที่กล้าคิดกล้าฝัน พยายามทำทุกลู่ให้ความหวังเป็นจริงได้ นี่คือปัจจัยที่ทำให้ช่วงเวลาเพียงกึงศตวรรษนำพาเมืองขอนแก่น เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด  ‘ผู้คน และความร่วมมือ…

1 year ago

“สำนึกรักท้องถิ่น ถือเป็นหัวใจสำคัญของจิตสำนึกของคนขอนแก่น”

“เมื่อพูดถึงเรื่องเมืองแห่งการเรียนรู้ หรือ Learning City ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับหน้าที่รับผิดชอบของเทศบาลนครขอนแก่น เราดำเนินงานตามวิสัยทัศน์ที่ว่า ‘พัฒนาเมืองสู่สากล สร้างสังคมแห่งความสุข’ การที่เมืองจะพัฒนาได้และสร้างสังคมที่เป็นสุข ต้องเริ่มที่ ‘คน’ คนที่เป็นกำลังสำคัญในการร่วมกันพัฒนาเมือง ยกตัวอย่างในกรณีที่เปรียบเทียบง่าย ๆ เช่น ถ้าเราจะพัฒนาขอนแก่นเป็นเมือง…

1 year ago