“พื้นเพเราเป็นคนอุทัยธานี ส่วนสามีเป็นคนลำปางที่โตมาในกาดกองต้า ความที่เราทั้งคู่ชอบกินของอร่อยๆ เหมือนกัน เลยตัดสินใจเช่าอาคารในย่านกาดกองต้าเปิดร้านเมื่อยี่สิบกว่าปีก่อน โดยตอนแรกทำในรูปแบบธุรกิจโต๊ะจีน พอขายได้อยู่ แต่ดันมาเจอช่วงฟองสบู่แตกช่วงปี 2540 ร้านเลยโดนกระทบหนัก จึงเปลี่ยนรูปแบบมาขายอาหารที่ราคาย่อมเยาลง เราใช้ตำรับอาหารและทรัพยากรเดิมเลย แต่ปรับเมนูและระดับราคาให้ขายง่ายขึ้น โดยใช้ชื่อร้านว่า ‘อร่อยบาทเดียว’ ขายข้าวต้มถ้วยละบาท รองรับลูกค้าทุกระดับ
ธุรกิจตอนแรกยังทรงๆ เพราะตอนนั้นเศรษฐกิจยังไม่ฟื้น ก็กัดฟันสู้อยู่หลายปี กระทั่งมาปี 2548 ที่น้ำท่วมกาดกองต้า ความที่ย่านนั้นมีโกดังเก็บสินค้าเยอะ เจ้าของโกดังก็เอาของที่โดนน้ำท่วมมาแบกะดินขายในราคาขาดทุน คนลำปางก็มาช้อปปิ้งกันเต็มไปหมด จู่ๆ จากวิกฤตคนที่นั่นก็พลิกให้กลายเป็นโอกาส สักพักก็มีการจัดตั้งถนนคนเดินกาดกองต้า เป็นตลาดกลางคืนที่คึกคักมาก ร้านเราก็ได้ลูกค้าจากตรงนี้ไปด้วย เพราะตั้งอยู่ตรงข้ามตลาด แล้วหลังจากนั้นไม่นาน มีนักเขียนของหนังสือโลนลี่แพลเน็ทมากินที่ร้าน แล้วเขาเอาไปเขียนแนะนำในหนังสือ นักท่องเที่ยวต่างชาติก็เลยเป็นอีกกลุ่มลูกค้าหลัก
จุดเด่นของร้านคือราคาสบายกระเป๋า บริการรวดเร็ว คือไม่ว่าลูกค้าจะแน่นแค่ไหน เราก็วางระบบให้อาหารออกทันเวลาได้หมด กระทั่งถ้าคุณมากับทัวร์ หรือคณะนักกีฬาที่มักมาแข่งกีฬาในจังหวัดลำปางซึ่งมากันหลายสิบคน แค่จองโต๊ะล่วงหน้าว่ากี่ที่นั่งและสั่งอาหารมาก่อน มาถึงก็แทบไม่ต้องนั่งรอเลย ส่วนรสชาติอันนี้แล้วแต่มุมมองลูกค้า ซึ่งเราก็มีการควบคุมมาตรฐานอยู่เสมอ หรือถ้าลูกค้าเป็นฝรั่ง พ่อครัวเขาก็จะลดความเผ็ดลงมา ที่สำคัญเราขายราคาเดียวกันหมด คือฝรั่งมากินเขาก็ตกใจว่าทำไมถูกและเร็วแบบนี้ ก็ได้การบอกต่อค่อนข้างมาก
เรามีโต๊ะ 50 โต๊ะ รองรับลูกค้าได้มากที่สุด 150 คน ใช้พ่อครัว 10 คน ส่วนน้องๆ พนักงานเสิร์ฟมีประมาณ 20 คน พนักงานเสิร์ฟทุกคนเป็นนักเรียนนักศึกษาพาร์ทไทม์ มีตั้งแต่มอสี่ ปวช. ปวส. ไปจนถึงจบปริญญา บางคนอยู่กับเรามาตั้งแต่เรียนมัธยม แล้วพอเรียนจบออกไปทำงานตอนกลางวัน ตกเย็นก็มาหารายได้เสริมเสิร์ฟอาหารที่ร้าน จึงอาจจะเห็นว่าน้องๆ เราที่นี่หลายคนสวมเสื้อช็อป เพราะเขาเรียนหนังสือเสร็จก็มาทำงานกับเราต่อ เราเลยตั้งเวลาปิดร้านไว้ที่ห้าทุ่ม เพราะเคยปิดตอนเที่ยงคืน กว่าจะเก็บร้านเสร็จก็ตีหนึ่งกว่า พนักงานก็ตื่นสายไปเรียนกันไม่ทัน (หัวเราะ)
เราไม่คิดจะเปิดสาขาเพิ่ม มีคนมาถามเฟรนไชส์เหมือนกัน แต่ยังไม่กล้าขาย เพราะถึงแม้เราจะวางระบบไว้พร้อมหมด แต่ความที่ยังเป็นห่วงเรื่องมาตรฐาน เรากับสามีจึงยังต้องลงมาดูแลร้านเองทุกวัน ไม่ยอมปล่อยให้เขารันกันเอง เพราะกลัวพลาด คือถึงคนจะมาซื้อเฟรนไชส์ไปจะไม่เกี่ยวอะไรกับธุรกิจเราแล้ว แต่ความที่เป็นชื่อร้านเรา เราเลยยังไม่กล้าปล่อย ขอให้มั่นใจก่อนดีกว่า
เอาจริงๆ นี่เป็นงานที่เหนื่อยนะ เพราะหลังจากโควิด-19 ระลอกแรกหมดไป ร้านเราก็กลับมาพลุกพล่านเหมือนเดิมไม่ได้พัก แต่เพราะทำมาต่อเนื่องยี่สิบกว่าปี จึงอาจจะชินแล้ว และรู้สึกแฮปปี้กับมัน ยิ่งได้เห็นลูกค้ามากินแล้วถูกใจในรสชาติและการบริการและกลับมาอีก หรือบางคนพอจ่ายเงินเสร็จก็ชื่นชมและกล่าวขอบคุณเราอีก คือคิดดูเขาเป็นลูกค้า เอาเงินมาให้เรา เขายังขอบคุณเราอีก เราก็เลยยิ่งมีความสุขและพยายามจะรักษามาตรฐานนี้ไว้ให้ดีต่อไป ขณะเดียวกันเราก็ปลูกฝังทัศนคติแบบนี้กับพนักงานทุกคน แน่นอน เราทำงานเพื่อให้มีรายได้ แต่การทำอาหารและบริการที่ดีเพื่อทำให้ลูกค้าประทับใจก็เป็นกำไรที่สำคัญ และทำให้เรามีใจรักในสิ่งที่ทำนี้ทุกวัน”
ธัญภา สุวรรณคาม
เจ้าของร้านข้าวต้ม ‘อร่อยบาทเดียว’ จังหวัดลำปาง
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…