“ผมเป็นคนอุดรฯ แต่มาจบนิติศาสตร์ ที่มข.ครับ จริง ๆ ไม่ได้เรียนมาทางสายศิลปะ ด้วยความที่ทางบ้านไม่ได้มีฐานะ ช่วงเรียนก็เลยหางานทำ ทำมันทุกอย่างรับหมด ตั้งแต่แจกใบปลิว ไปถึงขายน้ำปั่น หรือจะเล่นดนตรีอันนี้ก็รับ อย่างหลังนี่คือผมถนัด ชอบ และก็ทำวงกับเพื่อนแบบจริงจัง ก่อนจะจบได้มีโอกาสลงพื้นที่ทำบทความ แล้วนิตยสารชื่อ ‘ทางอีสาน’ เป็นนิตยสาร Local รวมบทความประวัติศาสตร์ และท้องถิ่นสาน เขาเห็นแววว่าผมพอจะทำได้ก็ชวนมาทำ ผมรับหน้าที่เขียนข่าวสิ่งแวดล้อม ทำได้พักหนึ่งก็ออกมาเปิดร้านหนังสือ และเล่มดนตรีกลางคืน แบ่งพลังแบบครึ่ง ๆ ทำงานทั้ง 2 งาน และเผื่อเวลาไปจัด Event ตามโอกาส บางครั้งก็จัดที่นี่ (Columbo Craft Village) บางครั้งก็จัดที่อื่น แล้วแต่กลุ่มที่ทำงานด้วย งาน Event จะเน้นไปที่เอางานสร้างสรรค์ ดนตรี คอนเสิร์ตเล็กๆ ร้านหนังสือ คาเฟ่ ไปจัดในพื้นที่ที่น่าสนใจ บางครั้งก็เป็นพื้นที่รกร้าง งบประมาณก็เน้นขอสปอนเซอร์เครื่องดื่มยี่ห้อต่างๆ เอาให้ได้จัดงาน กำไรบ้างแบบไม่เจ็บตัว
เหตุที่สนใจเรื่องพื้นที่ความคิดสร้างสรรค์ และเรื่องสังคม น่าจะเริ่มจากสมัยเรียน ผมสนใจเรื่องสิทธิมนุษยชน พอได้มาทำข่าวเขียนงานก็ได้จับเรื่องสิ่งแวดล้อม และพื้นที่ภาคอีสานความเดือดร้อนของชาวบ้านจากโครงการพัฒนาของรัฐมีประเด็นให้ตามอยู่เยอะ พอได้ลงพื้นที่ ยิ่งคุยก็ยิ่งอินกับผลกระทบที่เกิดขึ้น ได้รับรู้ถึงความทุกข์ยากของชาวบ้าน และเห็นว่าเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ เหล่านี้สำคัญมาก ๆ ก็เลยทำกับทางนิตยสารเรื่อยมา พอจบก็ทำเป็นแบบประจำ ทำได้ประมาณสองปี แล้วก็ย้ายไปทำงานที่กรุงเทพปีหนึ่ง ก่อนจะกลับมาขอนแก่น เล่นดนตรีคู่ไปการทำร้านสมจริง และทำวงดนตรี Somjing Studio
หากให้มองเมืองขอนแก่น พื้นที่เปิดที่เป็นคอมมูนิตี้แบบ Columbo นี่มีที่นี่ที่เดียว ที่อื่นๆ ส่วนมากจะเป็นแนวคาเฟ่ หรือไม่ก็เป็นบาร์ไปเลย ถ้าเป็นการรวมกลุ่มคนที่ทำงานศิลปะ กันงานสร้างสรรค์จริง ๆ ก็จะมีกลุ่มที่ยิบย่อย ๆ ออกไปหลายแบบ จะว่าพื้นที่แบบที่ Columbo ที่ทำหน้าที่เป็นพื้นที่สร้างสรรค์ เป็นพื้นที่เปิดเกือบๆ จะสาธารณะแบบนี้ ก็ยังขาดอยู่พอสมควร และผมก็เชื่อว่าคนยังต้องการ ด้วยความที่มันไม่มีการจัดสรร หรือการลงทุนจากรัฐหรือรายใหญ่ คนตัวเล็ก ๆ อย่างเราก็อาศัยฮอม (ระดมทุน) กันในหมู่เพื่อนฝูงฟีลเดียวกัน ไม่มีใครคิดจะทำเองเพราะรู้ว่าจะเจ็บหนัก เรารวมกันดีกว่าแล้วเช่าพื้นที่เปล่าๆ แง่หนึ่ง คือ หากเราลงทุนและทำเอง ไอเดียก็จะมาจากแค่ตัวเราคนเดียว แต่ถ้าทำกันหลายคนรวมไอเดียบางอย่าง Blend เข้าด้วยกัน มันจะเกิดสิ่งใหม่เกินความคาดหมาย แล้วก็คิดว่าทุกคนมันมีเรื่องเล่ามากกว่าหนึ่งเรื่อง และก็มีความต้องการที่อยากจะทำมากกว่าหนึ่งอย่าง ทุกคนเป็นเหมือน ๆ กันแบบนี้ คือ มีงานหลักอยู่แล้ว งานที่พุ่งไปเพื่อความอยู่รอด แต่ในขณะเดียวกัน ต่างคนก็ต่างต้องการหาพื้นที่สำรอง หรือพื้นที่ทางเลือกหนึ่ง เพื่อ Support จิต ใจ ความรู้สึก ความฝัน ความเชื่อ จึงเกิดพื้นที่เพื่องานศิลปะ เกิดการฉายหนัง เกิดร้านหนังสือ เกิดร้านกาแฟแปลก ๆ รากฐานของ Columbo จึงเป็นการใส่แรงครีเอทีฟ กับอาศัยเอาความถนัด ความต้องการของแต่ละคน บวกกับเอางานมารวมๆ กัน ที่นี่จึงเกิดขึ้นและเป็นไปแบบนี้มาตลอด
นอกจากพื้นที่ และการรวมกลุ่มที่ยังขาด ผมมองว่าฟันเฟืองสำคัญที่หายไปคือ การสนับสนุน กับการเล็งเห็นความสำคัญ การสนับสนุนจากแหล่งทุนนั้นวันนี้ยังพอมีความเป็นไปได้อยู่บ้าง แต่การเล็งเห็นความสำคัญผมมองว่าเป็นสิ่งที่สำคัญมากกว่าแหล่งทุนด้วยซ้ำไป เพราะผมมองว่าตัวงานครีเอทีฟนั้นสร้างมูลค่าต่อยอดได้อีกเยอะ มันสามารถไปเชื่อมโยงกับทุกสาขาวิชาชีพ จะเป็นเรื่องการค้าขาย เรื่องอาหาร เรื่องการท่องเที่ยว เรื่องการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้กับคนเมือง ผมว่ามันนำมาใช้ได้หมด และจริง ๆ คนทุกคนมีไอเดีย แค่ลองชวนมานั่งคุยแลกเปลี่ยนกัน คิดว่าอะไร ๆ มันก็จะดีขึ้น เพราะว่าเรามีหมุดหมายเดียวกันก็คือ เราอยู่ในเมืองขอนแก่น เราก็อยากจะให้เมือง เป็นเมืองที่สามารถออกแบบร่วมกันได้ ตั้งแต่คนตัวเล็ก จนถึง ผู้ประกอบการรายใหญ่ และผู้บริหารเมือง
ผมว่าจะเป็นฤกษ์งามดีของเมืองเลยนะครับ เพราะว่าตอนนี้คนเล็กคนน้อยเนี่ย ยังไม่รู้เลยว่าทิศทางของขอนแก่นจะไปทางไหน เอาแค่เมืองเราก่อนอย่าเพิ่งไปพูดถึงระดับประเทศ ถ้าเชื่อมกันได้แชร์กันได้ก็จะเป็นเรื่องที่ดี และทำให้มันเป็นวาระสำคัญสักที”
พิชิต ชัยสิทธิ์
เจ้าของร้านหนังสือสมจริง (Somjing Book), Columbo Craft Village
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…