บนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 1 ถนนพหลโยธิน บริเวณเขตนิคมอุตสาหกรรมนวนคร มีแหล่งเรียนรู้ที่แสดงวิถีชาวปทุมธานีและชาวไทยนั่นคือ พิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ซึ่งเรียกได้ว่าเป็นแหล่งท่องเที่ยวเรียนรู้ในแบบพิพิธภัณฑ์มีชีวิต ถ่ายทอดพระอัจฉริยภาพด้านการเกษตร ภูมิปัญญา นวัตกรรมเกษตร ศาสตร์พระราชาปรัชญาเกษตรเศรษฐกิจพอเพียง การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ ดิน น้ำ ป่า และความสำคัญของการเกษตรกับสถาบันพระมหากษัตริย์ไทย โดยพื้นที่ 374 ไร่นั้นแบ่งอาคารเป็นแต่ละพิพิธภัณฑ์ ตั้งแต่พิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา, พิพิธภัณฑ์มหัศจรรย์พันธุกรรม, พิพิธภัณฑ์ป่าดงพงไพร, พิพิธภัณฑ์วิถีน้ำ, พิพิธภัณฑ์ดินดล, พิพิธภัณฑ์เกษตรคือชีวิต, พิพิธภัณฑ์เกษตรเศรษฐกิจพอเพียง และ พิพิธภัณฑ์เกษตรตามรอยพ่อ ซึ่งระหว่างนี้มีการปรับปรุงอาคารและนิทรรศการหลายแห่ง เปิดให้เข้าชมนิทรรศการภายในอาคาร 2 ชั้นของพิพิธภัณฑ์ในหลวงรักเรา ที่ต้อนรับผู้เข้าชมด้วยหุ่นจำลองพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ พระราชพิธีในวิถีเกษตรที่มีมาแต่โบราณเพื่อเป็นสิริมงคลและสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกรช่วงเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก มีส่วนจัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ภาพถ่ายฝีพระหัตถ์ของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และมีโรงภาพยนตร์กษัตริย์ เกษตร ผู้ชมสวมแว่นตา 3 มิติที่จัดเตรียมให้ รับชมการ์ตูนแอนิเมชัน 3 มิติ ซึ่งจัดทำออกมาได้สนุก น่าตื่นเต้น ได้ยินเสียงยินดีจากเด็กๆ (และผู้ใหญ่) ที่ร่วมชมอยู่เป็นระยะ
โซนจัดแสดงต่างๆ เป็นไปในแบบให้ข้อมูล มีสิ่งของ อุปกรณ์ให้ได้หยิบจับ ลองเล่น หรือจอภาพวิดีโอแสดงการทำงาน อย่างการได้เรียนรู้หลักการทรงงานในพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่ทรงยึดทางสายกลางสอดคล้องกับสิ่งแวดล้อม ได้สนุกกับของเล่นในวิถีเกษตรที่ทำได้เองจากธรรมชาติใกล้ตัว ได้เข้าใจวิถีเกษตรของพ่อที่พยายามคิดหาวิธีจัดการดิน น้ำ ป่า คน โดยใช้พื้นที่ภายในพระตำหนักจิตรลดารโหฐาน และพระราชวังดุสิต เป็นห้องทดลองเพื่อพัฒนาสู่พื้นที่จริงในแต่ละภูมิภาคทั่วประเทศ ได้เรียนรู้อดีต เข้าใจปัจจุบัน สร้างสรรค์อนาคตทางการเกษตรไทยและเกษตรโลก ได้เข้าไปอยู่ในบรรยากาศท้องทุ่ง วิถีลุ่มน้ำ และตลาดเก่าที่ขนสินค้าการเกษตรขึ้นท่าเรือแล้วนำไปขายในตลาดตามชุมชน นอกจากนี้ก็มีนิทรรศการสนองพระราชปณิธาน จัดแสดงพระราชประวัติ พระราชกรณียกิจ ของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ซึ่งทรงมุ่งมั่นในการสืบสาน รักษา ต่อยอด สนองพระราชดำริและพระราชปณิธานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และนิทรรศการน้อมนำคำพ่อสอน ว่าด้วยพระราชกรณียกิจสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ผู้ทรงเป็นองค์ประธานแห่งการน้อมนำตามพระราชดำริและหลักการทรงงานของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร
มีกลุ่มเกษตรกรที่ดำเนินตามรอยศาสตร์พระราชาและปรัชญาเศรษฐกิจพอเพียง ปฏิบัติจนเกิดผลอยู่มากมาย ส่วนหนึ่งได้รวมตัวกันเป็นเครือข่ายของพิพิธภัณฑ์เกษตรเฉลิมพระเกียรติฯ ทั่วประเทศ ซึ่งในวันเสาร์ และอาทิตย์ สัปดาห์แรกของเดือน จะนำสินค้า ผลผลิตทางการเกษตรปลอดภัย มาออกตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ซึ่งการเดินชมเป็นไปอย่างละลานตาและเลือกซื้อกันจนหิ้วพะรุงพะรัง ค่าที่มีทั้งอาหารสด อาหารแห้ง ผัก ผลไม้ น้ำพริก เครื่องปรุง ผลิตภัณฑ์สมุนไพร ผ้าทอ งานฝีมือ จากทุกภาค ไหนจะน้ำพริกข่าจากภาคเหนือ ข้าวยำบูดูจากภาคใต้ ผ้าซิ่นจากอีสาน ข้าวสารจากภาคกลาง แล้วยังตลาดต้นไม้ที่มีทั้งไม้ผล ไม้ดอก ไม้เศรษฐกิจ อุปกรณ์การเกษตรต่างๆ โดยผู้ขายส่วนใหญ่คือผู้ลงมือทำ จึงพูดคุย สอบถาม ขอคำแนะนำได้ รวมถึงการเข้าร่วมเวิร์กช็อปกิจกรรมการเกษตรต่างๆ ที่สามารถลงทะเบียนล่วงหน้าทางเฟซบุ๊กแฟนเพจของพิพิธภัณฑ์ฯ ซึ่งในวันเสาร์ และอาทิตย์ ที่ 2, 3, 4 ของเดือน ที่ไม่ได้ติดตลาดเศรษฐกิจพอเพียง ก็มีกิจกรรมท่องเที่ยว กิจกรรมการเกษตรแบบมืออาชีพ หลักสูตรอบรมเข้มข้นจากเกษตรกรตัวจริง ให้การเข้าร่วมกิจกรรมเรียนรู้สู่การปฏิบัติจริง
ศึกษาข้อมูลพิพิธภัณฑ์การเกษตรเฉลิมพระเกียรติพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวเพิ่มเติมได้ที่ https://www.wisdomking.or.th/th
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…