“ก่อนมาสอนหนังสือ ผมทำงานเป็นนักออกแบบกราฟิกและแบบอักษร รวมถึงเป็นศิลปินอิสระที่กรุงเทพฯ แต่ทำไปทำมารู้สึกอิ่มตัว และพอดีที่บ้านอยากให้กลับมาด้วย บ้านผมอยู่อำเภอบรรพตพิสัย จังหวัดนครสวรรค์ ไม่ไกลจากพิษณุโลกเท่าไหร่ และความที่ผมเรียนปริญญาตรีที่มหาวิทยาลัยนเรศวร ก็เลยมาสมัครเป็นอาจารย์ที่นี่
เป็นงานที่แปลกใหม่ดี เพราะแต่ก่อนผมจะทำงานที่ค่อนข้างเป็นอิสระ ตั้งโจทย์ให้ตัวเองและสร้างมันออกมา หรือทำกับลูกค้ารายใดรายหนึ่งไปเรื่อยๆ แต่พอกลับมาสอนหนังสือ กลายเป็นว่าเราต้องทำตามโจทย์ของหลักสูตร รวมถึงตั้งโจทย์ให้นักศึกษามาทำ และที่ใหม่ที่สุด คือการทำงานวิจัยที่สอดคล้องไปกับชุมชน
ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานศิลปะในพื้นที่สาธารณะตามชุมชนอยู่บ้าง แต่พอมาเป็นอาจารย์ ก็ต้องทำในกรอบวิชาการหรือถ้าเป็นงานวิจัยก็ต้องมีกระบวนการการมีส่วนร่วมกับชุมชนอย่างเป็นระบบ ถือเป็นความท้าทายดี ทั้งนี้ ความที่ผมถนัดทำงานศิลปะพิกเซลที่เป็นงานเชิงทัศนศิลป์ดิจิทัล ก็เลยทำงานวิจัยเรื่องการสร้างสรรค์งานพิกเซลอาร์ทในชุมชนพุทธบูชา อำเภอเมืองพิษณุโลก
ชุมชนพุทธบูชาเป็นชุมชนในย่านใจกลางเมือง ภายในเขตเทศบาลนครพิษณุโลก เนื่องจากชุมชนนี้มันมีอาณาเขตครอบคลุมไปถึงย่านตลาดใต้ ก็พอดีกับที่ทางอาจารย์อรวรรณ (ดร.อรวรรณ ศิริสวัสดิ์ อภิชยกุล) และอาจารย์ธนวัฒน์ (ธนวัฒน์ ขวัญบุญ) ทำโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ในย่านตลาดใต้ ทั้งสองก็เลยชวนผมมาร่วมทีมวิจัยในฐานะนักออกแบบสื่อด้วย
ทำงานที่เกี่ยวกับการออกแบบทั้งหมดครับ นำงานพิกเซลอาร์ทที่ทำอยู่แล้วมาใช้เป็นองค์ประกอบศิลป์ ออกแบบโลโก้ของโครงการวิจัย โปสเตอร์ประชาสัมพันธ์ จัดหน้าหนังสือ รวมถึงนำแบบอักษรสุดสมัย (ฟอนต์ ZoodSamai) ที่ได้รับรางวัล Demark 2021 และ G-Mark 2021 จากญี่ปุ่น มาใช้เป็นตัวอักษรหลักในโลโก้ของโครงการตลาดใต้ พิษณุโลกด้วย
ก่อนหน้านี้ ไม่เคยมาตลาดใต้ตอนเช้าเลยครับ สมัยที่ยังเรียนหนังสือผมจะพักอยู่ที่หอของ ม.ใน ซึ่งอยู่ใกล้สนามบินเก่าในตัวเมืองพิษณุโลก และจะต้องนั่งรถประจำทางเพื่อมาเรียนที่ ม.นอก หรือ ม.นเรศวรปัจจุบัน รถเมล์ก็จะผ่านตลาดใต้ตลอด แต่ผมก็ไม่คิดที่จะแวะชมอะไร หรือบ่อยครั้งที่ถ้าไม่รู้ไปไหนตอนเย็น ผมก็จะขี่มอเตอร์ไซค์ไปจอดไว้ที่ย่านตลาดใต้ เพื่อเดินเล่นตลาดกลางคืนไนท์บาซาร์ที่อยู่ติดกัน ซึ่งสมัยก่อนตรงนี้เป็นย่านกลางคืนที่คึกคักมาก แต่นั่นล่ะ ความทรงจำที่ผมมีกับตลาดใต้ นอกจากเป็นที่จอดรถตอนมาไนท์บาซาร์ ก็เป็นย่านการค้าเก่าๆ ที่ค่อนข้างเงียบเหงา เพราะมาตอนกลางคืน ร้านรวงก็ปิดกันหมดแล้ว
กว่าจะได้มาจริงๆ ก็ตอนที่มาทำงานวิจัยเมืองแห่งการเรียนรู้นี่แหละครับ แล้วก็พบว่าตัวเองพลาดอะไรดีๆ ไปตั้งหลายปี (หัวเราะ) นี่เป็นตลาดเช้าที่มันมีบรรยากาศแบบดั้งเดิมที่มีชีวิตชีวามาก และมันเป็นอยู่แบบนี้มาร้อยกว่าปีแล้ว พอมาเดินเล่นโดยสวมมุมมองของอาจารย์ด้านการออกแบบ ก็พบว่าที่นี่มีวัตถุดิบน่าสนใจให้นำไปต่อยอดได้เยอะ ทั้งประวัติศาสตร์ วิถีชีวิต อาหารการกิน ธุรกิจแบบดั้งเดิม ไปจนถึงสถาปัตยกรรม และแบบอักษรที่ปรากฏในป้ายชื่อร้านต่างๆ เอาเป็นว่าตลาดแห่งเดียว ผมชวนนักศึกษามาทำโปรเจกต์ได้ยาวๆ
ที่สำคัญคือ ในภาพรวมของเมืองพิษณุโลกมันไม่ค่อยมีการพูดถึงพื้นที่ร่วมสมัยแบบนี้เท่าไหร่ครับ อย่างที่ทราบกันว่าเมืองนี้มันถูกจดจำด้วยประวัติศาสตร์ตั้งแต่ยุคกรุงศรีอยุธยา หรือที่ร่วมสมัยหน่อยก็คือพิพิธภัณฑ์พื้นบ้านจ่าทวี ซึ่งเป็นพื้นที่เรียนรู้ที่ดีมากๆ ครับ แต่พอมาดูพื้นที่ร่วมสมัยที่ยังเชื่อมร้อยกับวิถีชีวิตคนปัจจุบัน เมืองนี้กลับแห้งแล้ง ก็เลยคิดว่าการขับเคลื่อนตลาดใต้เป็นหนึ่งในการนำร่องที่ดี
และในฐานะอาจารย์ที่สอนด้านการออกแบบ ก็อยากให้เมืองเรามีศูนย์เรียนรู้ที่ร่วมสมัยเพิ่มขึ้นกว่านี้อีกครับ เพราะเมืองนี้นักเรียน นักศึกษา และคนรุ่นใหม่เยอะ แต่พอพ้นไปจากรั้วสถาบันการศึกษา เมืองกลับไม่มีพื้นที่เรียนรู้ให้คนรุ่นใหม่เท่าไหร่เลย”
ผู้ช่วยศาสตราจารย์สรรเสริญ เหรียญทอง
อาจารย์สาขานิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยนเรศวร
ศิลปิน นักออกแบบ และนักวิจัยโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้พิษณุโลก
https://www.facebook.com/zoodstudio/
http://www.zooddooz.xyz/
“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…
ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…
WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…
ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…
สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…
"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…