“หาดใหญ่ไม่ได้มีสถานที่ท่องเที่ยวมากนัก แต่ด้วยทำเลที่มีสนามบินนานาชาติและชุมทางรถไฟ ความพร้อมในด้านโรงแรมที่มีให้เลือกทุกระดับ ที่สำคัญคืออาหารการกินที่หลากหลาย และวิถีชีวิตยามค่ำคืนที่คึกคัก ผมจึงบอกคนอื่นเสมอว่า ที่นี่คือศูนย์กลางของการท่องเที่ยวในระดับภูมิภาค
สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดสงขลา อยู่ใต้ร่มของสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย บทบาทของเราคล้ายๆ หอการค้า แต่จะโฟกัสไปที่การท่องเที่ยว สภาเรามีสมาชิกเป็นสมาคมต่างๆ เช่น สมาคมโรงแรม สมาคมมัคคุเทศก์ และอื่นๆ โดยเรามีหน้าที่เหมือนตัวกลางเชื่อมภาคเอกชนกับภาครัฐ ถ้าภาครัฐมีข่าวหรือโครงการใดๆ เกี่ยวกับการท่องเที่ยว ก็จะส่งมาให้เราไปกระจายต่อยังสมาชิก ในทางกลับกันถ้าภาคเอกชนมีข้อเสนอต่อภาครัฐ เราก็มีหน้าที่รับเรื่องไปเสนอ
ในฐานะประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวจังหวัดสงขลา นอกเหนือจากความพยายามฟื้นฟูการท่องเที่ยวของจังหวัด โดยการประสานกับภาครัฐและสถาบันการเงินในการอัดฉีดอุตสาหกรรมหลังการฟื้นตัว เรากำลังพยายามปรับดีมานด์ไซด์ของกลุ่มนักท่องเที่ยวจากเดิมที่เคยพึ่งพามาเลเซียและสิงคโปร์ เราก็มองไปที่อินโดนีเซีย เวียดนาม และอื่นๆ โดยประสานไปยังภาครัฐ หน่วยงานที่สนับสนุนการท่องเที่ยวระดับนานาชาติ ไปจนถึงสายการบิน เพื่อสร้างแรงจูงใจให้นักท่องเที่ยวตลาดใหม่ๆ เข้ามาในจังหวัด
อย่างที่บอก ผมไม่ได้อยากให้มองว่ามาเที่ยวหาดใหญ่แล้วจะจบที่หาดใหญ่ ไม่มีใครมาซื้อสินค้าหนีภาษีหรือสินค้าราคาถูกจากจีนที่หาดใหญ่อีกแล้ว แต่ในทางกลับกัน สิ่งนี้เป็นเรื่องดี เพราะจริงๆ หาดใหญ่มีศักยภาพมากกว่านั้นมาก โดยเฉพาะการมีชัยภูมิที่ยอดเยี่ยม คุณลงเครื่องบิน เช็คอินที่โรงแรมในเมือง จากนั้นก็ออกเที่ยวพื้นที่รอบๆ ได้แทบทุกทิศเลย คุณจะขึ้นไปดูวิถีชาวประมงที่ลุ่มแม่น้ำทะเลสาบสงขลาก็ได้ ไปเดินเล่นย่านเมืองเก่าสงขลาซึ่งกำลังอยู่ระหว่างการขับเคลื่อนเพื่อขอเป็นเมืองมรดกโลก ชมทะเลน้อยที่จังหวัดพัทลุง หรือออกไปทางจังหวัดสตูล ก็มีแหล่งท่องเที่ยวทางทะเลที่สวยงามมากมาย
เที่ยวเสร็จคุณก็กลับมานอนหาดใหญ่ ที่นี่เต็มไปด้วยของอร่อยตั้งแต่สตรีทฟู้ดไปจนถึงร้านหรู ไนท์ไลฟ์ที่นี่ก็เปี่ยมด้วยชีวิตชีวา เช้าวันต่อมาคุณอาจตื่นมาตักบาตร และขึ้นเขาคอหงส์ไปชมทิวทัศน์ของเมือง ก่อนเดินทางกลับก็ซื้อของฝากที่ตลาดกิมหยง
อีกจุดเด่นของเมืองแห่งนี้คือความพร้อมด้านบริการด้านการแพทย์และสุขภาพ ซึ่งสามารถดึงดูดนักท่องเที่ยวคุณภาพสูงจากต่างประเทศเข้ามาได้ เรามีโรงพยาบาลสงขลานครินทร์ที่รวมแพทย์เก่งๆ ไว้มากที่สุดในภาคใต้ โรงพยาบาลการแพทย์แผนไทย ศูนย์ชีวาศรม ขณะเดียวกันก็มีโรงพยาบาลเอกชนชั้นนำระดับประเทศ ทั้งโรงพยาบาลกรุงเทพหาดใหญ่ โรงพยาบาลราษฎร์ยินดี โรงพยาบาลศิครินทร์ และอื่นๆ
เมื่อโรงพยาบาลพร้อม โรงแรมก็พร้อม หาดใหญ่จึงมีระบบนิเวศของการรักษาและพักฟื้นครบครัน ขณะนี้โรงพยาบาลกรุงเทพกำลังทำ pilot project ร่วมกับโรงแรมและบริษัททัวร์ ทำแพ็คเกจด้านการตรวจสุขภาพและการรักษาเพื่อดึงดูดชาวมาเลเซีย สิงคโปร์ และอินโดนีเซีย คุณมาหาหมอเสร็จ ก็พักฟื้นหรือพักผ่อนที่หาดใหญ่นี่เลย
ส่วนคำถามที่ว่าแล้วหาดใหญ่ขาดอะไร ผมมองว่าเรายังขาดการพัฒนาสาธารณูปโภคครับ เรายังขาดการบูรณาการในการซ่อมบำรุงสาธารณูปโภค เดี๋ยวซ่อมถนน เดี๋ยวขุดซ่อมท่อ วนเวียนไปอย่างนั้น เมืองยังขาดรถประจำทางสาธารณะจริงๆ การจัดการขยะก็ยังไม่ยั่งยืน พื้นที่สีเขียวไม่เพียงพอ และที่สำคัญคือขาดทางเท้าที่มีประสิทธิภาพ เราจึงเดินเท้าในเมืองไม่ได้ และนั่นเป็นเหตุผลว่าทำไมรถจึงติด
ที่ผ่านมาภาครัฐนำเงินไปอัดฉีดกับการจัดอีเวนท์ในเมืองเยอะ ซึ่งผมเห็นด้วยว่าเมืองควรมีอีเวนท์ แต่การลงงบประมาณไปกับแค่เรื่องนี้ ก็เหมือนการปลูกดอกไม้ประดับเมืองที่สุดท้ายก็เฉาลง หรือที่มีข่าวว่ามีหน่วยงานรัฐจะลงทุน 200 ล้านบาท เพื่อทำหอชมเมืองบนเขาคอหงส์ ก็ไม่ต่าง ที่ผ่านมาเรามีโครงการก่อสร้างจากภาครัฐที่เมื่อสร้างเสร็จก็ถูกทิ้งร้างและไม่ได้ใช้งานนับจำนวนไม่ถ้วน เพราะผู้สร้างไม่ได้มองถึงการบริหารจัดการ และหอชมเมืองบนภูเขาที่ทุกคนก็เห็นทิวทัศน์ของเมืองได้ทั่วอยู่แล้ว มันจำเป็นจริงๆ หรือ?
สู้นำงบประมาณที่จะลงทุนโครงการใหญ่ๆ มาทำให้สาธารณูปโภคในเมืองให้มีความพร้อม มีทางเท้าและขนส่งมวลชนที่ใช้ได้จริง ที่จอดรถเพียงพอ และภาพรวมของเมืองมีความน่าอยู่และสะอาด ผมมองว่ารัฐควรเลิกใช้จ่ายเงินกับการปลูกไม้ประดับ และหันไปลงทุนกับต้นไม้ใหญ่ในความหมายของโครงสร้างพื้นฐานของเมืองให้พร้อมเสียที
เพราะถ้าโครงสร้างของเมืองดี ภาคเอกชนก็จะมีความมั่นใจและพร้อมลงทุนกับโครงการใหม่ๆ เอง รัฐไม่จำเป็นต้องไปสร้างแข่งกับเขา”
สมพล ชีววัฒนาพงศ์
ประธานสภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยว จังหวัดสงขลา
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…