“ราชบุรีเป็นเมืองที่มีองค์ความรู้ให้ได้ศึกษาไม่จบสิ้น และองค์ความรู้เหล่านี้ก็เป็นต้นทุนชั้นดีต่อการเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน”

“ถ้าเราดูตามเอกสารและหลักฐานทางงานศิลปกรรม ราชบุรีมีการอาศัยอยู่ของผู้คนมาตั้งแต่ยุคก่อนประวัติศาสตร์ โดยเฉพาะในพื้นที่บ้านโคกพริก ตำบลคุ้งกระถิน อำเภอเมืองราชบุรี ความน่าสนใจก็คือพื้นที่ดังกล่าวเดิมเป็นเส้นทางของแม่น้ำแม่กลองสายเก่า ซึ่งเมื่อแม่น้ำมีการเปลี่ยนเส้นทางในยุคต่อๆ มา ก็มีการเกิดขึ้นของชุมชนตามไปด้วย ทั้งเมืองโบราณคูบัว บริเวณวัดมหาธาตุ มาจนถึงเส้นทางใจกลางตัวเมืองในยุคปัจจุบัน

การเปลี่ยนเส้นทางของแม่น้ำนำมาสู่การตั้งถิ่นฐานของผู้คนในแต่ละยุค และนำมาสู่การกระจายตัวของงานศิลปกรรมที่เป็นผลผลิตของผู้คน เราจึงพบโบราณวัตถุที่สะท้อนยุคสมัยต่างๆ กระจายอยู่ทั่วเมือง ขณะเดียวกัน ด้วยความอุดมสมบูรณ์ของลำน้ำแม่กลอง ก็ยังได้ดึงดูดให้ผู้คนจากพื้นที่ต่างๆ มาลงหลักปักฐาน จนเกิดความหลากหลายทางชาติพันธุ์ ไม่ว่าจะเป็นชาวมอญที่เริ่มมาในสมัยอยุธยา ชาวลาวโซ่งที่เข้ามาในช่วงกรุงธนบุรี ชาวไทยวนที่ถูกกวาดต้อนมาจากทางเชียงแสนในช่วงต้นรัตนโกสินทร์

หรือชาวจีนใช้แม่น้ำแม่กลองเป็นเส้นทางการค้าทำให้ราชบุรีกลายเป็นเมืองท่า ก่อนจะมีการตั้งรกราก และผสานทักษะการทำเครื่องปั้นดินเผาที่ติดตัวมาจากเมืองจีน เข้ากับดินทรายอันอุดมสมบูรณ์ในพื้นที่ จนเกิดเป็นอุตสาหกรรมผลิตโอ่งมังกรที่รุ่งเรืองมาถึงปัจจุบัน

บทบาทหลักของโครงการวิจัยเมืองแห่งการเรียนรู้ของเรา ซึ่งรับผิดชอบโครงการย่อยที่ 1 (โครงการพัฒนาคลังข้อมูลสารสนเทศศิลปวัฒนธรรมเมืองราชบุรี และการพัฒนาต้นแบบแหล่งเรียนรู้: เมืองประวัติศาสตร์และศิลปวัฒนธรรม) คือการค้นคว้าและรวบรวมข้อมูลเหล่านี้มาไว้ในฐานข้อมูล และร่วมกับคณะนักวิจัยท่านอื่นๆ รวมถึงเครือข่ายภาคประชาชนในการพัฒนาข้อมูลเหล่านี้ให้กลายเป็นพื้นที่แห่งการเรียนรู้ของเมือง

โดยกระบวนการทำงานนี้เราเริ่มจากการระดมความคิดเห็นของผู้คนในราชบุรีที่เรียกว่าปฏิบัติการโต๊ะกลม หรือ Desk Project นำข้อมูลที่ได้มาแลกเปลี่ยน และพูดคุยกับคนในชุมชนว่าเราจะสร้างพื้นที่การเรียนรู้ และออกแบบอัตลักษณ์ของเมืองราชบุรีของเราอย่างไร

พร้อมกันนั้นก็ได้ประสานไปทางสถาบันการศึกษาในเขตเทศบาล จัดอบรมเชิงปฏิบัติการทางศิลปวัฒนธรรมแก่เด็กนักเรียน ก่อนจะชวนให้เด็กๆ ตั้งกลุ่มประกวดแนวทางการออกแบบเส้นทางท่องเที่ยวและแหล่งเรียนรู้เกี่ยวกับเมืองราชบุรี ก็ได้รับความร่วมมือจากทั้งโรงเรียนเบญจมราชูทิศ ราชบุรี โรงเรียนดรุณาราชบุรี และโรงเรียนในสังกัดเทศบาล ส่งทีมเข้าร่วม

ในการประกวดครั้งนั้น เราได้เห็นไอเดียในการพัฒนาพื้นที่เรียนรู้ของเด็กๆ หลากหลายมาก ทั้งการทำเส้นทางท่องเที่ยวทางเรือ การจัดนิทรรศการเชิงสร้างสรรค์ในพื้นที่โบราณสถาน การนำอัตลักษณ์ของเมืองอย่างลวดลายของผ้าทอคูบัวหรือโอ่งมังกรมาออกแบบเป็นแลนด์มาร์คใหม่ เป็นต้น แต่ที่น่าดีใจคือในช่วงที่มีการนำเสนอผลงาน ทั้งชาวบ้านและตัวแทนจากหน่วยงานรัฐระดับจังหวัดก็เข้ามารับฟังไอเดียของเด็กๆ ด้วย ซึ่งเราหวังว่าสิ่งนี้จะช่วยสร้างแรงบันดาลใจให้หน่วยงานต่างๆ นำไปพัฒนาจนเกิดเป็นรูปธรรมต่อไป

นอกจากนี้ ควบคู่ไปกับที่ทางทีมวิจัยจากคณะมัณฑนศิลป์ (โครงการย่อยที่ 2) ต่อยอดฐานข้อมูลที่เราทำ และความคิดเห็นของชาวชุมชน ไปพัฒนาเป็นงานออกแบบผลิตภัณฑ์ของเมือง รวมถึงสื่อการเรียนรู้เมืองอย่างบอร์ดเกม เราก็ได้จัดทำนิทรรศการบอกเล่าประวัติและเกร็ดความรู้ที่น่าสนใจของเมืองราชบุรีจัดแสดงบริเวณพื้นที่ริมแม่น้ำแม่กลองภายในตลาดโคยกี๊ และยังจัดแสดงนิทรรศการ HoloLens ที่ใช้เทคโนโลยีภาพเสมือนจริงสามมิติมาเผยให้เห็นถึงสภาพของโบราณวัตถุของเมืองราชบุรีในสภาพที่สมบูรณ์ ภายในพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ ราชบุรี เพื่อเป็นการกระตุ้นการเรียนรู้ประวัติศาสตร์แก่คนทั่วไปเพิ่มขึ้นไปอีก

สำหรับเรา ราชบุรีเป็นเมืองที่มีองค์ความรู้ให้ได้ศึกษาไม่จบสิ้น และองค์ความรู้เหล่านี้ก็เป็นต้นทุนชั้นดีต่อการเป็นเมืองท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมที่ยั่งยืน ซึ่งก็ถือเป็นโชคดีของคนรุ่นใหม่ที่เติบโตมาในยุคสมัยที่สามารถเข้าถึงแหล่งข้อมูลได้ง่าย เมื่อบวกรวมกับบรรยากาศของเมืองที่ช่วยหล่อหลอมให้พวกเขาสนในประวัติศาสตร์ ราชบุรีจึงมีต้นทุนที่พร้อมสรรพที่รอให้คนรุ่นใหม่หยิบไปต่อยอด เพื่อสร้างโอกาสใหม่ๆ ทางเศรษฐกิจอย่างน่าสนใจ”

ศศิธร ศิลป์วุฒยา
อาจารย์ภาควิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร
นักวิจัยในโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ราชบุรี

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

2 weeks ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

2 weeks ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

2 weeks ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

2 weeks ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

2 weeks ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

2 weeks ago