ลำปางเป็นเมืองที่มีศักยภาพ มีกลุ่มคนที่รวมตัวกันจัดกิจกรรมเพื่อเมืองไม่น้อย แต่กลับไม่มีพื้นที่ของกิจกรรมร่วมสมัยเพื่อรองรับคนรุ่นใหม่เท่าที่ควร

“สมัยปู่ผมเป็นหนุ่ม แกซื้อที่ดินขนาด 2 ไร่ที่ติดแม่น้ำวังในชุมชนบ้านต้าไว้ และก็ปล่อยให้มันเป็นป่ารกมาอย่างนั้นมาหลายปี มีเหตุการณ์หนึ่งที่จุดประกายสู่อาชีพของผมทุกวันนี้ คือความที่พ่อผมเอาป้ายคำว่ายินดีต้อนรับมาติดไว้ตรงรั้วของที่ดินนั้น แล้วมีคนจากตัวเมืองลำปางขับรถมาถามพ่อว่าร้านอาหารเราเปิดหรือยัง พ่อก็บอกเราไม่ได้ทำร้าน ตรงนั้นเป็นแค่ที่ดินรก

ตอนนั้นผมยังทำงานเป็นวิศวกรโรงงานอยู่ที่จังหวัดระยอง ส่วนแฟนทำงานนิตยสารอยู่ที่กรุงเทพฯ เราก็คุยกันว่าจริงๆ ที่ดินตรงนั้นมันมีศักยภาพนะ ขนาดร้าง คนยังเข้าใจผิดว่าเป็นร้านเลย ก็ประจวบเหมาะกับที่ผมรู้สึกอิ่มตัวกับงานประจำที่ทำมา 8 ปีแล้วด้วย ก็เลยบอกกับแฟนว่างั้นเรากลับลำปาง ลองทำร้านกาแฟจากที่ดินตรงนั้นกัน โดยตั้งชื่อว่า ‘ฮิมวังคาเฟ่’ ตรงไปตรงมาเลย

แต่นั่นล่ะ ความที่เราสองคนไม่เคยทำธุรกิจมาก่อน และเมื่อ 7 ปีที่แล้ว การจะทำร้านกาแฟที่อยู่ห่างจากใจกลางเมืองเกือบ 10 กิโลเมตรก็เต็มไปด้วยความเสี่ยง ผมเลยตัดสินใจย้ายมาทำงานที่เชียงใหม่ก่อน ส่วนแฟนก็ลาออกมาดูแลร้านโดยตรง และผมก็จะกลับไปช่วยร้านทุกวันเสาร์และอาทิตย์ คือมองว่าถ้าธุรกิจไม่เวิร์ค อย่างน้อยผมก็มีรายได้จากงานประจำเป็นหลัก แต่ก็เพราะด้วยทำเลริมน้ำ ความร่มรื่น และความสงบด้วย ร้านเลยมีลูกค้าอย่างต่อเนื่อง พอเปิดได้ 2 ปี ผมก็เลยมั่นใจว่าธุรกิจเรารอดได้ ก็เลยลาออกจากงานประจำมาช่วยแฟนเต็มตัว

เราสองคนทำกันเองเกือบหมดเลยครับ ความที่แฟนเป็นคนมีเซ้นส์ด้านการออกแบบก็เลยเป็นคนแต่งร้าน ส่วนผมก็มีทักษะช่างไม้ ก็เลยช่วยกันทำตั้งแต่การแต่งร้านไปจนถึงเฟอร์นิเจอร์ ส่วนกาแฟแฟนจะทำเป็นหลัก โดยตอนหลังมีผู้ช่วยแล้ว และพอเอาพิซซ่าแบบโฮมเมดมาขาย ผมก็รับหน้าที่อบพิซซ่า

ความที่เรามีที่ดินค่อนข้างเยอะ นอกจากขายกาแฟและอาหาร เลยคิดถึงการสร้างกิจกรรมอื่นๆ ที่เราสนใจเปิดให้ลูกค้าได้เข้ามาร่วม เอาเข้าจริง แรงบันดาลใจหนึ่งของการทำร้านนี้ มันเกิดจากการที่ผมพบว่าลำปางบ้านเกิดผม มันขาดพื้นที่กิจกรรมแบบนี้ อย่างผมเป็นคนชอบฟังเพลง แต่พอไปนั่งร้านเหล้าในเมืองก็พบว่ารูปแบบของร้านและเพลงที่เปิดเหมือนๆ กันหมด ก็เลยใช้พื้นที่ตรงนี้จัดงานดนตรีเล็กๆ ชวนเพื่อนๆ มาเล่นดนตรีที่เราอยากฟังกัน หรือเมื่อพบว่าในเมืองไม่เคยมีลานสเก็ตบอร์ดเป็นจริงเป็นจังเลย ผมก็ทำลานสเก็ตเปิดให้ลูกค้าได้เล่นฟรี รวมถึงเปิดให้คนที่สนใจอยากจัดเวิร์คช้อปทำสิ่งของหรืองานสร้างสรรค์มาใช้พื้นที่เราได้ เป็นต้น ควบคู่ไปกับการทำธุรกิจ พื้นที่นี้มันยังรองรับงานศิลปะ ดนตรี กีฬา และการพักผ่อน หรืองานอดิเรกส่วนตัวของเราที่แชร์กับลูกค้าที่สนใจไปพร้อมกันครับ

ผมมองว่าลำปางเป็นเมืองที่มีศักยภาพนะครับ มีกลุ่มคนที่รวมตัวกันจัดกิจกรรมเพื่อเมืองไม่น้อย ประเด็นก็คือส่วนใหญ่รูปแบบการจัดกิจกรรมก็ยังเกิดจากมุมมองของราชการหรือคนที่ทำงานเชิงประเพณีมากๆ แต่กลับไม่มีพื้นที่ของกิจกรรมร่วมสมัยเพื่อรองรับคนรุ่นใหม่เท่าที่ควรเลย

ทั้งนี้ ผมไม่ได้แอนตี้กิจกรรมเชิงประเพณีหรืออนุรักษ์วัฒนธรรมนะครับ คิดว่าเป็นเรื่องเหมาะสมแล้วที่ต้องขับเคลื่อนกันต่อไป แต่ผู้ใหญ่ที่มีส่วนในการกำหนดนโยบายของเมืองโดยเฉพาะส่วนราชการ น่าจะคำนึงถึงพื้นที่สร้างสรรค์ของคนรุ่นใหม่บ้าง เรามีมหาวิทยาลัยถึง 5 แห่ง แต่กลับแทบไม่มีพื้นที่เปิดสำหรับให้คนรุ่นใหม่ได้ทำกิจกรรม หรือกระทั่งค้นพบแรงบันดาลใจเลย แล้วก็กลายเป็นว่าพอผมกับแฟนหยุดร้านเมื่อไหร่ เราต้องขับรถไปเชียงใหม่เพื่อเติมเต็มสิ่งที่ขาดตรงนี้

จริงอยู่ที่หลังๆ มานี้คนรุ่นใหม่หลายคนทยอยกันกลับลำปางเพื่อทำธุรกิจในเชิงไลฟ์สไตล์สร้างสรรค์เพิ่มความหลากหลายให้แก่เมืองแล้ว แต่คงดีได้กว่านี้อีกมาก หากหน่วยงานรัฐที่มีอำนาจในการขับเคลื่อนเมืองมีมุมมองที่เปิดกว้างและสร้างสรรค์กว่านี้ เมืองจะดึงดูดคนรุ่นใหม่ให้กลับมาช่วยพัฒนาเศรษฐกิจได้อีกเยอะครับ”

สรัลภพ แก้วบุญปัน และนารถวสี ชมภูพงษ์
เจ้าของร้านฮิมวังคาเฟ่ (
Himwang Cafe)

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

3 days ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

2 weeks ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

2 weeks ago