“ลำพังแค่การศึกษาในชั้นเรียนกับครูของเราอย่างเดียว ไม่เพียงพอ เด็กๆ จำเป็นต้องเรียนรู้กับเจ้าของอาชีพจริงๆ หรือผู้มีประสบการณ์โดยตรง”

ก่อนหน้านี้ผมเป็นวิศวกรที่ประเทศเยอรมนี แต่มีเหตุให้ต้องกลับมาบ้านที่อัมพวา แล้วบังเอิญได้รู้จักคุณพ่อ (บาทหลวง) ที่สอนหนังสือที่โรงเรียนดรุณาราชบุรี ท่านชวนให้ผมมาสอนที่นี่ ความที่ช่วงนั้นผมรับงานติวเตอร์สอนภาษาเยอรมันและวิชาฟิสิกส์ให้นักเรียนที่ราชบุรีอยู่แล้ว จนพบว่าเราชอบสอนหนังสือให้เด็กๆ ก็เลยตกลงมาสอนประจำที่โรงเรียนนี้ ตอนนี้สอนมาได้ 4 ปีแล้วครับ

ผมเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ และเป็นหัวหน้างานหลักสูตรการอาชีพ โดยตำแหน่งหลังนี้ เป็นหลักสูตรที่เปิดให้นักเรียนได้เลือกวิชาชีพที่เขาอยากเรียนเสริมไปพร้อมกับหลักสูตรการศึกษาทั่วไป แบ่งออกเป็น 2 แผน ได้แก่ แผนศิลป์-ธุรกิจ และแผนศิลป์-กีฬา แต่ละแผนก็จะมีเอกวิชาแยกย่อยออกไป ตั้งแต่ ภาษาอังกฤษ จีนธุรกิจ คหกรรม ไอที ไปจนถึงช่างไฟฟ้า นักเรียนสนใจอยากเรียนวิชาอะไรก็เลือกเอกนั้น

พร้อมกันนี้ทางผมก็จะทำ MOU กับสถาบันต่างๆ ที่เชี่ยวชาญวิชาเฉพาะ เพื่อให้เด็กนักเรียนในแผนได้เข้าร่วมกิจกรรมการเรียนรู้กับสถาบันนั้นๆ ทั้งในรูปแบบส่งเด็กนักเรียนหรือบุคลากรของเราไปเรียนที่สถาบัน และทางสถาบันส่งผู้เชี่ยวชาญมาอบรมที่โรงเรียน เช่น ที่เราทำกับมหาวิทยาลัยศิลปากรด้านการอบรมยุวมัคคุเทศก์ ทำเรื่องฝึกอาชีพกับสถาบันการจัดการปัญญาภิวัฒน์ ไปจนถึงเรื่องฟุตบอลที่เราทำกับสโมสรอาชีพของเมืองราชบุรี เป็นต้น

ที่เราทำ MOU แบบนี้เพราะตระหนักว่าลำพังแค่การศึกษาในชั้นเรียนกับครูของเราอย่างเดียว ไม่เพียงพอ เด็กๆ จำเป็นต้องเรียนรู้กับเจ้าของอาชีพจริงๆ หรือผู้มีประสบการณ์โดยตรง

นอกจากนี้ ไม่เพียงได้เรียนรู้วิชาที่ว่าด้วยพื้นฐานอาชีพ แต่หลักสูตรนี้ยังทำให้เด็กนักเรียนได้ค้นพบความสนใจที่แท้จริงของตัวเองด้วย ถ้าไม่ชอบ ก็อาจหันไปเรียนอย่างอื่น แต่ถ้าชอบในสิ่งที่กำลังเรียนอยู่ ก็จะง่ายต่อการต่อยอดไปสู่การศึกษาในระดับสูงขึ้นไป

ผมมองว่า pain point หนึ่งของการศึกษาบ้านเราคือ คนส่วนใหญ่มีทัศนคติไม่ดีต่อการเรียนสายอาชีพ หลายคนจึงเลือกที่จะเรียนระดับสามัญ ทั้งๆ ที่บางคนอาจมีศักยภาพไปทางนั้น แต่ก็จำต้องเรียนในสิ่งที่เขาอาจไม่สนใจจริงๆ ซึ่งแตกต่างจากที่ประเทศเยอรมนี ที่ให้ค่ากับการศึกษาในวิทยาลัยวิชาชีพ มีการส่งเสริม และพัฒนาหลักสูตรอย่างเข้มข้นจริงจัง หลักสูตรที่ผมดูอยู่ตอนนี้ จึงเหมือนเป็นพื้นที่กลางที่ทำให้เด็กๆ อาจมองเห็นศักยภาพที่จะไปต่อทางวิชาชีพ พร้อมกับที่พวกเขายังคงเรียนในหลักสูตรสามัญอยู่

แม้จะไม่ใช่คนราชบุรี แต่ความที่เราทำงานด้านการศึกษาในเมืองเมืองนี้ คำถามที่ว่าอยากส่งเสริมให้คนที่นี่รู้เรื่องอะไร คำตอบก็น่าจะเป็นการรู้จักตัวเองและเรียนรู้ที่จะได้รู้เรื่องเมืองของตัวเอง โดยคำตอบนี้มันไม่ใช่แค่คนราชบุรี แต่เป็นทุกคนที่อาศัยอยู่ในเมืองของตัวเองทั้งหมด เพราะถ้ารู้จักตัวเองและที่ที่เราอยู่ มันก็ง่ายต่อการต่อยอดด้านอาชีพ การทำมาหากิน การทำธุรกิจ รวมถึงการได้อยู่ในเมืองอย่างเป็นสุข  

อย่างเมืองราชบุรีเอง เรามีเรื่องน่าสนใจให้รู้เยอะมาก ศิลปวัฒนธรรม ประวัติศาสตร์ ความหลากหลายทางชาติพันธุ์ อย่างไรก็ตาม ผมรู้สึกเสียดายเล็กน้อยที่เรากลับมีพื้นที่ด้านการเรียนรู้สิ่งเหล่านี้ในย่านใจกลางเมืองไม่มากเท่าที่ควร เรามีพิพิธภัณฑ์เพียงแห่งเดียว ขณะที่ศูนย์การเรียนรู้ในโรงเรียนก็จะเป็นพื้นที่ของนักเรียนอย่างเดียว คนทั่วไปที่อาจไม่ได้อยู่ในระบบการศึกษาก็ไม่มีโอกาสเข้ามาเรียนรู้ด้วย

อย่างไรก็ตาม ศูนย์การเรียนรู้ที่ผมว่านี่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะอยู่ในรูปแบบของพิพิธภัณฑ์ หรืออาคารอย่างเดียวนะครับ เราสามารถทำสื่อการเรียนรู้รูปแบบต่างๆ ไปตั้งตามพื้นที่ในเมืองได้เยอะ เอาข้อมูลของเมืองที่เรามีมาย่อยและนำเสนออย่างน่าสนใจ เป็นป้าย เป็นเกม เป็นแลนด์มาร์ค ขณะเดียวกัน โรงเรียนต่างๆ ในเมืองที่มีศูนย์การเรียนรู้ของตัวเอง ถ้าจัดให้มี open house เปิดให้คนอื่นๆ เข้ามาใช้พื้นที่ได้บ้างในบางวาระ สิ่งนี้ก็สร้างบรรยากาศของการเรียนรู้ให้กับเมืองเราได้ไม่น้อย”  

ชวลิต เจียมจรรยา
หัวหน้างานหลักสูตรการอาชีพ โรงเรียนดรุณาราชบุรี

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[The Insider]<br />พัชรี แซมสนธ์

“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…

4 weeks ago

[The Insider]<br />พรทิพย์ จันทร์ตระกูล

“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…

4 weeks ago

[The Insider]<br />ณรงค์ศักดิ์ เตือนสกุล

“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…

1 month ago

[The Insider]<br />นนทพัฒ ถปะติวงศ์

“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…

1 month ago

[The Citizens]<br />ชวนพิศ สุริยวงค์

“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว  ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…

1 month ago

[The Citizens]<br />กาญจนา ใจปา และพิทักษ์พงศ์ เชอมือ

“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…

1 month ago