“พื้นเพผมเป็นคนสมุทรสาคร ได้ภรรยาเป็นคนปากพูน เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ และความที่พ่อตาทำสวนมะพร้าว เลยรับกิจการทำสวนมะพร้าวต่อมา ก่อนหน้านี้ผมเป็นช่างก่อสร้าง จึงไม่มีปัญหากับการทำงานบนที่สูงอย่างการปีนต้นมะพร้าว
ชุมชนที่ผมอยู่นี่มีการทำสวนมะพร้าวส่งต่อมาหลายรุ่น จะมีทั้งเก็บผลขาย ไม่ก็ทำน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งสวนของผมนี่ทำน้ำตาลมะพร้าวอย่างเดียว ทำมายี่สิบกว่าปีแล้ว
ผมมีสวนอยู่ 7 ไร่ เป็นมะพร้าวน้ำตาล ลำต้นไม่สูง ใช้บันไดปีนเก็บได้เลย น้ำตาลสดนี่ได้จากช่อดอก ผมจะปีนขึ้นไปปาดตาลและหาถังไปรองน้ำตาลจากช่อดอก เช้ารอบหนึ่ง และเย็นอีกรอบหนึ่งสลับกันไปเก็บและไปรองใหม่อยู่อย่างนี้ พอได้มาก็เอาไปต้มและเคี่ยวในกระทะใบบัวประมาณ 3-4 ชั่วโมง จะได้น้ำตาลมะพร้าวมาใส่ปี๊บ เลยเรียกกันว่าน้ำตาลปี๊บ ส่วนใหญ่โรงเหล้าจะมารับซื้อไปทำสุราชุมชน เขาจะสั่งทีหลายถังเลย บางส่วนผมก็เอาใส่กระปุกส่งขายสำหรับคนเอาไปทำอาหารหรือทำขนม
ผมขายน้ำตาลมะพร้าวแบบนี้มาหลายปี จนไม่นานมานี้ หลังจากลูกสาวเรียนจบและรอบรรจุราชการ ลูกก็กลับมาอยู่บ้าน และไปได้ความคิดมาว่าน่าจะทำน้ำตาลมะพร้าวให้ขายคนทั่วไปได้ง่ายกว่านี้ จึงทดลองเอาน้ำตาลไปใส่แม่พิมพ์ทรงลูกเต๋า ออกมาเป็นน้ำตาลทรงลูกเต๋าขนาดเล็กและใหญ่ ทำให้หยิบใช้หรือกินง่าย โดยเฉพาะใส่กาแฟดื่ม เป็นเจ้าเดียวในปากพูนเลย และอีกส่วนก็ลองทำคาราเมลจากน้ำตาลมะพร้าวบรรจุขวด ลูกสาวเลยเปิดเพจเฟซบุ๊ค เพื่อช่วยจัดจำหน่ายอีกช่องทางหนึ่ง
ทุกวันนี้ลูกสาวย้ายไปเป็นครูที่จังหวัดระนองแล้ว แต่ก็ยังดูเฟซบุ๊คให้ตลอด ถ้ามีคนสั่งซื้อมา เขาก็จะส่งไลน์มาบอกจำนวนที่ภรรยา ผมก็จะทำเพิ่มใส่กระปุกตามออร์เดอร์ และให้ภรรยาเอาไปส่งไปรษณีย์ตามที่อยู่ของลูกค้า ก็เป็นรายได้ที่เสริมเข้ามาพอสมควร จากนั้นก็ได้ทางหน่วยงานต่างๆ มาสนับสนุนให้น้ำตาลลูกเต๋านี้เป็นสินค้าโอท็อป และอยู่ระหว่างจดทะเบียนลิขสิทธิ์
ผมขึ้นมะพร้าวทุกวัน เพราะน้ำตาลสดมันออกทุกวัน จะมีหยุดพักบ้างก็ช่วงฤดูฝนสักเดือนหรือสองเดือน เพราะถ้าวันไหนฝนตกหนัก น้ำฝนก็ชะความเข้มข้นของน้ำตาลออก คุณภาพจะไม่ดี ช่วงที่หยุดบางครั้งผมก็ไปรับงานก่อสร้างบ้าง สวนของผมไม่ใช้สารเคมีใดๆ บางทีก็เจอโรคหรือแมงกินใบบ้าง แต่ก็ไม่เยอะ และไม่กระทบอะไร
และก็เพราะไม่ได้ใช้เคมี ต้นมะพร้าวเลยแข็งแรงและให้น้ำตาลสดตลอด คิดว่าคงเก็บน้ำตาลไปได้อีกหลายสิบปีจนกว่าต้นจะหมดอายุขัย หรือไม่แน่ร่างกายผมอาจปีนไม่ไหวไปเสียก่อน (ยิ้ม) แต่ทุกวันนี้ ก็มีลูกชายคนโตอีกคนมาช่วยเก็บเป็นหลัก น่าจะเป็นอาชีพของเขาต่อไปอีกนาน
ลุงแดง-สุนทร พงษ์หา และกิ่ง พงษ์หา
สวนมะพร้าวลุงแดง
Facebook: ลุงแดง น้ำตาลมะพร้าวแท้ 100%
http://bit.ly/3TBkvm5
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…