“แม่ไม่มีลูก มีแต่หลานๆ และความที่เราเป็นประธานชุมชนและอยู่มานาน คนในชุมชนและในตลาดจึงเรียกเราติดปากว่าแม่ เลยมีลูกๆ เป็นพ่อค้าแม่ค้าในตลาดแทน (ยิ้ม) ลูกๆ และหลานๆ เหล่านี้นี่แหละสอนแม่ใช้ไลน์ สอนให้รู้ว่าจะจ่ายเงินหรือรับโอนเงินทางมือถืออย่างไร ซึ่งทำให้ชีวิตแม่ง่ายขึ้นมาก
แม่มีกลุ่มไลน์ที่ตั้งไว้ขายอาหาร ในทุกๆ เย็น เราจะเขียนบอกคนในกลุ่มว่าพรุ่งนี้จะทำกับข้าวอะไรบ้าง ไข่คว่ำ หลามบอน น้ำพริกแมงดา แกงฮังเล จอผักกาด วันหนึ่งประมาณ 5-6 อย่าง จากนั้นแต่ละคนก็จะเขียนออเดอร์ทิ้งไว้ในกลุ่ม ทีนี้เราก็รู้แล้วว่าจะต้องทำกับข้าวแต่ละอย่างปริมาณเท่าไหร่ และก็ทำเผื่อไว้ประมาณหนึ่งสำหรับบ้านที่เขาไม่มีไลน์ พอตอนเช้า แม่ก็ขี่มอเตอร์ไซค์ตระเวนส่งตามที่แต่ละบ้านสั่งไว้ ซึ่งเกือบทั้งหมดอยู่ในย่านคูเมือง เฉลี่ยวันหนึ่งจะมีขาประจำประมาณ 30 กว่าหลัง และมีขาจรอีก 10 กว่าๆ อย่างบ้านไหนไม่มีไลน์ แม่ก็จะจอดรถเอิ้น เอากับข้าวเปล่าเจ้า ก่อนจะร่ายไปว่ามีอะไรบ้าง แม่ทำอย่างนี้ทุกวัน ถ้าไม่แวะเม้าท์มอยกับลูกค้า วันหนึ่งส่งอาหารชั่วโมงเดียวก็เสร็จ และถ้ารู้ว่าอีกวันต้องมีธุระไปทำงานให้ชุมชน ก็แค่ไลน์บอกเขาว่าพรุ่งนี้ไม่ส่ง โดยจะมีวันศุกร์วันเดียวที่แม่ไปเปิดร้านที่กาดกองเก่า ถนนคนเดินวัดล่ามช้าง วันนั้นก็จะทำเยอะหน่อย แต่ก็ขายหมดตลอด
พอเปลี่ยนมาขายกับข้าวทางไลน์แบบนี้ ทำให้แม่จ่ายตลาดง่าย ทำแล้วก็ไม่เหลือทิ้ง แล้วก็ไม่ต้องเสียค่าเช่าสถานที่หรือต้องรอว่าเมื่อไหร่ลูกค้าจะเข้ามาอีก มีเวลาเหลือไปทำอย่างอื่น แต่ที่เป็นแบบนี้ได้ก็มาจากการที่เราเคยเปิดร้านมาก่อนในชุมชนควรค่าม้ามาหลายปี ทำให้มีลูกค้าประจำด้วย
ตอนแรกก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะขายแบบนี้ แต่มีเหตุที่ทำให้แม่ไม่ได้ขายในร้านที่เดิมแล้ว และเราต้องย้ายบ้านมาอยู่ย่านสันติธรรม ซึ่งที่อยู่ใหม่มันไม่เหมาะจะเปิดเป็นร้าน คิดอยู่สักพักว่าจะทำยังไง เลิกขายดีไหม จนมีลูกๆ หลานๆ มาสอนให้เล่นไลน์ ซึ่งเป็นเรื่องใหม่มากๆ สำหรับเรา แต่ก็ทำให้เราได้คิดว่านอกจากส่งสติ๊กเกอร์สวัสดีประจำวัน หรือส่งรูปมาอวดเพื่อนๆ ในกลุ่มกัน เราก็ขายกับข้าวทางนี้ได้เหมือนกันนี่ ยิ่งช่วงโควิดมาใหม่ๆ และคนไม่อยากออกไปข้างนอก เรายิ่งขายดีเลย
นี่ขายกับข้าวทางออนไลน์นี้มาก่อนพวกฟู้ดแพนด้าหรือแกร็บฟู้ดจะเข้ามาในเชียงใหม่อีกนะ (ยิ้ม)”
///
แม่แอ – รัตนา ชูเกษ
ประธานชุมชนควรค่าม้าสามัคคี และแม่ค้าขายกับข้าวพื้นเมืองทาง (ออน) ไลน์
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…
เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…
การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…
แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…