ศาลเจ้าอยู่ที่เงินบริจาคและเงินจัดงาน ถ้าได้มาต้องสร้างเพื่อเรียกศรัทธาให้คนบริจาคเขาเห็น ไม่ใช่บริจาคแล้วศาลเจ้ายังซอมซ่อ ต้องทำให้งดงาม เงินเหลือก็พยายามใช้ให้หมด เหลือมากแล้วเป็นกิเลส

“คนจีนเข้ามาตั้งแต่สมัยขุดคลองรัชกาลที่ 5 ทุกคลองก็สร้างศาลเจ้าเป็นศูนย์รวม ศาลเจ้าคลอง 12 ที่นี่ร้อยปีขึ้น รุ่นพ่อมีแล้ว ผมเป็นรุ่นที่ 2 ตอนนี้อายุเจ็ดสิบกว่า เกิดมาก็เห็นแล้ว แต่เดิมเป็นศาลเจ้าไม้ เป็นสังกะสี เขาก็พัฒนามาเรื่อย เราเป็นคนดูแลศาลเจ้า มาเก็บมากวาด ใครมาไหว้เราก็ดูเขาขาดเหลืออะไร ตรงนี้ปักธูปกี่ดอกเราก็บอกเขา เวลาไปศาลเจ้าที่ไหนต้องไหว้ฟ้าดินด้านหน้าศาลเจ้าก่อน เขาใหญ่สุด เหมือนเราไปวัดต้องไปไหว้เจ้าอาวาสก่อน ของที่นี่เป็นเสามังกรฟ้าดินมีมังกรสองตัวสีเหลืองกับสีเขียวพันกันอยู่ เป็นเสาตะเกียง ข้างบนมีตะเกียงส่องสว่าง มีเจ้าพ่อปึงเถ่ากง แป๊ะกงก็เป็นอาจารย์ของท่าน มีเจ้าแม่กวนอิมที่ผู้หญิงชอบมาไหว้ เจ้าพ่อกวนอู พระสังกัจจายน์ หลวงพ่อโสธร ทั้งหมดก็จำลองมา อย่างเทพปึงเถ่ากง มีสองประเภท บางศาลเจ้าเขียนปึงเถ่ากงม่า คือมีทั้งเจ้าพ่อเจ้าแม่ แต่ของเรานี่เสี่ยงทายแล้วท่านไม่ยอมมีคู่ ท่านจะอยู่กับอาจารย์แป๊ะกง ก็เป็นปึงเถ่ากง แต่ดั้งเดิมเขามาเป็นแบบนี้ เราไม่เปลี่ยนอะไร เวลาจะทำอะไรก็เสี่ยงทายถามท่านทุกเรื่อง ที่เป็นแท่งไม้ประกบคู่แล้วโยนออกมาคว่ำหงายแบบนั้นแหละ

แต่ละศาลเจ้ามีงานเทศกาลประจำปี จัดงานไล่ ๆ กันไป มีคลอง 10 ก่อน แล้วไปคลอง 13 ไปองครักษ์ ย้อนไปคลอง 12 คลอง 11 ตามเครือข่ายที่เอาแรงกันอยู่นะ เขาเชิญเราไปก็ใส่ซองช่วยเขา เวลาเรามีเชิญเขาก็ใส่ซองมาช่วย ของเราจัดตามปฏิทินจีน วันชิวซา เดือน 2 วันที่ 3 ก็เตรียมชุดถวายเครื่องทรง กระดาษเงินกระดาษทอง ไหว้แล้วก็เผาส่งให้ท่าน ของไหว้ก็เป็ดไก่หัวหมู ขนมมงคลพวกถ้วยฟู ให้เฟื่องฟู ไหว้แล้วก็แจกจ่ายกันไปกิน งานมี 5 วัน ลานข้างหน้าก็ตั้งโต๊ะจีน 50 โต๊ะ มีงิ้วเล่นทั้ง 5 วัน ฉายหนัง 3 วัน ส่วนใหญ่คือเปิดให้เจ้าดู งิ้วเดี๋ยวนี้เด็กก็ไม่ดู คณะงิ้วก็คณะเดิม เจ้าของหรือคนแสดงอาจเปลี่ยน มีหัวหน้าคณะที่เคยติดต่ออยู่แล้วเขาแยกคณะไปจะกลับมาเล่น เราเสี่ยงทายถาม ท่านก็ไม่เอา จะเอาเจ้าเก่า หนังก็ฉายหนังจีนเก่า ๆ อยากจะเลิก เสี่ยงทายแล้วท่านไม่ให้เลิก ก็ลบหลู่ไม่ได้ เคยทำมาก็ต้องทำไป เราไม่อยากเปลี่ยนอะไร เคยเปลี่ยนครั้งนึงแล้วกรรมการมีอันเป็นไป เมื่อก่อนมันไม่สะดวก กรรมการรุ่นพ่อเขาจอดรถฝั่งโน้น แล้วหามเครื่องเล่นเป็นลังไม้ข้ามสะพานไม้มา เขาเหนื่อย เขาก็บ่นปีหน้าไม่แบกแล้ว หกล้มตกสะพานฟันหักเดี๋ยวนั้นเลย

งานประจำปีเหมือนเป็นการรวมตัวคนในชุมชนมาพบปะกัน พวกที่ออกไปอยู่ข้างนอกก็กลับมาเยี่ยมญาติ มากินเลี้ยงโต๊ะจีน บางคนมาได้ก็มา ขึ้นอยู่กับเศรษฐกิจด้วย ช่วงโควิดจัดงานไม่ได้มาสองปีก็แค่ซื้อของมาไหว้ การจัดงานประจำปีส่วนนึงก็เพื่อรวบรวมเงินเป็นทุนไว้จัดงานปีหน้า เรามีการประมูลของ เขาประมูลห้าร้อยเราก็ให้ลอตเตอรี่พันนึง ต้องให้เขามีลุ้น มีเสามังกรโคมไฟกระดาษตัดกิ่งไผ่ปักให้ประมูลไปติดห้างร้านเป็นมงคล คืนสุดท้ายมีเชิดสิงโต เช้ามาก็แห่โคมไฟที่ประมูลไปส่งให้เขาถึงบ้าน เราไม่ได้มีเรี่ยไรบริจาคอะไร ทำกันแบบลูกศิษย์ศรัทธาคนเก่า ๆ ก็ร่อยหรอลงไป วันข้างหน้าผมว่าลำบาก เศรษฐกิจแบบนี้ด้วย ของไหว้ตัดไม่ได้ รายจ่ายมีแต่เพิ่ม รายได้ลดลง ก็ประคับประคองให้ปีนึงจัดงานได้ ศาลเจ้าอยู่ที่เงินบริจาคและเงินจัดงาน ถ้าได้มาต้องสร้างเพื่อเรียกศรัทธาให้คนบริจาคเขาเห็น ไม่ใช่บริจาคแล้วศาลเจ้ายังซอมซ่อ ต้องทำให้งดงาม เงินเหลือก็เหลือไว้ใช้ปีต่อปี พยายามใช้ให้หมด เหลือมากแล้วเป็นกิเลส

คนมาไหว้ขอพร โชคลาภ ร่ำรวย หายป่วย ที่นี่โชคลาภไม่ค่อยมีหรอก คนน้อย ถ้าคนมาไหว้เยอะร้อยคนต้องมีถูกสักคนแหละ ก็กลายเป็นศักดิ์สิทธิ์ คนไม่ถูกก็เงียบ ๆ คือทั่วไปคนข้างนอกจะเข้ามาต้องมีสิ่งดึงดูดอย่างให้หวยแม่น มีคนดูหมอ คนเข้าทรง แต่ผมไม่นิยม เดี๋ยวคนมาเรียกเงิน มาหลอกลวง ว่าโชคไม่ดีต้องมาสะเดาะเคราะห์ เงินเข้ากระเป๋าเขา ไม่ได้เข้าเจ้า เราไม่เอาหรอก ของเราทำมาตั้งนานไม่มีด่างพร้อยอะไร อยู่เงียบ ๆ ใครศรัทธาก็มาไหว้ ที่นี่ทำเลสวย คนขับรถผ่านมองข้ามคลองมาเห็นศาลเจ้าสวย ก็ข้ามสะพานปูนมาไหว้ ช่วงตรุษจีน สารทจีน เขาก็ไหว้สืบทอดเทศกาล ผมก็บอกคนมาไหว้ เศรษฐกิจไม่ดี ก็ไหว้ตามกำลัง ไม่ให้เดือดร้อน เจ้าท่านไม่ว่าหรอก บางทีเป็ดไก่แพง ผมก็ซื้อปลามาไหว้ เราอยากกินอะไรก็ไหว้ ลูกหลานก็แจกจ่ายกันกินต่อ มันดีอย่างที่ไม่สูญเปล่า”

โสภณ ตั้งคติธรรม

ปราชญ์ชาวบ้านศาสนาประเพณีและวัฒนธรรม พิธีความเชื่อ วัฒนธรรมจีน

ผู้ดูแลศาลเจ้าเทวาลัย คลอง 12

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

3 days ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

5 days ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

5 days ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

6 days ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

6 days ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

6 days ago