“อยู่ข้างล่างครับ”
เป็นคำตอบที่ได้รับในทันทีที่ฉันถามว่าแผนกเครื่องเขียนอยู่ที่ไหน หลังจากไปเดินวนอยู่พักหนึ่งฉันก็ถามเจ้าหน้าที่ข้างล่างด้วยคำถามเดียวกัน แต่คราวนี้ได้คำตอบว่าอยู่ข้างบน! วันนั้น ฉันไม่ได้ของที่ต้องการติดมือกลับบ้านเพราะร้านเก็บกลับไปหมดแล้ว แต่กว่าจะรู้ ก็ถูกส่งจากที่หนึ่งไปอีกที่หนึ่งเพื่อไปอีกที่หนึ่งแล้วย้อนกลับไปที่เดิมอยู่ร่วมชั่วโมงด้วยความมั่นใจของพนักงานขายที่ไม่รู้ว่าแผนกของตัวมีของที่ลูกค้าถามหาหรือเปล่า
เหตุการณ์นี้ตอกย้ำความเศร้าของฉันที่มักรู้สึกเสมอว่าคนไทยไม่ค่อยจะนิยมการเรียนรู้เอาเสียเลย ฉันมักจะพบ “ความมั่นใจ”
ที่ตั้งอยู่บนความเชื่อมั่นในตัวเองมากกว่าจะอยู่บนฐานของการศึกษาหาข้อมูล และมักจะพบว่าคนจำนวนมากไม่ใส่ใจเรียนรู้เกี่ยวกับงานของตน แค่อยากได้ตำแหน่งหน้าที่แต่ไม่สนใจว่าอาชีพของตัวควรมีความรู้ในเรื่องอะไรบ้าง
ในขณะที่คนไทยแต่ก่อนมักถูกวิจารณ์ว่าขี้อาย ไม่มีความมั่นใจในตัวเอง คนไทยสมัยใหม่กลับมักจะมีความมั่นใจในตัวเองสูง ที่น่าเสียดายก็คือความมั่นใจนั้นมักไม่ได้เกิดจากการเรียนรู้จนแน่ใจว่าสิ่ง ที่ตัวเองคิดหรือรู้นั้นถูกต้อง
ฉันพบงานแปลในท้องตลาดที่แปลผิดอย่างไม่น่าเชื่อ ซึ่งทำให้ฉันคิดว่าคนแปลต้องมั่นใจในภาษาของตัวเองมากจนไม่คิดจะเปิดพจนานุกรมทั้งที่แปลเป็นภาษาไทยออกมาแล้วอ่านแทบไม่รู้เรื่อง ได้ฟังคนกล่าวสุนทรพจน์ผิดๆ ถูกๆ เพราะมั่นใจจนไม่คิดจะซ้อมอ่านโพยที่คนอื่นเขียนมาให้ตัวก่อนขึ้นปราศรัย
ได้พบการแสดงความเห็นจำนวนมากในสังคมออนไลน์ที่ตั้งอยู่บนฐานของความรู้สึกและอคติของคนเขียนมากกว่าจะผ่านการค้นหาข้อเท็จจริงก่อนจะเข้าไปร่วมวงแสดงความเห็น แม้แต่การให้คำแนะนำซึ่งควรจะมาจากคนที่มีความรู้ในเรื่องนั้นจริงๆ ก็เคยเห็นคนให้คำแนะนำกันให้เกร่อและหลายๆ คำแนะนำก็เห็นได้ชัดว่าคนให้ไม่ได้รู้เรื่องที่ตนกำลังพูดอยู่เลย! และเมื่อวานนี้เอง คนขับรถเมล์ที่มั่นใจว่ารู้จักโรงละครที่ฉันจะไป ก็ส่งฉันลงแค่ 6 ป้ายรถเมล์ก่อนจะถึงโรงละครเท่านั้นเอง!!
ที่ฉันเศร้ามากกว่าคือการพบว่าคนไทยจำนวนมากไม่สนใจจะเรียนรู้เกี่ยวกับงานของตัวเอง ฉันรู้จักกรรมการหลายคนที่เข้าประชุมโดยไม่อ่านเอกสารประกอบการประชุมที่เขาเตรียมให้มาล่วงหน้า เคยเห็นคนขายกล้องที่ทำเป็นแค่หยิบกล้องขึ้นมาให้ลูกค้าดูโดยไม่มีความรู้เกี่ยวกับกล้องนั้นเลย เคยพบพนักงานขายหลายคนจากหลายห้างที่บอกฉันว่าที่ร้านไม่มีสินค้าที่
ฉันหาแล้วฉันก็พบว่ามันมีวางขายอยู่บนชั้นในแผนกนั้นเอง อาการอยากได้งานได้ตำแหน่งโดยไม่คิดจะเรียนรู้งานนี้ดูจะระบาดไปทั่วตั้งแต่ระดับผู้นำไปจนถึงลูกกระจ๊อกที่มีตำแหน่งเล็กสุด
เรามาเริ่มต้นกันใหม่ดีไหมคะ เริ่มที่ตัวเรานั่นแหละก่อนคนอื่น
เราอาจไม่โชคดีพอที่จะได้ทำงานที่ตัวเองชอบ แต่ทุกงาน เมื่อจับทำแล้ว เราสามารถเรียนรู้เกี่ยวกับมันได้เสมอและการเรียนรู้นั้นก็ช่วยเพิ่มพูนประสบการณ์ เสริมสร้างคลังความรู้ให้กับตัวเองซึ่งอาจเป็นประโยชน์ต่อการทำงานของเราในอนาคตได้ ที่สำคัญ การตั้งใจเรียนรู้เกี่ยวกับงานที่กำลังทำเป็นการสร้างนิสัยที่ดีให้ตัวเองที่จะช่วยให้เราก้าวต่อไปได้ดีกว่าที่จะปล่อยเวลาให้ล่วงเลยไปเฉยๆ ไหนๆ
ก็ต้องใช้เวลาอย่างน้อย 8 ชั่วโมงกับงานอยู่แล้ว
ก็น่าจะมีอะไรกลับมาช่วยเพิ่มพูนคุณค่าของตัวเราเองบ้างไม่ใช่หรือคะ
ในนิยายเรื่อง Shane มีประโยคหนึ่งที่ฉันจำฝังใจมาแต่เด็กและคิดว่าจริงอย่างที่สุด นั่นคือ “มันไม่สำคัญหรอกว่าเรารู้อะไร (หรือเรียนอะไรมา) สำคัญที่ว่าเราเป็นคนอย่างไรต่างหาก”
ถ้าหากเราเป็นคนใฝ่เรียนรู้ ไม่ว่าจะจับงานอะไร ต่อให้ไม่มีพื้นฐานมาก่อนเลย ก็สามารถเรียนรู้งานจนกลายเป็นผู้เชี่ยวชาญได้ในเวลาไม่นานเกินรอ
อย่าปล่อยให้สังคมไทยกลายเป็นสังคมที่เต็มไปด้วยข้อมูลแต่ไม่มีการเรียนรู้เลยนะคะ
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…
“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…
“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…
“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…
“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม) จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…
“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…