“อาตมาเป็นคนสมุทรสาคร บวชอยู่กรุงเทพฯ ได้ 6 ปี ช่วงปี พ.ศ. 2514 พระอาจารย์ว่วยจง เจ้าอาวาสวัดฉื่อฉาง ถึงแก่มรณภาพ อาตมาจึงเดินทางมาหาดใหญ่เป็นครั้งแรกเพื่อร่วมงานศพ และช่วยดูวัดนี้ต่อ จนปี พ.ศ. 2517 เขาก็ให้เป็นเจ้าอาวาส จึงต้องอยู่ที่วัดแห่งนี้ไม่ได้ไปไหนตั้งแต่นั้น
ฉื่อฉางเป็นคำภาษาจีนเพี้ยนมาจาก ‘ฉื่อซ่านซื่อ’ แปลว่าเมตตากรุณา แต่เดิมที่นี่เป็นศาลเจ้าลื่อโจ๊ว ก่อตั้งมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2479 โดยพ่อค้าชาวจีนที่มาทำการค้าที่หาดใหญ่ ก่อนจะมีการยกสถานะเป็นวัดในปัจจุบัน
ตอนอาตมามาอยู่ที่นี่ใหม่ๆ หาดใหญ่ยังไม่พลุกพล่านเหมือนทุกวันนี้ บ้านเรือนยังเป็นไม้มุงจาก ส่วนวัดก็เป็นเรือนไม้ชั้นเดียวมุงกระเบื้องข้าวหลามตัด ถนนหนทางหลายสายยังเป็นลูกรัง และน้ำก็ท่วมเข้ามาในเมืองบ่อย ปี พ.ศ. 2531 หาดใหญ่มีน้ำท่วมใหญ่เข้ามาครึ่งวัด อาตมาต้องย้ายไปอยู่บนชั้นสองของบ้านไม้ที่อยู่ด้านหลังอยู่พักใหญ่ จนน้ำลดอาคารของวัดก็โทรมจนแทบไม่เหลือสภาพเดิม
วัดฉื่อฉางได้รับการบูรณะหลังจากน้ำท่วมครั้งนั้น เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็กสูง 4 ชั้น อาตมาเป็นคนคุมการก่อสร้างเอง โดยเปิดตำราสถาปัตยกรรมวัดจีน และมาคัดดูว่าอันไหนเหมาะกับของเราบ้าง ส่วนกระเบื้องที่โยมเห็นอาตมากับญาติโยมก็ช่วยกันออกแบบลวดลาย ใช้ช่างกระเบื้องที่เป็นคนหาดใหญ่เผาและทำให้นี่แหละ แต่ก็ลองผิดลองถูกอยู่นานกว่าจะติดตั้งได้ครบอย่างที่เห็น
สังเกตดูก่อนจะเข้ามา บริเวณรั้ววัด อาตมาได้ให้ช่างถอดแบบภาพถ่ายเก่าของเมืองหาดใหญ่ในยุคสมัยต่างๆ มาเป็นลวดลายกระเบื้อง สะท้อนภาพของการเปลี่ยนผ่านของเมืองเมืองนี้
หาดใหญ่มีน้ำท่วมใหญ่อีกครั้งตอนปี 2543 และหลังจากนั้นในหลวงรัชกาลที่ 9 ก็รับสั่งให้มีการขุดคลองระบายน้ำรอบเมืองเพิ่มเติมจำนวน 7 สาย หลังจากนั้นน้ำจากทางปัตตานีและสะเดาก็ไม่ไหลเข้าท่วมเมืองหาดใหญ่อีก น้ำก็ไม่ท่วมเข้าวัดอาตมาด้วย
วัดฉื่อฉางเป็นศูนย์รวมใจของคนไทยเชื้อสายจีนในหาดใหญ่ ทุกปีเราจะจัดเทศกาลตรุษจีน สารทจีน ทิ้งกระจาด กินเจ และอื่นๆ ซึ่งไม่เพียงคนในท้องที่ แต่นักท่องเที่ยวชาวมาเลเซียและสิงคโปร์ก็มาร่วมด้วย โดยวัดอาตมาจะเน้นการสวดมนต์ ไม่มีการประทับทรง
ปีนี้อาตมาอายุ 84 ปีแล้ว อยู่หาดใหญ่จนเห็นความเปลี่ยนแปลงทุกอย่าง ตั้งแต่ยุคที่เมืองพลุกพล่านมากๆ มาจนถึงเงียบสนิทจนไม่มีใครมาเข้าวัดเลยในช่วงโควิด อาตมาแก่แล้ว จึงไม่ได้มีมุมมองอะไรต่ออนาคตของเมืองนัก แต่ในฐานะที่เราอยู่ที่นี่ ก็พร้อมต้อนรับญาติโยมที่มาวัด ทั้งมาไหว้พระ หรือมาปรับทุกข์ ก็จะช่วยเท่าที่อาตมาจะช่วยได้”
พระอาจารย์จีนธรรมมานุกร (เย็นเฮ้า)
เจ้าอาวาสวัดฉื่อฉาง
ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…
การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…
“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…
ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…
คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…
สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…