“ผมเป็นเจ้าของคณะสิงโต เห็นลูกหลานชอบดูและอยากเชิดสิงโต ผมเลยทำหัวสิงโตขนาดเล็กให้พวกเขาได้เล่น ต่อมาก็มีคนมาขอซื้อ แล้วเสียงตอบรับดีมาก จึงกลายเป็นธุรกิจครอบครัวไปเลย ตอนนี้ทำมาได้ 4-5 ปีแล้ว สิงโตที่ผมทำเรียกสิงโตกวางตุ้งของคณะกว๋องสิว คนปากน้ำโพจะไม่คุ้นคำว่าสิงโตกวางตุ้ง เท่ากับคำว่าสิงโตกว๋องสิว ต้นฉบับเป็นหัวสิงโตที่ชาวจีนกวางตุ้งที่ก่อตั้งสมาคมกว๋องสินในเมืองนครสวรรค์ประดิษฐ์ขึ้น ใช้แห่ในงานประเพณีตรุษจีนมา 100 กว่าปีแล้ว เชื่อกันว่านี่คือหัวสิงโตกวนกง หรือหัวสิงโตของเทพเจ้ากวนอู ใบหน้าของสิงโตจึงมีสีแดง เป็นสัญลักษณ์ของความจงรักภักดี ความเที่ยงธรรม และความกล้าหาญของเทพเจ้ากวนอู
เด็กๆ นครสวรรค์เติบโตมากับมังกร สิงโต และเอ็งกอ ซึ่งไม่ใช่จากพิธีกรรม แต่เป็นจินตนาการ ทำให้พวกเขาอยากเข้ามามีส่วนร่วม หรืออยากเป็นคนเชิด ซึ่งสิ่งนี้เป็นอีกหนึ่งหัวใจสำคัญว่าทำไมประเพณีแห่เจ้าพ่อเจ้าแม่จึงได้รับการสืบสานมาเป็นร้อยปี
ตอนผมทำหัวสิงโตขนาดเล็กให้ลูกหลานเล่น ก็ไม่ได้คิดหรอกว่าจะต้องทำขาย เหมือนเราเคยทำหัวใหญ่มาก่อน ก็ลองทำเล็กๆ สัก 9 หัวดู มีคนมาเห็นลูกหลานเราเชิด เขาก็เลยมาขอซื้อให้ลูกเขาไปเล่นด้วย ไปๆ มาๆ ครูที่โรงเรียนมาเห็น เขาก็ขอซื้อไปเป็นสื่อประกอบการเรียน มีการแข่งขันเชิดสิงโตเยาวชนชิงรางวัลด้วย เขาก็มารับจากเราไป
ผมไม่รู้ว่าเขาไปเรียนการเชิดสิงโตจากไหนนะ ก็น่าจะดูจากขบวนแห่ หรือไม่ก็ดูจากยูทูปกันมากกว่า อย่างคณะสิงโตเขาไม่มีกิจกรรมเปิดคอร์สการสอนหรอก เพราะคนเชิดส่วนใหญ่เขาก็ประกอบอาชีพอื่นกัน จะมารวมตัวกันซ้อมก่อนมีพิธีแห่เท่านั้น
แต่ถึงบอกว่าผมทำสิงโตกว๋องสิวจำลอง แต่หลายๆ ตัวก็ไม่ได้เหมือนต้นฉบับหมดหรอกครับ ก็ปรับไปตามความต้องการของลูกค้า หรือวัตถุดิบที่เรามี มีสีเขียว เหลือง ขาว ดำ แดง บางตัวก็ทาสองสี บางตัวก็สามสี ขาวล้วนก็มีครับ แต่ไม่แนะนำ เพราะเชิดไปไม่นานแล้วจะเปื้อน (หัวเราะ)
ภูมิใจไหมที่เป็นส่วนหนึ่งที่ช่วยสืบสานวัฒนธรรมส่งต่อไปถึงเด็กๆ ผมอาจจะไม่ได้คิดถึงขนาดนั้น แค่คิดว่าทำของเล่นให้พวกเขาได้เล่นสนุกและได้เรียนรู้ไปพร้อมกัน แค่นั้นก็ดีใจแล้ว และขณะเดียวกันสิ่งนี้ก็กลายเป็นธุรกิจที่เลี้ยงครอบครัวเราได้ด้วย”
นิกร ศรีนิล และวิพารัตน์ เทียมจันทร์
คนทำหัวสิงโตกวางตุ้ง
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…