“เมื่อกว่า 200 ปีก่อนตรงศาลเจ้าเป็นแหล่งเทียบท่าของเรือสำเภาจีน ช่วงแรกมีชาวฮกเกี้ยนอัญเชิญรูปปั้นเทพเจ้ากวนอูองค์เล็กเข้ามาประทับในเก๋งจีน ให้ประชาชนได้กราบไหว้ บูชาขอพร เป็นจุดเริ่มต้นของศาลเจ้าพ่อกวนอูในปี พ.ศ. 2279 สมัยกรุงศรีอยุธยาตอนปลาย ตอนนี้ศาลเจ้ามีอายุ 286 ปีแล้ว มีการชำรุดทรุดโทรมและบูรณะศาลเจ้าหรือเก๋งจีนให้มีขนาดใหญ่ขึ้นเรื่อยมา สมัยรัชกาลที่ 1 อัญเชิญเทพเจ้ากวนอูองค์กลาง มาประดิษฐานเป็นองค์ที่สอง ติดตั้งป้ายชื่อ “กวง ตี โกว เปี่ย” ซึ่งป้ายนี้ยังเก็บรักษาไว้ในศาลเจ้าปัจจุบัน ต่อมาสมัยรัชกาลที่ 2 ได้อัญเชิญเทพเจ้ากวนอูองค์ที่สาม องค์ขนาดใหญ่สุดมาประดิษฐาน และบูรณปฏิสังขรณ์ศาลให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เป็นที่มาของเทพเจ้ากวนอูทั้งสามองค์ของศาลเจ้า บูรณะซ่อมแซมอีกครั้งในสมัยรัชกาลที่ 5 เปลี่ยนชื่อศาลเจ้าเป็น “บู้ เจี่ย เบี่ย” ที่ใช้เป็นชื่อเรียกมาจนถึงปัจจุบัน จนสมัยรัชกาลที่ 9 บูรณะซ่อมแซม ปิดทอง ทาสีศาลเจ้าใหม่ทั้งหมด จนปี พ.ศ. 2536 ศาลเจ้าเกิดรั่วตรงที่ประดิษฐานเทพเจ้ากวนอู จึงได้ปิดปรับปรุงซ่อมแซม และสร้างเก๋งจีนอีกหลังตรงริมแม่น้ำเจ้าพระยา ซึ่งแต่เดิมใช้เป็นโรงแสดงงิ้ว
แต่ก่อนข้างหน้าก็มีสุเหร่า แต่รื้อไปแล้ว มีคนจีน ไทย อิสลาม คนสามศาสนาอยู่และร่วมมือร่วมใจกันมาตลอด สมัยก่อนรถเข้าไม่ได้ ต้องเดินหรือนั่งเรือมา เวลามีงานประจำปีจะไปบริจาคทรัพย์สินก็ลงเรือไปบริจาคไปช่วยงาน ศาลเจ้าเองไม่ค่อยมีใครรู้จัก เข้ามายาก เดี๋ยวนี้เป็นคนทั่วประเทศทั่วโลกเลยก็ว่าได้ที่มา ผมเข้ามาพัฒนาเมื่อสามสิบกว่าปีก่อน สร้างเก๋งท่าน้ำขึ้นมา คนก็เห็น พอเห็นแล้วก็อยากเข้ามา แล้วสวนสมเด็จย่าก็สร้างเสร็จ คนก็รู้ว่าเข้ามาได้แล้ว ก็เข้ามาสวนสมเด็จย่าแล้วก็เลยเข้าไปศาลเจ้า ศาลเจ้ากวนอูเน้นเรื่องคุณธรรม มีอักษรภาษาจีนสองข้างว่า หยี่ คือคุณธรรม และ ตง คือ ซื่อสัตย์ กวนอูจะเน้นคุณธรรมกับซื่อสัตย์ คนมาไหว้ขอหวยอะไรจะไม่ได้ผล แต่ถ้าค้าขาย รุ่งเรือง ลูกหลานจะไปเข้าที่ไหน เป็นคนดี ซื่อสัตย์ กตัญญู จะได้เพราะท่านอยากให้ทำงาน หลังๆ มาคุกเข่าขอพรกับองค์กวนอูจำลองที่ตั้งอยู่ข้างๆ คือเอาโฉนดที่ถ่ายเอกสารมาให้เจ้าพ่อช่วยขาย สำเร็จ เป็นที่ร่ำลือ คนก็เข้ามาตรงนี้เยอะ
ศาลเจ้ากวนอูนี้เก่าแก่ที่สุดในประเทศไทย ปีหนึ่งๆ มีจัดงาน 4 ครั้ง ครั้งที่ 1 ง่วนเซียว คือสมัยก่อนคนจีนที่อยู่ก็ฉลองตรุษจีนกันจนถึงวันสุดท้าย แล้วเป็นเทศกาลโคมไฟด้วย งานที่ 2 ฉลองวันเกิดเทพเจ้ากวนอู แต่ที่นี่ไม่ได้จัดเป็นงานวันเกิดเทพเจ้า แต่จัดเป็นงานของ กวงเพ้ง ลูกชายเทพเจ้ากวนอู งานที่ 3 ซิโกว งานเทกระจาดให้สัมภเวสีรับส่วนบุญ งานที่ 4 คือ เสี่ยซิ้ง ขอบคุณเทพเจ้าครบปี เจริญแล้วมีความสุข ก็มาไหว้ขอบคุณเทพเจ้า
ศาลเจ้าถ้ามีคนศรัทธาก็ไปเรื่อยๆ ถ้าไม่มีคนศรัทธาก็จบ คนที่มา เขาศรัทธา เขาเชื่อมั่น คนรุ่นใหม่ก็ตามบรรพบุรุษ พ่อแม่ปู่ย่าตายายมา เดี๋ยวนี้ศาลเจ้าไม่เหมือนสมัยก่อนที่มีแต่พวกคนแก่ มีคนทุกรุ่น ทางศาลเจ้าก็คอยดูแลควบคุมให้เป็นระเบียบเรียบร้อย คอยดูพวกไม่ดีที่เข้ามาศาลเจ้าทำให้เสื่อมเสีย ถ้ามีปัญหา ทำเกินขอบเขต เราก็โทรเรียกตำรวจมาจัดการ อย่างในชุมชนมีกิจกรรมอะไร มาขอความร่วมมือเวลามีจัดงาน ให้เราไปประชุมรับทราบข้อมูลว่าจะทำกิจกรรมอะไร เราก็ได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการพัฒนาย่านด้วย โครงการของ UddC เข้ามาทำกิจกรรมต่างๆ ก็ทำให้กระเตื้อง มีขายของ ก็ดี ชาวบ้านมีรายได้ ทำให้คนที่อื่นรู้จักชุมชน รู้จักศาลเจ้าเยอะขึ้น คนก็กลับมาเองโดยไม่ต้องมีกิจกรรม
พงษ์ศักดิ์ ตันติประยุกต์
ผู้ดูแลศาลเจ้ากวนอู คลองสาน
ด้วยสถานะของเทศบาลนครที่มีจำนวนประชากรมากที่สุดในประเทศไทย หรือราว 250,000 คน โดยมีสัดส่วนของผู้สูงอายุเกือบ 1 ใน 3 ของประชากรทั้งหมด เทศบาลนครนนทบุรีถือเป็นภาพสะท้อนที่ชัดเจนของการเข้าสู่สังคมสูงวัย ไม่เพียงในระดับประเทศ แต่รวมถึงในระดับมหภาคของสังคมโลกตั้งอยู่บนพื้นที่ 38.90 ตารางกิโลเมตร ครอบคลุม…
“พื้นเพของครอบครัวผมเป็นนักการเมืองและนักธุรกิจ คุณตาของผม สันติ์ เทพมณี เป็นอดีตรัฐมนตรี สส. และ สว. ของจังหวัดลำพูน พ่อของคุณตา - สุข เทพมณี ก็เป็นอดีตนายกเทศมนตรีเมืองลำพูน (พ.ศ.…
“ตอนเด็ก ๆ เราแทบไม่ได้ผูกพันกับลำพูน บ้านเกิดเลยนะ เราถูกส่งไปเรียนที่เชียงใหม่ เรียนมหาวิทยาลัยที่ขอนแก่น จบมาก็ไปทำงานกรุงเทพฯ อยู่หลายปี ระหว่างนั้นก็กลับมาเยี่ยมแม่บ้าง ไป ๆ มา ๆ ก็เริ่มรู้สึกเป็นห่วงเขา สุดท้ายเลยตัดสินใจย้ายกลับมาทำงานในนิคมอุตสาหกรรมที่ลำพูนถึงพ่อแม่เราจะรับราชการครู…
ความสําเร็จของเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดบนฐานงานวิจัยและนวัตกรรม บพท. คุณสมศักดิ์ ลามอ รองนายกเทศมนตรีเทศบาลนครปากเกร็ด (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2567 - มีนาคม 2568) มุ่งยกระดับการบริการประชาชนด้วยนวัตกรรมและยุทธศาสตร์ทันสมัย เทศบาลนครปากเกร็ด ซึ่งเป็นเทศบาลขนาดใหญ่ที่มีพื้นที่ติดต่อกับกรุงเทพมหานคร มีประชากรในความดูแลกว่า 400,000…
ก้าวสู่ความสําเร็จของเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดบนฐานงานวิจัยและนวัตกรรม บพท. | ดร.นิมิตร จิวะสันติการ นายกเทศมนตรีนครลำปาง (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2564- มีนาคม 2568) “เทศบาลนครลำปางในปี 2567-2568 เราได้ร่วมงานกับ บพท. ในการทำงานร่วมกันเพื่อช่วยบริหารจัดการเมืองของเราให้เดินหน้าสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ ซึ่งก็ตรงกับแนวทางที่เรากำลังทำกันอยู่ที่ ด้วยเป้าหมายสิ่งที่เราปรารถนาที่สุดคือ จะทำให้เมืองของเราเป็นเมืองที่สมบูรณ์แบบ…
พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…