เป็นที่รู้กันว่าถ้านึกถึงมะพร้าวคุณภาพดี คนนครจะนึกถึงเมืองปากพูนแห่งนี้

“ความที่พื้นที่ส่วนใหญ่ของตำบลปากพูนเป็นดินตะกอนที่เกิดจากการทับถมของทะเล ดินที่นี่จึงมีความเค็มเป็นที่โปรดปรานของต้นมะพร้าว พืชดั้งเดิมในพื้นที่ นั่นทำให้วิถีชีวิตของชาวปากพูนเกี่ยวข้องกับสวนมะพร้าวจากรุ่นสู่รุ่น และเป็นที่รู้กันว่าถ้านึกถึงมะพร้าวคุณภาพดี คนนครก็จะนึกถึงเมืองปากพูน

ชาวปากพูนมีภูมิปัญญาในการสร้างรายได้จากมะพร้าวตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ตั้งแต่ปลูกมะพร้าวขายเป็นลูก น้ำมะพร้าว กะทิ น้ำตาลมะพร้าว ไปจนถึงเอาก้านมาทำเครื่องจักสาน สถานะของการเป็นพื้นที่การเรียนรู้ในสวนมะพร้าวแห่งต่างๆ ในตำบลปากพูนจึงมีความชัดเจนมาก ทางทีมวิจัยจึงเห็นว่าหากเรานำงานวิชาการเข้าไปเสริมและสร้างเครือข่ายพื้นที่การเรียนรู้ในสวนมะพร้าวแห่งต่างๆ ขึ้น ก็น่าจะช่วยยกระดับผลิตภัณฑ์และเศรษฐกิจในชุมชนได้มาก เราจึงทำโครงการ ‘พร้าวผูกเกลอ’ ขึ้น ซึ่งเป็นโครงการย่อยที่ 2 ของโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ปากพูน


หลังจากที่ลงพื้นที่เพื่อสำรวจวิถีการผลิตมะพร้าวและประเมินศักยภาพของผู้ประกอบการและสวนมะพร้าวในแง่มุมต่างๆ เราก็ได้คัดเลือกสวนมะพร้าว 5 สวนที่ต่างมีวิถีและเทคโนโลยีการผลิตมะพร้าวเฉพาะตัวและเหมาะแก่การเป็นพื้นที่ต้นแบบการเรียนรู้ โดยทีมวิจัยก็เข้าไปส่งเสริมด้านการแปรรูป การรวมกลุ่ม และการพัฒนาผลิตภัณฑ์ในเชิงการออกแบบ การตลาด ไปจนถึงการจัดจำหน่ายทางออนไลน์ ดังนี้

สวนแห่งแรกคือสวนมะพร้าวบ้านพ่อเชื่อง ที่หมู่ 4 แต่เดิมสวนแห่งนี้ประสบปัญหาที่ว่ามะพร้าวที่มีดั้งเดิมในสวนมีลำต้นที่สูงเกินไป จนมีความเสี่ยงต่อการเก็บเกี่ยว ทางเจ้าของสวนจึงไปปรึกษาศูนย์วิจัยพืชสวนชุมพร และได้รับการสนับสนุนให้ทดลองบุกเบิกการปลูกมะพร้าวพันธุ์ชุมพร 2 ในพื้นที่ดู มะพร้าวสายพันธุ์ชุมพร 2 มีลำต้นเตี้ยสะดวกแก่การเก็บ และออกผลในระยะเวลาอันสั้น ซึ่งพวกมันก็ออกผลในสวนของพ่อเชื่องอย่างดีเยี่ยม

ทั้งนี้ สวนมะพร้าวบ้านพ่อเชื่องยังเป็นตัวตั้งตัวตีสนับสนุนให้สวนเพื่อนบ้านหันมาปลูกชุมพร 2 เหมือนกัน นำมาสู่กลุ่มผู้ประกอบการที่สามารถยกระดับจากการขายกล้าต้นมะพร้าวผลละ 5-6 บาท ไปเป็นผลละ 50 บาท มีรายได้เพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด สวนบ้านพ่อเชื่องจึงเป็นศูนย์การเรียนรู้ด้านการสร้างมูลค่าเพิ่มในการเพาะพันธุ์ต้นกล้ามะพร้าว

สวนแห่งที่สองและสามคือสวนมะพร้าวบ้านเอกาพันธ์ และสวนมะพร้าวบ้านสวนพอเพียง ทั้งสองแห่งอยู่ในหมู่ 2 ปัญหาเดิมของสวนสองแห่งนี้คือที่ดินส่วนใหญ่ที่เคยเป็นบ่อกุ้งร้าง ซึ่งทำให้ดินมีความทรุดโทรม ทางเจ้าของสวนจึงมีการปลูกพืชสวนครัวผสมผสานเพื่อปรับหน้าดิน และเลี้ยงปศุสัตว์อย่างวัวเนื้อและปลา เกิดเป็นสวนผสมผสานที่สร้างรายได้หลายทาง

สวนที่สี่คือสวนมะพร้าวลุงแดง โดดเด่นด้านการนำมะพร้าวมาแปรรูปเป็นน้ำตาลมะพร้าว ซึ่งแต่เดิมเขาจะทำน้ำตาลมะพร้าวส่งขายโรงต้มเหล้า และร้านอาหารต่างๆ จนเมื่อทางเทศบาลมาให้แนวทางในการปรับน้ำตาลที่ได้จากสวนเหล่านี้ให้รับประทานง่ายขึ้น ทางลูกสาวของลุงแดงจึงคิดไอเดียแปรรูปน้ำตาลมะพร้าวให้มีรูปทรงแบบลูกเต๋าขนาดเล็กสำหรับใช้ผสมกาแฟ เกิดเป็นสินค้าที่ขายดี ขณะเดียวกันทางทีมวิจัยของเราก็เข้าไปสนับสนุนให้ทำน้ำตาลมะพร้าวคาราเมล ในบรรจุภัณฑ์ที่ใช้งานง่ายขึ้นเสริมเข้าไป ซึ่งเรากำลังผลักดันให้เป็นสินค้าหนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์อยู่

และสวนที่ห้าคือสวนปันสุข เป็นอีกสวนที่ปลูกพืชผสมผสาน หากโดดเด่นที่เจ้าของสวนได้ปลูกไม้ดอกไว้เยอะ จนดึงดูดให้ผึ้งเข้ามาทำรัง เจ้าของสวนจึงตัดสินใจทำคอนโดผึ้งภายในสวน เพื่อจะได้เก็บน้ำผึ้งจากรังมาจัดจำหน่าย รวมถึงยังใช้เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์มาช่วยประหยัดพลังงานด้วย

จะเห็นได้ว่าสวนมะพร้าวทั้ง 5 แห่งล้วนมีความท้าทายและแนวทางในการแก้ปัญหาเฉพาะตัวที่ผู้ประกอบการรายอื่นๆ สามารถนำไปถอดบทเรียนเพื่อประยุกต์กับพื้นที่ของตัวเอง ในขณะเดียวกัน หน้าที่ของโครงการไม่เพียงหาวิธีหนุนเสริมเทคโนโลยี การตลาด และสร้างแนวทางการต่อรองราคากับพ่อค้าคนกลาง แต่ยังรวมถึงการสร้างแผนที่และเส้นทางการเรียนรู้ และการผูกสัมพันธ์ผู้ประกอบการในแต่ละส่วนเพื่อให้มาร่วมแชร์ประสบการณ์ และภูมิปัญญาของตนเองเสริมความเข้มแข็งของเครือข่ายสวนมะพร้าวในตำบลปากพูน ดังคำที่ว่า ‘พร้าวผูกเกลอ’ หรือมะพร้าวที่สานมิตรภาพในชุมชน ต่อไป”  

ดร.จิตติมา ดำรงวัฒนะ

อาจารย์สาขาการพัฒนาชุมชน คณะมนุษยศาสตร์และสังคมศาสตร์ มหาวิทยาลัยราชภัฏนครศรีธรรมราชและนักวิจัยโครงการเมืองแห่งการเรียนรู้ปากพูน

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

6 days ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

1 week ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

1 week ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

1 week ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

1 week ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

1 week ago