“ผมชอบดื่มกาแฟ นั่งทำงาน และพักผ่อนที่ร้านกาแฟอยู่แล้ว ก่อนเรียนจบ จึงมีความตั้งใจจะเปิดร้านกาแฟที่เมืองนคร เพราะตอนนั้นในตัวเมืองยังมีร้านกาแฟที่เป็นร้านแบบจริงจังไม่เยอะ แต่ครอบครัวก็ท้วง อยากให้ผมใช้เวลาทบทวนมากกว่านี้ ผมก็รับฟังโดยเลือกเรียนปริญญาโทที่กรุงเทพฯ ต่อ จนพอเรียนจบ ผมก็ไม่คิดจะทำอย่างอื่นเลย นอกจากกลับบ้านมาเปิดร้านกาแฟ
Glur House คือร้านกาแฟเล็กๆ ที่ถอดมาจากความชอบส่วนตัวของผม เช้าและกลางวันขายกาแฟ ส่วนตอนเย็นในวันศุกร์และเสาร์เปิดเป็นบาร์ และความที่ผมชอบเล่นสเก็ตบอร์ด เลยนำแผ่นสเก็ต อุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงลวดลายกราฟิกแบบสตรีทอาร์ทมาตบแต่งร้าน เปิดอยู่ได้สักพัก กระแสสเก็ตบอร์ดและเซิร์ฟบอร์ดเริ่มมา ก็มีคนมาถามซื้ออุปกรณ์ ที่นี่ก็เลยกลายเป็นสเก็ตช็อปที่เดียวในเมืองพ่วงเข้ามาด้วย
ผมทำร้านคนเดียว โดยเริ่มต้นจากทุนที่จำกัด พอมีกำไรก็ค่อยๆ ต่อเติมมาเรื่อยๆ จนเป็นอย่างที่เห็น ผลตอบรับค่อนข้างดีครับ ตอนแรกก็กังวล รู้สึกเป็นเหมือนวัฒนธรรมของคนนครด้วยที่พอร้านไหนเปิดใหม่ คนก็จะแห่ไปใช้บริการก่อน ผ่าน 6 เดือนถึงจะเข้าสู่โลกของความเป็นจริง เจ้าของจะรู้ว่าหลังจากนั้นร้านจะรอดหรือไม่รอด แต่ด้วยความที่ผมจริงจังกับการทำกาแฟ ถ้ามีเวลาก็จะไปร่วมแข่งกาแฟเพื่อพัฒนาฝีมืออยู่เสมอ รวมถึงการคัดสรรเมล็ด และพยายามเรียนรู้เพื่อพัฒนาเมนูและการบริการของร้าน เดือนพฤศจิกายนปีนี้ (2565) Glur House จะครบ 6 ปีล่ะครับ
ลูกค้าหลักเป็นคนทำงานในตัวนครนี่แหละ มีนักท่องเที่ยวมาบ้าง ส่วนนักศึกษาไม่ค่อยเยอะ เพราะเมืองนครนี่ถึงแม้จะมีมหาวิทยาลัยหลายแห่ง แต่ส่วนใหญ่ล้วนอยู่นอกเมืองกันหมด นักศึกษาจึงไม่ค่อยเข้ามามีปฏิสัมพันธ์ในเมืองเท่าไหร่ ผมว่าน่าเสียดายอยู่ ในย่านตัวเมืองควรมีความเคลื่อนไหวของคนรุ่นใหม่ให้มากกว่านี้
และก็เพราะเหตุนี้ด้วยแหละครับที่ทำให้ผมพบว่านครมีพื้นที่กิจกรรมของคนรุ่นใหม่น้อย พื้นที่สร้างสรรค์ส่วนมากจะขับเคลื่อนโดยรัฐซึ่งก็มีความเป็นราชการอยู่ หรือกระทั่งพื้นที่ทางศิลปะก็จะเป็นศิลปะแนวประเพณีเกือบทั้งหมด เท่าที่ทราบมา นครมีศิลปินและนักออกแบบรุ่นใหม่อยู่เยอะนะครับ แต่ความที่เมืองมันไม่มีพื้นที่ให้พวกเขาได้แสดงผลงาน คนเหล่านี้เลยเข้าไปหางานหรือแสดงงานในกรุงเทพฯ เสียเป็นส่วนมาก
ด้วยความเป็นราชการก็ส่วนหนึ่ง อีกส่วนก็เป็นมุมมองของผู้หลักผู้ใหญ่ในเมือง อย่างเทศบาลเขามีสนามกีฬาให้ทุกประเภทเลย แต่กับสเก็ตบอร์ดที่เป็นกีฬาเหมือนกัน เขากลับไม่มีพื้นที่ให้ ทุกวันนี้จะมีแค่ลานที่ห้างเซ็นทรัลเขาเปิดไว้ให้เราได้เล่นอย่างเป็นทางการแค่ที่เดียว
หรืออย่างในแวดวงคนเล่นสเก็ตบอร์ด ทุกปีเราจะมีงานสเก็ตเดย์ ที่คนเล่นสเก็ตจะรวมตัวกันออกมาไถสเก็ตไปบนถนนในเมืองเพื่อแสดงจุดยืน ผมเคยติดต่อไปทางเทศบาลและตำรวจจราจรเพื่อขอจัดกิจกรรม แต่เขาไม่อนุญาต แต่ถ้ามีคนขอจัดกิจกรรมเชิงประเพณีในพื้นที่เดียวกัน กิจกรรมนั้นก็จะได้รับอนุญาตและได้รับการอำนวยความสะดวกด้วย ผมก็ไม่เข้าใจเหมือนกันครับ เพราะอันที่จริงแล้ว สเก็ตบอร์ดก็เป็นวัฒนธรรมเหมือนกัน”
สุเมทัศน์ สิวะสุธรรม
เจ้าของร้าน Glur House
https://www.facebook.com/Glurhouse
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…