“งานพัฒนาชุมชนทำงานอิงกับนโยบายหลักของกรมการพัฒนาชุมชน แต่ละช่วงกรมจัดสรรเรื่องอะไร พัฒนาชุมชนเมือง กองทุนพัฒนาบทบาทสตรี กลุ่มอาชีพ กลุ่มโอทอปชุมชน งานหลากหลายแล้วแต่เขากำหนดให้ ต้องทำงานประสานกับหลายส่วนหลายหน่วยงาน เราเป็นผู้นำอาสาพัฒนาชุมชนตำบลบึงยี่โถ ก็ทำผลงานไปตามกำลังความสามารถจนได้รับรางวัลอาสาพัฒนาชุมชนดีเด่นระดับจังหวัด เราเป็นคนมีความรู้มีประสบการณ์ในการทำงานกับชาวบ้านเยอะ แต่งานอาสาเป็นงานที่ต้องมีเงิน มีเวลา ต้องทุ่มเท แต่ก็ต้องไม่เบียดบังเวลาชีวิตตัวเองด้วย คนที่มาทำก็จะเป็นคนที่ไม่ได้ทำงานประจำ สูงอายุบ้าง คนวัยกลางคนก็จะทำธุรกิจส่วนตัวเพราะเขาจัดสรรเวลามาได้
พื้นที่อำเภอธัญบุรีโดดเด่น จะพูดไปก็อยู่ที่งบบริหาร ในความเป็นเมือง เช่นนครรังสิต คนเยอะกว่า เป็นแหล่งเศรษฐกิจค้าขาย ปัญหาก็เยอะกว่า หลากหลายกว่า งบประมาณที่ได้มาเวลาจะไปพัฒนาอะไรต่าง ๆ ก็ถูกใช้ไปเยอะ และก็อยู่ที่มุมมองผู้บริหารของเทศบาลว่าทำยังไงให้เมืองน่าอยู่ ผู้บริหารมีมุมมองวิสัยทัศน์ที่กว้างไกล เทศบาลก็เจริญ ในหนึ่งวาระบริหารนี่ก็ทำอะไรได้เยอะนะ พอเขาทำได้เยอะ เขาก็ได้อยู่ต่อ อย่างเทศบาลบึงยี่โถ นายกรังสรรค์ก็อยู่มาหลายสมัย ท่านมองเห็นว่าปัจจุบันคนเข้าสู่วัยชราเยอะ ทำศูนย์การแพทย์บึงยี่โถที่มีศูนย์เดย์แคร์รองรับ เราทำงานลงพื้นที่มา เราก็มีความกังวลใจ เดี๋ยวนี้มีศูนย์ดูแลผู้ป่วยติดเตียงดูแลคนชราเยอะมาก แต่ไม่มีกฎหมายมารองรับ ใครอยากเปิดก็เปิดได้ แต่ศูนย์เหล่านี้ไม่รู้ปลอดภัยมั้ย มีการตรวจสอบหรือเปล่า บางแห่งอยู่กันอย่างแออัด เพราะฉะนั้นศูนย์การแพทย์บึงยี่โถทำมาแล้ว ก็ค่อนข้างประสบความสำเร็จ
การพัฒนาชุมชนต้องพัฒนาคน ทุกองค์กร Human Resource คัดเลือกคนที่เข้ามาทำงานสำคัญมาก คัดเลือกคนที่โอเค งานคุณก็ไปได้ดี ประสบความสำเร็จในงาน คนรุ่นใหม่ก็ต้องจับโยงคนรุ่นกลางเก่ากลางใหม่มารวมกัน คนรุ่นเก่ามีส่วนดีอยู่ คนรุ่นใหม่มีเทคโนโลยี ที่จะมาเชื่อมเข้าด้วยกัน ทุกวันนี้งานพัฒนาในพื้นที่ การให้เงินกู้ นโยบายของรัฐต้องการให้คนรวมกลุ่มกันทำงาน เพราะจะแก้ปัญหาการขาดแรงงานได้ สมมติเราสามารถทำอาหารได้อร่อยสุดเลย สูตรของเราที่ไหนก็ไม่มีเหมือน แต่เราทำคนเดียวไม่ได้ รัฐก็ให้มาทำเป็นกลุ่มเพื่อแก้ปัญหาแรงงาน แต่ในความเป็นจริงกลุ่มที่ทำอยู่ในปัจจุบันที่ทำได้จริง ๆ น้อยมาก โดยเฉพาะในชุมชนเมือง เพราะต่างคนต่างอยู่ การรวมกลุ่มมันยาก อีกอย่างแนวคิดคนไม่อยากร่วมทำกับใคร คนที่มีเงินเขาก็มีศักยภาพทำได้เอง ไม่มารวมกลุ่ม กลุ่มที่ทำจริง ๆ ก็เช่น กลุ่มผลิตภัณฑ์บ้านประดิษฐ์พรพิมาน ทำพวกกระเป๋าผักตบชวา งานถักเชือกร่ม ผ้ามัดย้อม อีกกลุ่มที่หมู่ 1 บึงยี่โถ ทำกระเป๋าสานด้วยเส้นใยพลาสติก อีกกลุ่มที่เทศบาลสนั่นรักษ์ ทำการท่องเที่ยวฮักสนั่นรักษ์ แล้วก็ทำเบเกอรีที่อาจารย์ราชมงคล (มทร.ธัญบุรี) ไปช่วยสอน
กลุ่มผลิตภัณฑ์โอทอปทุกวันนี้ไม่ใช่ 1 ตำบล 1 ผลิตภัณฑ์นะ หนึ่งหมู่บ้านมีหลายผลิตภัณฑ์ ในจังหวัดปทุมธานีมีสองร้อยกว่าผลิตภัณฑ์ ก่อนนี้ก็รวมกลุ่มกันไปออกงานขายโอทอป แต่พอสถานการณ์โควิด การตลาดก็เปลี่ยนไปในรูปการขายออนไลน์ แต่คนในกลุ่มนี้ส่วนใหญ่สูงวัย ต้องปรับตัว ไปเรียนคอร์สขายของออนไลน์ แต่บางคนกลับมาก็ทำไม่ได้ เรามองว่า รัฐควรเอางบประมาณมาสอนคนเรื่องเทคนิคการขายของออนไลน์ การสร้างเพจ การยิงโฆษณา แล้วก็ควานหาคนที่มีศักยภาพ อาจจะหา 1 คนต่อ 1 ตำบล ไม่ต้องหว่านสอนทุกคน ให้เขาสร้างแบรนด์ สร้างตัวตนขึ้นมาได้ ทำหน้าที่ขายของให้กลุ่ม เพราะเราเห็นตัวอย่างแล้วว่าไม่ใช่ทุกคนที่ขายของออนไลน์แล้วจะประสบความสำเร็จ คนที่ขายได้เขาต้องมีศักยภาพ มีความคิดพลิกบทบาทให้คนสนใจ ถ้าเราปั้นคนในกลุ่มมันก็ต่อยอดได้”
งามพิศ ธรรมทัศน์
อาสาพัฒนาชุมชน เทศบาลเมืองบึงยี่โถ