“ผมอยู่กับการออกแบบและก่อสร้างมาตั้งแต่เด็ก เพราะครอบครัวผมทำธุรกิจติดตั้งอลูมิเนียมและกระจกชื่อ เอสที อลูมิเนียม และนั่นทำให้พอเรียนจบกลับมาบ้าน ผมก็เลยเริ่มทำธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ด้วยความเชื่อที่ว่า ไม่ใช่แค่การทำอาคารหรือทำบ้านให้คนอื่นอาศัย แต่ถ้าเราทำที่อยู่อาศัยให้มั่นคงแข็งแรงและมีความสวยงาม จะช่วยทำให้ภูมิทัศน์เมืองในภาพรวมดูดีขึ้น และทำให้เมืองน่าอยู่ขึ้นได้
และจากความที่เป็นนายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์พิษณุโลก เมื่อมีผู้ประกอบการที่อยากเห็นบ้านเมืองดีขึ้นจนนำมาสู่การตั้ง บริษัท พิษณุโลกพัฒนาเมือง จำกัด ผมจึงได้รับการชักชวนให้เข้ามาเป็นคณะกรรมการ ซึ่งผมก็ยินดีอย่างมาก เพราะเรามีเป้าหมายเดียวกัน
จากบทบาทแรกที่คอยประสานงานกับผู้ประกอบการอสังหาริมทรัพย์ด้วยกัน ในการสร้างมาตรฐานการก่อสร้างให้ตอบโจทย์กับผู้คน รวมถึงช่วยเหลือซึ่งกันและกันในเครือข่าย พอมาทำบริษัทพัฒนาเมือง ผมก็เลยใช้บทบาทในส่วนนี้ในการขับเคลื่อนภาพรวมของเมืองผ่านการประสานไปยังภาคส่วนต่างๆ ในการปรับปรุงภูมิทัศน์เมือง ทำให้พื้นที่สาธารณะมันมีฟังก์ชั่นตอบโจทย์ผู้คนในเมือง มีพื้นที่สีเขียวมากขึ้น รวมถึงผลักดันให้เกิดย่านเศรษฐกิจ หรือสถานที่ที่ดึงดูดการท่องเที่ยวใหม่ๆ เสริมเข้ามาให้กับเมือง
ควบคู่ไปกับการทำบริษัทพัฒนาเมือง พอผมสามารถดูแลธุรกิจของตัวเองได้มั่นคงดีแล้ว สามารถดูแลคนครอบครัวเราเองได้ดี และสามารถรับผิดชอบลูกบ้านซึ่งเป็นลูกค้าบ้านจัดสรรของเราได้ดีแล้ว ผมจึงคิดถึงการดูแลผู้คนในเมืองบ้านเกิดของผม นั่นทำให้ผมตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎร
พิษณุโลกเป็นเมืองที่มีศักยภาพหลายด้านมาก เพราะมีทำเลที่เป็นเหมือนสี่แยกอินโดจีน เชื่อมเมืองเศรษฐกิจในระดับนานาชาติ หากมีการจัดการเมืองที่ดี เราสามารถดึงเม็ดเงินเข้ามาให้คนในเมืองเราได้มากกว่านี้อีกมาก แต่นั่นล่ะ ที่ผ่านมา เราอาจจะต่างคนต่างทำงาน หรือด้วยระบบบริหารจัดการอะไรก็ตามแต่ เมืองจึงไม่เหนียวแน่นพอ เราอยู่ในทำเลระดับสี่แยกแท้ๆ แต่จังหวัดที่อยู่ในซอยอย่างบุรีรัมย์ หรือสุพรรณบุรี เขากลับมีการพัฒนาได้ดีกว่า
และกลายเป็นว่าค่าเฉลี่ยรายจ่ายของคนที่มาในเมืองของเราควรจะอยู่ที่ 3,000 บาทต่อคน ตอนนี้เราได้จากเขาแค่ 1,300 บาท โจทย์สำคัญของผมจึงเป็นการทำให้ผู้คนมาจับจ่ายใช้สอยในเมืองของเรามากขึ้น ให้อย่างน้อยๆ อยู่ที่ 3,000 บาทก่อน
สิ่งนี้ก็กลับมาที่โจทย์การพัฒนาเมือง ซึ่งก็เป็นมุมมองแบบเดียวกับนักอสังหาริมทรัพย์เลยครับ นั่นคือการทำให้บ้านของเรามีฐานรากที่ดี มีผังการใช้ประโยชน์ที่ตอบโจทย์ และถ้าเราช่วยกันทำ เมืองมันก็จะมีความพร้อม น่าอยู่ และมีแรงดึงดูดในด้านการลงทุน
นั่นล่ะครับ ทุกวันนี้ต้องยอมรับว่าหลายธุรกิจในเมืองพิษณุโลก มันเหมือนผู้ประกอบการต้องว่ายน้ำทวนกระแส ต้องกระเสือกกระสนเพราะสิ่งแวดล้อมไม่เอื้อ ผมจึงหวังว่าจะมีส่วนในการทำให้กระแสน้ำของเมืองเราดี สะอาด และทำให้ทุกคนสามารถทำธุรกิจได้อย่างราบรื่นและมั่นคง”
มงคล เหลี่ยมวัฒนกุล
นายกสมาคมอสังหาริมทรัพย์พิษณุโลก
https://www.facebook.com/MongkolPLK1/?paipv=0&eav=AfbYzgaZrzLaBPmgKXR6zRlz9e4AtPQbk3C_jnRjYy0CMZNHyffcCMDKLMgBygw8zyo&_rdr