/

“แก่งคอยเป็นเมืองที่สงบ
แต่ก็ไม่เงียบเหงา”

Start
227 views
9 mins read

“พี่เป็นคนอยุธยา แต่สามีเป็นคนแก่งคอย พอแต่งงานกัน ก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ มาช่วยสามีทำกระชังปลาที่ตำบลบ้านป่า (พงศ์ศักดิ์แพปลา)

สามีพี่ทำแพปลาจนอยู่ตัวและส่งลูกเรียนจนจบหมด พี่ก็เริ่มมีเวลาว่าง เลยชวนแม่บ้านมาตั้งกลุ่มสัมมาชีพชุมชนด้วยกัน เพราะเห็นว่าแต่ละคนก็มีทักษะการทำขนม เลยเอาความรู้มาแบ่งปันกัน และทำกลุ่มทำขนมส่งขายตามที่ต่างๆ เราตั้งกลุ่มในปี 2561 มีสมาชิก 47 คน แต่หลักๆ จะมีแม่บ้านหมุนเวียนมาทำขนมราวๆ 6-7 คน

ทำขนมไทยค่ะ ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ข้าวเหนียวสังขยา และอื่นๆ พวกขนมสดนี่เราจะไม่ได้วางขายที่ไหน ทำตามออร์เดอร์เป็นหลัก เช่นทำเป็นของว่างสำหรับงานสัมมนาหรือประชุม ทำให้เจ้าภาพไปแจกในงานบุญ เป็นต้น ส่วนขนมแห้งที่เก็บไว้ได้นานหน่อย เช่น ทองม้วน ดอกจอก โรตีกรอบ นี่จะทำขายโดยฝากขายตามร้านต่างๆ ในแก่งคอยและอำเภอใกล้เคียง ถ้าขนมตัวไหนหมด เราก็จะมารวมกันทำด้วยกันที่นี่

ตรงนี้เดิมเป็นศูนย์เกษตรชุมชน แต่ทางศูนย์เขาไม่ได้ดำเนินการต่อ หน่วยงานราชการท้องถิ่นเขาเลยชวนกลุ่มพี่มาใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อทำขนม ก็จะมาเจอกันที่นี่ ไม่ได้ทำทุกวันค่ะ ถ้ามีออร์เดอร์เราถึงจะมา หรือขนมแห้งตัวไหนหมด เราก็นัดกันเข้ามาทำ 

ขนมขายได้เท่าไหร่ เราก็แบ่งให้คนทำเท่าๆ กัน โดยส่วนหนึ่งก็แบ่งเข้ากลุ่มสำหรับค่าน้ำไฟหรืออื่นๆ ไม่ใช่เงินที่เยอะอะไร แต่ก็พอเป็นรายได้เสริมให้แม่บ้านทุกคน แต่สำคัญกว่านั้น คือการที่เรามีพื้นที่และมีกิจกรรมให้ทำร่วมกัน เหมือนมาเจอเพื่อน มาคุยเล่นกัน ไม่เหงาดี

ทุกวันนี้กลุ่มสัมมาชีพชุมชนเราได้งบจากสำนักงานเกษตรอำเภอแก่งคอยมาขับเคลื่อนด้วย และขยับมาเป็น ‘วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่า’ เลยได้โอกาสเป็นที่ศึกษาดูงานให้กับกลุ่มอื่นๆ หรือถ้ามีงบประมาณมา เขาก็จะพากลุ่มเราไปศึกษาดูงานวิสาหกิจชุมชนอื่นด้วย ก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานหรือการหาช่องทางการตลาดของชุมชนอื่นไปพร้อมกันด้วย เป็นประโยชน์มากๆ

พี่มีลูกสองคน คนโตแต่งงานไปอยู่กับครอบครัวเขาที่อยุธยา ส่วนลูกคนเล็กเป็นพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล และก็ช่วยพ่อเขาทำกระชังปลา ถามว่าแก่งคอยในมุมพี่เป็นยังไง? จริงๆ ถ้าไม่ได้แต่งงานมาอยู่ที่นี่ พี่ก็ไม่คิดจะมาอยู่เลยนะ เพราะไม่รู้จะมาทำไม แต่พอมาอยู่แล้วก็ผูกพัน

แก่งคอยน่าอยู่นะ ถึงเมืองมันมีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ แต่ก็มีป่า มีภูเขา มีพื้นที่ธรรมชาติไม่น้อยไปกว่ากัน ขณะเดียวกัน พอเป็นเมืองอุตสาหกรรม มันก็ทำให้เราหากินง่าย ผู้คนมีกำลังซื้อ และถ้าให้เปรียบกับบ้านเกิดพี่ที่อยุธยา พี่ชอบแก่งคอยมากกว่า เมืองมันสงบ ไม่วุ่นวายดี และหน่วยงานท้องถิ่นที่นี่เขาค่อนข้างแอคทีฟ ทั้งภาครัฐและเอกชนเขามีโครงการมาส่งเสริมอาชีพชาวบ้านเยอะดี ช่วยหาตลาด หรือส่งเสริมเรื่องการทำมาหากินให้เรา ถึงเมืองมันสงบ แต่ก็ไม่เงียบเหงา”    

จำเนียร โกจันทึก
ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่า

กองบรรณาธิการ

ในปีพ.ศ.2563-2564 หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ได้สนับสนุนและผลักดันการพัฒนาเมืองในประเทศไทยเพื่อพัฒนาเมืองแห่งการเรียนรู้ (Learning City) โดยเริ่มดำเนินการอย่างเป็นรูปธรรมแล้วทั้งหมด 18 เมือง 20 ชุดโครงการ และ 41 ชุดโครงการย่อย