“แก่งคอยเป็นเมืองที่สงบแต่ก็ไม่เงียบเหงา”

“พี่เป็นคนอยุธยา แต่สามีเป็นคนแก่งคอย พอแต่งงานกัน ก็เลยย้ายมาอยู่ที่นี่ มาช่วยสามีทำกระชังปลาที่ตำบลบ้านป่า (พงศ์ศักดิ์แพปลา)

สามีพี่ทำแพปลาจนอยู่ตัวและส่งลูกเรียนจนจบหมด พี่ก็เริ่มมีเวลาว่าง เลยชวนแม่บ้านมาตั้งกลุ่มสัมมาชีพชุมชนด้วยกัน เพราะเห็นว่าแต่ละคนก็มีทักษะการทำขนม เลยเอาความรู้มาแบ่งปันกัน และทำกลุ่มทำขนมส่งขายตามที่ต่างๆ เราตั้งกลุ่มในปี 2561 มีสมาชิก 47 คน แต่หลักๆ จะมีแม่บ้านหมุนเวียนมาทำขนมราวๆ 6-7 คน

ทำขนมไทยค่ะ ทองหยิบ ทองหยอด เม็ดขนุน ขนมชั้น ขนมเปียกปูน ข้าวเหนียวสังขยา และอื่นๆ พวกขนมสดนี่เราจะไม่ได้วางขายที่ไหน ทำตามออร์เดอร์เป็นหลัก เช่นทำเป็นของว่างสำหรับงานสัมมนาหรือประชุม ทำให้เจ้าภาพไปแจกในงานบุญ เป็นต้น ส่วนขนมแห้งที่เก็บไว้ได้นานหน่อย เช่น ทองม้วน ดอกจอก โรตีกรอบ นี่จะทำขายโดยฝากขายตามร้านต่างๆ ในแก่งคอยและอำเภอใกล้เคียง ถ้าขนมตัวไหนหมด เราก็จะมารวมกันทำด้วยกันที่นี่

ตรงนี้เดิมเป็นศูนย์เกษตรชุมชน แต่ทางศูนย์เขาไม่ได้ดำเนินการต่อ หน่วยงานราชการท้องถิ่นเขาเลยชวนกลุ่มพี่มาใช้พื้นที่ตรงนี้เพื่อทำขนม ก็จะมาเจอกันที่นี่ ไม่ได้ทำทุกวันค่ะ ถ้ามีออร์เดอร์เราถึงจะมา หรือขนมแห้งตัวไหนหมด เราก็นัดกันเข้ามาทำ 

ขนมขายได้เท่าไหร่ เราก็แบ่งให้คนทำเท่าๆ กัน โดยส่วนหนึ่งก็แบ่งเข้ากลุ่มสำหรับค่าน้ำไฟหรืออื่นๆ ไม่ใช่เงินที่เยอะอะไร แต่ก็พอเป็นรายได้เสริมให้แม่บ้านทุกคน แต่สำคัญกว่านั้น คือการที่เรามีพื้นที่และมีกิจกรรมให้ทำร่วมกัน เหมือนมาเจอเพื่อน มาคุยเล่นกัน ไม่เหงาดี

ทุกวันนี้กลุ่มสัมมาชีพชุมชนเราได้งบจากสำนักงานเกษตรอำเภอแก่งคอยมาขับเคลื่อนด้วย และขยับมาเป็น ‘วิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่า’ เลยได้โอกาสเป็นที่ศึกษาดูงานให้กับกลุ่มอื่นๆ หรือถ้ามีงบประมาณมา เขาก็จะพากลุ่มเราไปศึกษาดูงานวิสาหกิจชุมชนอื่นด้วย ก็ได้เรียนรู้วิธีการทำงานหรือการหาช่องทางการตลาดของชุมชนอื่นไปพร้อมกันด้วย เป็นประโยชน์มากๆ

พี่มีลูกสองคน คนโตแต่งงานไปอยู่กับครอบครัวเขาที่อยุธยา ส่วนลูกคนเล็กเป็นพนักงานองค์การบริหารส่วนตำบล และก็ช่วยพ่อเขาทำกระชังปลา ถามว่าแก่งคอยในมุมพี่เป็นยังไง? จริงๆ ถ้าไม่ได้แต่งงานมาอยู่ที่นี่ พี่ก็ไม่คิดจะมาอยู่เลยนะ เพราะไม่รู้จะมาทำไม แต่พอมาอยู่แล้วก็ผูกพัน

แก่งคอยน่าอยู่นะ ถึงเมืองมันมีโรงงานอุตสาหกรรมเยอะ แต่ก็มีป่า มีภูเขา มีพื้นที่ธรรมชาติไม่น้อยไปกว่ากัน ขณะเดียวกัน พอเป็นเมืองอุตสาหกรรม มันก็ทำให้เราหากินง่าย ผู้คนมีกำลังซื้อ และถ้าให้เปรียบกับบ้านเกิดพี่ที่อยุธยา พี่ชอบแก่งคอยมากกว่า เมืองมันสงบ ไม่วุ่นวายดี และหน่วยงานท้องถิ่นที่นี่เขาค่อนข้างแอคทีฟ ทั้งภาครัฐและเอกชนเขามีโครงการมาส่งเสริมอาชีพชาวบ้านเยอะดี ช่วยหาตลาด หรือส่งเสริมเรื่องการทำมาหากินให้เรา ถึงเมืองมันสงบ แต่ก็ไม่เงียบเหงา”    

จำเนียร โกจันทึก
ประธานวิสาหกิจชุมชนกลุ่มแม่บ้านเกษตรกรบ้านป่า

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

THE INSIDER : ณัฐธิยาภรณ์ อ้วนวงศ์ นักวิจัยโครงการเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ร้อยเอ็ด และนักวิเคราะห์นโยบายและแผน กองยุทธศาสตร์และงบประมาณ เทศบาลเมืองร้อยเอ็ด

“หอโหวดเป็นเพียงจุดเริ่มต้น แต่หลังจากนี้คือกลไกที่เทศบาลต้องทำงานร่วมกับภาคประชาชนและนักวิชาการ ในการกำหนดทิศทางเมืองให้ร้อยเอ็ดพร้อมรับการท่องเที่ยว และทำให้เมืองมีความน่าอยู่ สำหรับผู้คนในเมืองพร้อมกันไปด้วย” “เราเกิดที่ร้อยเอ็ด เรียนมัธยมที่นี่ ก่อนไปเรียนระดับมหาวิทยาลัยที่กรุงเทพฯ ก่อนหน้านี้ สักเกือบ 10 ปีที่แล้ว เราไม่เคยมีความคิดจะกลับมาทำงานที่บ้านเกิดเลยนะ เพราะไม่เห็นโอกาสอะไรในชีวิตในภาพจำเดิมของเรา ร้อยเอ็ดเป็นเมืองผ่าน ไม่มีสถานที่ท่องเที่ยวขึ้นชื่อ ไม่มีแหล่งธรรมชาติสวยๆ…

4 days ago

WeCitizens : The Concept

ชวนอ่าน เบื้องหลังแนวคิดการขับเคลื่อนงานพัฒนาเมืองด้วยงานวิจัย องค์ความรู้ และนวัตกรรม ความร่วมมือ และบูรณการระหว่าง บพท. และสมาคมเทศบาลนครและเมือง ก่อเกิดโครงการ "โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (CIAP) ดำเนินการระหว่างปีพ.ศ. 2567-2568 กับผู้นำเมือง และเทศบาล…

6 days ago

WeCitizens เมืองร้อยเอ็ด : ก้าวสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด

WeCitizens : ร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด (ฉบับที่ 1) เปิดความคิด ความหวัง และโอกาสของการพัฒนาเมืองร้อยเอ็ดที่รัก นำโดยนายกเทศมนตรีเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด คุณบรรจง โฆษิตจิรนันท์ คณะทำงานเจ้าหน้าที่เทศบาล และหัวหน้าโครงการวิจัยร้อยเอ็ดเมืองน่าอยู่อย่างชาญฉลาด ผศ. ดร.ชัญญรินทร์…

1 month ago

City View : ๑๐๑ เมืองรองที่ไม่เป็นรองใคร

ร้อยเอ็ดอยู่ห่างจาก ‘สะดืออีสาน’ พื้นที่ที่ถูกปักหมุดให้เป็นจุดศูนย์กลางของภาคอีสานในอำเภอโกสุมพิสัย มหาสารคาม เพียง 60 กิโลเมตร ในตำนานอุรังคธาตุ (ตำนานพระธาตุพนม) กล่าวว่า ‘สาเกตนครร้อยเอ็ดประตู’ (ชื่อเดิม) เมืองนี้ มีประตูเท่าจำนวนเมืองขึ้น ‘ร้อยเอ็ดเมือง’ สะท้อนให้เห็นความรุ่งเรืองจากการเป็นศูนย์กลางอำนาจและการคมนาคมของภูมิภาคมาตั้งแต่สมัยพุทธศตวรรษที่ 21อีกทั้ง ส่วนหนึ่งของพื้นที่ยังเป็นที่ตั้งของทุ่งกุลาร้องไห้ ที่ราบขนาดใหญ่กว่า 2 ล้านไร่ ทำให้ในเวลาต่อมา ร้อยเอ็ดจึงเป็นอู่ข้าวที่ผลิตข้าวหอมมะลิทุ่งกุลาที่ใหญ่ และมีผลิตผลที่ดีที่สุดในโลก แม้มีภูมิหลังที่รุ่งเรือง กระนั้น ตลอดหลายทศวรรษหลัง…

1 month ago

๑๐๑ สานพลังผู้คนเพื่อกำหนดทิศทางเมือง

สนทนากับ ผศ.ดร.ชัญญรินทร์ สมพรหัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ‘ร้อยเอ็ด’, สถาบันวิจัยและพัฒนา มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด “พื้นที่นี้จะเป็นเหมือนตัวกลางในการสร้างความพร้อมให้คนร้อยเอ็ดสามารถรับมือกับความเปลี่ยนแปลงในอนาคต” ผศ. ดร.ชัญญรินทร์ สมพร รองผู้อํานวยการสํานักส่งเสริมวิชาการและจัดการเรียนรู้ตลอดชีวิต มหาวิทยาลัยราชภัฏร้อยเอ็ด และหัวหน้าโครงการวิจัย "โครงการเทศบาลเมืองร้อยเอ็ด ร้อยเอ็ดคนดี เชื่อมโยงโครงข่ายเศรษฐกิจ ด้วยการเดินบนความปลอดภัยและทันสมัย…

1 month ago

THE MAYOR : บรรจง โฆษิตจิรนันท์ : นายเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง

"เราให้ความสำคัญกับการเชื่อมโยงเศรษฐกิจให้ร้อยเอ็ดเป็นทางเลือกใหม่ของตลาด MICE ที่ราคาย่อมเยา เดินทางสะดวก และมีอัตลักษณ์" เริ่มจากความคับข้องใจที่เห็นบ้านเกิดของตัวเอง (ร้อยเอ็ด) เป็นเมืองผ่านที่มักถูกมองข้าม เมื่อ บรรจง โฆษิตจิรนันท์ เข้ารับตำแหน่งนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด เมื่อปี 2538 เขาจึงเริ่มโครงการพัฒนาเมือง ไปพร้อมกับการดึงเสน่ห์จากศิลปวัฒนธรรมและประวัติศาสตร์ ดึงดูดให้ผู้คนมาเที่ยว…

2 months ago