“แก่งคอยไม่มีขนส่งสาธารณะ ใครจะมาเที่ยวก็ต้องขับรถส่วนตัวมา ช่วงเสาร์-อาทิตย์ รถจึงติดหนัก คนจากรอบนอกก็ไม่อยากเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ถ้าเรามีสมาร์ทบัสวิ่งตามจุดต่างๆ มันจะอำนวยความสะดวกทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้เยอะครับ”

“ผมเรียนจบด้านไบโอเทคโนโลยี มหาวิทยาลัยบูรพา จบมาช่วงโควิดพอดี เลยคิดว่ากลับมาตั้งหลักที่แก่งคอยบ้านเกิดเราก่อน เพราะที่บ้านมีผู้สูงอายุเยอะ ก็กลับมาช่วยพ่อดูแลอากง อาม่า และอาโก

พอดีกับตอนที่กลับทางบริษัท สระบุรีพัฒนาเมือง จำกัด ได้ร่วมกับ Depa (สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล) และเทศบาลเมืองแก่งคอย ทำโครงการนักดิจิทัลพัฒนาเมือง เปิดรับสมัครคนรุ่นใหม่มาทำงานโครงการสมาร์ทซิตี้เชื่อมกับทางเทศบาล ผมเลยสมัครเข้ามาทำงานนี้ และความที่ผมทำธุรกิจส่วนตัวปลูกผักไฮโดรโปนิกในโรงเรือนที่บ้านอยู่แล้วด้วย โดยส่งขายที่ร้านของพ่อในตลาดสดเป็นหลัก งานใหม่นี้ก็เลยลงตัว ได้ทำงานออฟฟิศตอนกลางวัน ได้ปลูกผักขายหารายได้เสริมที่บ้าน และมีเวลาให้ครอบครัว ที่สำคัญงานประจำนี้ ยังมีส่วนในการร่วมหาทิศทางพัฒนาบ้านเกิดผมไปพร้อมกันด้วย

บทบาทของนักดิจิทัลพัฒนาเมืองของผม นอกจากประสานระหว่าง Depa กับทางเทศบาล คือคิดโครงการที่น่าจะช่วยพัฒนาเมืองหรือส่งเสริมอาชีพผู้คนในเมืองได้ ก็มีเขียนโครงการ ‘สวนผักกินได้กินดี’ ส่งเสริมให้ชาวบ้านทั้ง 16 ชุมชนในเขตเทศบาลเมืองมีสวนผักเป็นของตัวเอง โดยสวนที่ว่าไม่จำเป็นต้องมีที่ดินขนาดใหญ่ แค่มีพื้นที่สัก 1×1 ตารางเมตร ก็ทำสวนในรูปแบบแนวตั้งได้แล้ว เริ่มนำเข้าแผน เพื่อที่จะหางบประมาณมาลง และให้ทางเทศบาลร่วมขับเคลื่อนต่อไป

ที่ผมอยากทำให้โครงการนี้มันเกิด ส่วนหนึ่งก็มาจากผมเองด้วย ก่อนหน้านี้พ่อผมเปิดร้านขายผักในตลาด (เฮียนิตย์ผักออร์แกนิก) ซึ่งประสบปัญหาว่าบางครั้งคนปลูกผักส่งประจำให้เรา เขาก็ไม่มีของส่ง เราก็เลยไม่มีของมาขาย ผมก็เลยเสนอว่างั้นเราศึกษาวิธีจากอินเทอร์เน็ท และปลูกผักไฮโดรโพนิกของเราเองแล้วกัน ก็ทดลองเรื่อยมาจนทุกอย่างนิ่ง กลายเป็นว่าผมก็มีรายได้เสริมมาอีก และธุรกิจพ่อก็สามารถรันต่อได้อย่างราบรื่น 

เรื่องนี้เลยทำให้ผมคิดว่าถ้าเราส่งเสริมองค์ความรู้ให้ผู้คนในเทศบาลปลูกผักกินเองที่บ้าน หรือแต่ละชุมชนมีสวนกลางสักแห่งที่ให้คนในชุมชนได้มาปลูกและใช้ประโยชน์ร่วมกัน ก็จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่าย รวมถึงบางคนยังสามารถต่อยอดไปเป็นอาชีพเสริมได้อีก เพราะช่วงหลังๆ ผู้คนเริ่มหันมาสนใจกินอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้นแล้ว ผักปลอดสารเคมีก็เป็นอีกผลิตภัณฑ์ที่ตอบโจทย์ ผมเลยเขียนโครงการนี้ไปให้ทางเทศบาลเอาเข้าแผนต่อไป

นอกจากโครงการสวนผัก ทางสำนักงานผมยังร่วมกับทางหอการค้าแก่งคอยมีแผนจะพัฒนาแพลทฟอร์มส่งเสริมการท่องเที่ยวตลาดท่าน้ำแก่งคอย ทำในรูปแบบสมาร์ทไกด์ (smart guide) มีการติดตั้งว่าถ้าใครอยากรู้ความเป็นมาของพื้นที่ อาจจะเข้าไปกดปุ่มฟังเสียงดู เป็น qr code ลองเปิดดูว่าที่นี่มีประวัติความเป็นมายังไง โดยนำร่องจากพื้นนี้ก่อน แล้วค่อยขยายไปตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง

อีกโครงการที่อยากให้เกิดมากๆ คือสมาร์ทบัส (smart bus) อยากให้แก่งคอยเรามีรถวิ่งรอบเมือง เป็นรถพลังงานไฟฟ้าเพื่อลดมลภาวะ เพราะที่ผ่านมา แก่งคอยไม่มีขนส่งสาธารณะ ใครจะมาเที่ยวแก่งคอยก็ต้องขับรถส่วนตัว ช่วงเสาร์-อาทิตย์ รถจึงติดหนัก คนจากรอบนอกก็ไม่อยากเข้ามาจับจ่ายใช้สอยในตลาด ถ้าเรามีสมาร์ทบัสวิ่งตามจุดต่างๆ ทั่วเมือง มันจะอำนวยความสะดวกทั้งคนท้องถิ่นและนักท่องเที่ยวได้เยอะครับ

อาจเพราะผมเกิดและโตที่นี่ด้วย ผมจึงผูกพันกับที่นี่ และไม่รู้สึกว่าจะต้องย้ายไปทำงานที่ไหน มันเป็นความผูกพันแบบที่เห็นคนในตลาดทักทายกันทุกวัน ไปไหนก็เจอคนรู้จัก ขาดเหลืออะไรก็มีคนคอยช่วยเหลือกัน อบอุ่นประมาณนี้น่ะครับ ซึ่งมันแตกต่างจากเมืองใหญ่ที่ถึงผู้คนจะเยอะแยะกว่านี้ จะคึกคักกว่านี้มาก แต่กลับรู้สึกว่าทำไมมันเหงาเหลือเกิน เพราะทุกคนต่างใช้ชีวิต ต่างคนต่างอยู่

แต่นั่นล่ะครับ ถ้ามองในมุมของคนรุ่นใหม่ที่นี่อาจเหงาสักหน่อย เพราะคนรุ่นผมอยู่กันน้อยมากๆ ซึ่งก็เข้าใจได้ว่าเมืองในปัจจุบันมันยังไม่รองรับ และนั่นเป็นเหตุผลที่ทำให้ผมอยากทำงานนี้ (นักดิจิทัลพัฒนาเมือง) เพื่อเปิดพื้นที่หรือโอกาสใหม่ๆ ให้คนรุ่นใหม่กลับเข้ามาอยู่ด้วยกันที่นี่”

สิรภพ แซ่จึง
นักดิจิทัลพัฒนาเมือง  

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

CITY ON THE MOVE : CIAP ระยะที่ 2 บพท. ผนึกกำลัง 45 พื้นที่ รวมพลังพัฒนาเมืองน่า

ผศ. ดร.มณีรัตน์ วงษ์ซิ้มหัวหน้าโครงการโปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดCIAP | นายฉัตรกุล ชื่นสุวรรณกุลที่ปรึกษาโครงการ CIAP ประธานกรรมาธิการสถาบันพัฒนาเมือง และอดีตรองนายกเทศบาลเมืองสระบุรี  ในงาน CITY SOLUTION DAY : เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่27 กันยายน 2568 ณ โรงแรมเซ็นทารา แกรนด์…

4 weeks ago

CITY ON THE MOVE : ปลดล็อคศักยภาพท้องถิ่นใหม่ กับ 4 ยุทธศาสตร์การพัฒนาเมือง

การบรรยายในหัวข้อ “ภาพรวมการขับเคลื่อนงานวิจัยและนวัตกรรมเพื่อการพัฒนาเมืองน่าอยู่และการกระจายศูนย์กลางความเจริญของหน่วย บพท.” โดย รศ.ดร.ปุ่น เที่ยงบูรณธรรม รองผู้อำนวยการฝ่ายแผนและยุทธศาสตร์องค์กร หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาระดับพื้นที่ (บพท.) ในงาน City Solution Days: เปิดเมือง เปลี่ยนเมือง สู่อนาคตเมืองน่าอยู่ วันที่…

4 weeks ago

CITY ON THE MOVE :<br />สถาบันพัฒนาเมือง มิติใหม่งานพัฒนาเมือง

“ในฐานะที่เป็นนายกเทศมนตรีเมืองร้อยเอ็ด และในฐานะนายกสมาคมเทศบาลนครและเมือง ซึ่งในสมาคมเรามีสมาชิกที่ประกอบไปด้วย เทศบาลนครประมาณ 35 แห่ง และ เทศบาลเมืองประมาณ 220 แห่ง ผมอยากเชิญชวนพวกเรามองเมืองของเราไปด้วยกัน โจทย์วันนี้ของประเทศไทย ถ้าให้เปรียบเทียบก็เหมือนเราเป็นคนที่มีจมูกรูเดียว พึ่งพาส่วนกลาง และเดินทางมาอย่างนี้มาโดยตลอด จนมีการกระจายอำนาจเมื่อปี 2540 แต่ก็เป็นการกระจายอํานาจค่อนข้างที่จะเป็น ลูกครึ่งลูกผสม คือมีรัฐบาลคอยกําหนดกรอบทั้งการปฏิบัติงานและงบประมาณ ท้องถิ่นก็ทำงานในระดับพื้นที่ไป จริงอยู่ว่าเรื่องนี้จะไม่ได้เป็นอุปสรรคปัญหาต่อการพัฒนาเชิงพื้นที่เท่าไหร่ โดยเฉพาะกับกลุ่มผู้บริหารท้องถิ่นที่มีความตั้งใจจริง และแสวงหาโอกาสที่อยากจะพัฒนาบ้านเกิดเมืองนอนของตัวเองอย่างตลอดเวลา   วันนี้สมาคมเทศบาลนครและเมือง มีโอกาสรวมตัวกันในการที่จะแลกเปลี่ยนเรียนรู้ประสบการณ์ แล้วหาช่องทางในการที่จะส่งเสริมต่อยอด ซึ่งในปีพ.ศ.2567 ก็เกิดความร่วมมือกับทาง บพท.…

4 weeks ago

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

2 months ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

2 months ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

2 months ago