“พ่อผมทำงานที่สถานีรถไฟหาดใหญ่ จากนั้นก็ตามมาด้วยพี่ชาย ส่วนผมทำงานบริษัทเอกชน แต่ก็เติบโตมากับชุมชนรถไฟ และคุ้นเคยกับวัฒนธรรมของคนรถไฟที่นี่ดี
แต่ไหนแต่ไรรถไฟคือกระดูกสันหลังของการพัฒนา และจุดเริ่มต้นของความเจริญของเมืองหาดใหญ่ก็มาจากการตั้งชุมทางรถไฟหาดใหญ่ อย่างไรก็ตาม ด้วยวัฒนธรรมองค์กรที่เป็นระบบราชการรวมศูนย์ การรถไฟจึงแปลกแยกตัวเองจากชุมชนและเมืองพอสมควร กล่าวคือต่อให้หน่วยงานปกครองส่วนท้องถิ่นหรือภาคประชาชนมีโครงการพัฒนาเมืองอะไรก็ตาม แต่ถ้าหน่วยงานระดับบนของการรถไฟไม่เอาด้วย หน่วยงานส่วนท้องถิ่นก็จะไม่สามารถร่วมโครงการพัฒนานั้นได้
ด้วยเหตุนี้เมื่อย้อนกลับมามองเฉพาะในหาดใหญ่ จึงเห็นได้ชัดว่าแม้พื้นที่ของสถานีและชุมชนรถไฟที่มีหลายร้อยไร่ส่วนหนึ่งเป็นพื้นที่สีเขียวที่ร่มรื่นมาก แต่พื้นที่ดังกล่าวกลับดูคล้ายเป็นพื้นที่ปิด ไม่มีการเชื่อมโยงกับเมือง การรถไฟเรามีพื้นที่ที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใหญ่ แต่ด้วยบรรยากาศบางอย่าง คนหาดใหญ่ก็ไม่ค่อยอยากเข้ามาใช้งาน ซึ่งเป็นเรื่องน่าเสียดาย
เมื่ออาจารย์เจี๊ยบ (สิทธิศักดิ์ ตันมงคล) ชวนผมเข้าร่วมเครือข่ายของโครงการคลองเตยลิงก์ ในฐานะที่ผมพยายามผลักดันแนวคิดเรื่อง smart growth (แนวคิดการวางผังเมืองโดยสร้างความเจริญไปพร้อมกับสุขภาวะที่ดีของคนในเมือง – ผู้เรียบเรียง) อยู่แล้ว และก็มีลักษณะกึ่งๆ เป็นคนในของการรถไฟด้วย จึงเห็นถึงความเป็นไปได้ในการเชื่อมรถไฟเข้ากับเมือง ทำให้รถไฟเป็นหน่วยหนึ่งของการพัฒนาให้หาดใหญ่เป็นเมืองที่น่าอยู่
เพราะหนึ่งในภาพฝันที่ผมและอาจารย์เจี๊ยบเห็นร่วมกันคือการทำให้หาดใหญ่เป็นเมืองเดินได้ ด้วยการร่วมกับภาครัฐพัฒนาสาธารณูปโภคของเมืองที่เอื้อให้คนในเมืองได้เดินเท้าอย่างสะดวก ขณะเดียวกันโครงการพัฒนาขนส่งสาธารณะเลียบคลองเตย ก็มีจุดเริ่มต้นของเส้นทางอยู่ที่สถานีรถไฟ โครงการนี้จะเดินหน้าต่อไม่ได้เลยถ้าการรถไฟไม่ร่วมด้วย
ผมก็อาศัยความคุ้นเคยในฐานะลูกรถไฟ เข้าทางสหภาพ คือถึงแม้รถไฟจะมีความเป็นราชการรวมศูนย์ แต่ในระดับท้องถิ่นก็มีสหภาพที่มีอำนาจต่อรองกับส่วนกลาง จึงเริ่มผลักดันผ่านสหภาพนี่แหละ ให้เขาสื่อสารกับส่วนกลาง ขณะเดียวกันในสิ่งที่ทำได้เบื้องต้น เช่นการรับฟังข้อเสนอโครงการมาดูว่าเราสามารถปรับอะไรให้สอดรับกับโครงการเขาได้บ้างก็ทำไปก่อน
อย่างที่บอก ถนนหน้าสถานีรถไฟเรามีต้นไม้ใหญ่เยอะ เป็นสวนหย่อมใจกลางเมือง อาจจะเริ่มจากการปรับภูมิทัศน์ตรงนี้ ก่อนพัฒนาให้เป็นทางเดินและพักผ่อน ทำทางลาดเชื่อมพื้นที่ชานชาลามาสู่พื้นผิวถนน ผู้โดยสารลงรถไฟก็จะได้ไม่ต้องยกกระเป๋า ให้การเดินเท้ามันราบรื่นต่อเนื่อง ระหว่างรอรถไฟก็สามารถนั่งพักในสวนนี้ได้
ทั้งนี้ การรถไฟหาดใหญ่กำลังมีแผนจัดทำพิพิธภัณฑ์รถไฟของตัวเองอยู่ด้วย จึงคิดว่าตรงนี้เป็นตัวเชื่อมที่ดีเลยนะ เพราะถ้าคุณปรับปรุงพื้นที่ให้รับไปกับเมือง พิพิธภัณฑ์ตรงนี้ก็จะกลายมาเป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งใหม่ ขณะเดียวกันประวัติศาสตร์เกี่ยวกับรถไฟและการสร้างเมืองหาดใหญ่ก็จะได้รับการเผยแพร่ในวงกว้างขึ้น ซึ่งผมยังมองว่าด้วยศักยภาพของบ้านพักรถไฟในพื้นที่หลายหลังซึ่งมีอายุไล่เลี่ยกับสถานีและยังคงได้รับการดูแลอย่างดี เราจะปรับให้พื้นที่รอบๆ สถานีกลายให้เป็นพิพิธภัณฑ์ที่มีชีวิตก็ยังได้
ขณะที่ในระยะยาว เพื่อรองรับกับขนส่งสาธารณะ ผมเห็นด้วยกับข้อเสนอของภาคเอกชนที่จะทำอาคาร park and ride หรืออาคารจอดรถตรงสถานีรถไฟ ช่วยแก้ปัญหาในเมืองไม่มีที่จอดรถ คุณขับเข้ามา จอดตรงนี้ และใช้รถสาธารณะเดินทางต่อ หรือถ้าเดินไปทำธุระก็ได้ เพราะแถวนี้อะไรก็ใกล้กันหมด
หาดใหญ่ถูกพัฒนาด้วย baby boomer มานานครับ ซึ่งเข้าใจได้ว่าธรรมชาติของคนรุ่นผม คือการสะสมความมั่งคั่งและนิยมใช้รถยนต์ส่วนตัว นี่อาจเป็นเหตุผลหนึ่งที่ทำให้ระบบขนส่งสาธารณะของหาดใหญ่มันไม่เกิดเสียที
แต่อย่าลืมว่าทุกวันนี้มันคือยุคของคนเจนใหม่ คนที่ใส่ใจกับการใช้พื้นที่และการขนส่งสาธารณะ มีเด็กรุ่นใหม่ไม่น้อยแบกเป้นั่งรถไฟเที่ยวทั่วประเทศ หรือนั่งจากหาดใหญ่ไปมาเลเซีย ในทางกลับกันนักท่องเที่ยวรุ่นใหม่จากมาเลเซียก็เลือกนั่งรถไฟมาเที่ยวหาดใหญ่ และหลายคนก็คิดถึงการท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรมผ่านการเดินเท้าตามตรอกซอกซอยในเมือง เศรษฐกิจของเมืองต่อไปจะขับเคลื่อนด้วยเทรนด์นี้
และที่สำคัญเมืองที่มีความน่าอยู่อย่างแท้จริงก็ต้องอาศัยองค์ประกอบเหล่านี้ การมีพื้นที่สีเขียวพร้อมพรั่ง การเดินเท้าไปทำธุระใกล้บ้านได้อย่างสะดวกและปลอดภัย และการมีขนส่งสาธารณะที่มีประสิทธิภาพโดยคนในเมืองพึ่งพารถส่วนตัวให้น้อยที่สุด ผมคิดว่าถ้าเราร่วมมือกันทุกฝ่าย หาดใหญ่มีศักยภาพจะพัฒนาไปถึงจุดที่ว่าได้”
วรพงศ์ ราคลี
แอดมินเพจ Smart Growth Hat Yai
https://www.facebook.com/groups/hatyaithinktank/
อ่าน WeCitizens เมืองนนทบุรีน่าอยู่ที่ชาญฉลาด Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/zria/ Download PDF File : https://drive.google.com/file/d/1i8cV4rE0UCSgzDUjU4nk52TxKjp1Tnyo/view?usp=share_link บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ของคนเมืองนนทบุรี นำโดย นายกฯ สมนึก ธนเดชากุล นายกเทศมนตรีนครนนทบุรี (ดำรงตำแหน่ง มีนาคม 2564-…
จากแพลตฟอร์มดูแลสุขภาพสู่เป้าหมาย Healthy City “ระบบติดตามผลสุขภาพเวชศาสตร์วิถีชีวิตนครนนท์จะทำให้การดูแลสุขภาพของคนนนท์เป็นเรื่องง่าย และมีแรงจูงใจ”WeCitizens สนทนากับ รศ. ดร.สมพร คุณวิชิต อาจารย์ประจำสาขาวิชารัฐประศาสนศาสตร์ คณะวิทยาการจัดการ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ ถึงบทบาทในการขับเคลื่อนงานวิจัย “การบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดและการยกระดับบริการสาธารณะด้านสุขภาวะสำหรับผู้สูงวัยในพื้นที่เทศบาลนครนนทบุรี”จากนักวิจัยชั้นแนวหน้าด้านการจัดการภัยพิบัติ และการศึกษา…
“จะว่าไป ชุมชนศรีพรสวรรค์ 2 ที่พวกเราอาศัยอยู่ ก็เป็นชุมชนของคนตลาดก็ว่าได้ เพราะอยู่ใกล้ตลาดฐานเพชรนนท์ ซึ่งเป็นตลาดค้าส่ง-ปลีกที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในจังหวัด นับว่าเป็นการสืบต่อกันจากรุ่นสู่รุ่น ปู่ย่าตายายเคยขายของที่ตลาดนี้ ก็ส่งต่อให้ลูกหลาน ต่อเนื่องกันมาเป็นสิบ ๆ ปี หลายครอบครัวอยู่ที่นี่ก่อนท่านนายกฯ (นายกเทศมนตรี)…
“ชุมชนโยกย้ายตั้งอยู่ที่ตำบลสวนใหญ่ ไม่ไกลจากท่าน้ำนนท์ บ้านเราเป็นทาวน์เฮาส์ริมถนนพิบูลสงคราม ตรงข้ามตลาดเทศบาลนนทบุรีเดิมพื้นที่นี้เคยเป็นสวนทุเรียน ก่อนจะกลายมาเป็นศูนย์ราชการเมืองนนท์ กระทั่งมีการย้ายศาลากลางออกไปและเปลี่ยนเป็นพิพิธภัณฑ์ ส่วนพื้นที่รอบ ๆ ก็กลายเป็นตลาดเก่าที่ค่อย ๆ ซบเซา โดยเฉพาะหลังโควิด-19 ที่ทำให้พื้นที่ตรงนี้ดูเหมือนจะค่อย ๆ ตายลง…
“ผมเกิดและโตที่ชุมชนวัดทางหลวง อยู่กันมาตั้งแต่รุ่นปู่ย่าตายายเลยครับ แม่ผมเคยเป็นอาสาสมัครชุมชน พอท่านอายุมากขึ้น—แปดสิบกว่าปีแล้ว—ผมก็เลยไปช่วยแทนบ้าง ไปประชุมบ้าง ทำกิจกรรมชุมชนบ้าง ไป ๆ มา ๆ ก็เลยกลายเป็นกรรมการชุมชน และสุดท้ายก็เป็นประธานชุมชน หลัก ๆ ผมทำธุรกิจขายหมูฝอย…
"ความน่าอยู่ของนนทบุรีคือความเป็นเมืองใหญ่ที่ใกล้กรุงเทพฯแต่ยังคงแฝงไว้ด้วยบรรยากาศแบบชนบทที่เรียบง่ายป้าก็หวังว่าเราจะสามารถรักษาเสน่ห์นี้ไว้ได้ต่อไป" “ชุมชนวัดลานนาบุญ ตั้งอยู่ในตำบลตลาดขวัญ เขตเทศบาลนครนนทบุรี เป็นชุมชนชาวสวนดั้งเดิม โดยมีลำคลองสายสำคัญสองสายไหลผ่าน ได้แก่ คลองบางตะนาวศรี ซึ่งเป็นคลองสายใหญ่ที่ไหลออกสู่แม่น้ำเจ้าพระยา และคลองบางขวาง ซึ่งเป็นคลองสายเล็กตัดผ่านกลางซอย ชาวบ้านในชุมชนแทบทุกหลังคาเรือนจะมีคลองสองสายนี้ไหลผ่านใกล้บ้าน จึงเป็นชุมชนใกล้เมืองที่ยังคงรักษาวิถีชีวิตดั้งเดิมและความเป็นธรรมชาติไว้ได้เมื่อก่อนชาวบ้านนิยมปลูกทุเรียนกันมาก แต่ช่วงหนึ่งความนิยมซบเซาลง จึงหันไปปลูกผลไม้อื่น…