“ชุมชนเราเป็นชุมชนเมือง มีขยะประเภทรีไซเคิลเยอะ ป้าก็เป็นแกนนำตั้งกลุ่มจิตอาสารักษาสิ่งแวดล้อมในชุมชนเอื้ออาทร 10/2 คลอง 10 เมื่อปี 2558 จากนั้นก็ตั้งกลุ่มวิสาหกิจชุมชน จดทะเบียนถูกต้อง พัฒนาขยะรีไซเคิล ทำผลิตภัณฑ์ด้านรักษาสิ่งแวดล้อม ของเราก็จะมีน้ำยาล้างจานที่ทำจาก EM (Effective Microorganisms กลุ่มจุลินทรีย์ที่มีประสิทธิภาพที่มีประโยชน์ต่อคน พืช สัตว์ และสิ่งแวดล้อม) ซึ่งก็รักษาสิ่งแวดล้อม น้ำที่ล้างลงไปก็จะขจัดคราบไขมันในท่อน้ำทิ้งก่อนจะปล่อยลงแม่น้ำลำคลอง น้ำก็จะสะอาดขึ้น น้ำยาล้างจานทั่วไปมีสารเคมีผสม บางคนก็แพ้ กัดมือ ป้าก็แพ้ เรามาพัฒนาน้ำยาของเรา มือเราก็ไม่แพ้
พวกขวดน้ำ ขวดน้ำอัดลม เอามาเพิ่มมูลค่าของขยะรีไซเคิล ทางราชมงคล (มทร.ธัญบุรี) มาพัฒนา ออกแบบเครื่องมือตัด ทำผลิตภัณฑ์ไม้กวาดรักษ์โลก วิธีทำคือเอาขวดน้ำ ขวดน้ำอัดลม ขวดเป็นสี ๆ ยิ่งสวย เดี๋ยวนี้เขาเปลี่ยนเป็นสีใส ๆ สีขาวหมด มาตัดด้วยเครื่องมือตัดให้เป็นเส้นแบน ๆ ออกมาตามความยาวของขวด เอาไปผ่านความร้อนสูงเพื่อเพิ่มความเกลียว ให้เส้นไม้กวาดแข็งแรง ของเราใช้ได้เป็นปีเลยนะคะ สึกยาก คุ้มค่าค่ะ แค่ 120 บาท เป็นไม้กวาดแข็งใช้กวาดนอกบ้าน กวาดถนน ใบไม้ กวาดน้ำ ขายดี ผลิตไม่ทันค่ะ คนซื้อก็เลือกขนาดด้ามได้ มีความสูงต่ำต่างกัน เราเลือกใช้ด้ามไม้ไผ่ ย่อยสลายได้ ราคาถูกกว่าพลาสติกด้วย
กิจกรรมต่าง ๆ ในชุมชน เน้นใช้วัตถุย่อยสลายได้ งดการใช้กล่องโฟม ร้านค้า ร้านอาหารใช้ถุงผ้า ซึ่งก็เป็นโครงการของการเคหะแห่งชาติอยู่แล้ว เรารณรงค์ใช้ถุงผ้ามาตั้งแต่ปี 2558-59 แล้วก็รณรงค์ให้คัดแยกขยะในครัวเรือนตั้งแต่ต้นทางเลย เรามีแจกถังตัดตูด ที่เป็นแนวคิดของกระทรวงมหาดไทยให้ฝังถังตัดตูดลงไปประมาณสามในสี่ ใส่เศษอาหารเศษผักลงฝังดินกลายเป็นปุ๋ย ส่วนกลางก็มีบ่อทิ้งขยะ 4 บ่อ อยู่ด้านหลังสำนักงานชุมชน ชาวบ้าน ร้านอาหาร ร้านขายผลไม้ที่มีเศษอาหารพวกนี้เยอะ ก็เอามาเท ประมาณสามเดือนเต็มก็ปิดบ่อหมักเป็นดินเอามาปลูกต้นไม้ได้ ทางเข้าชุมชนซึ่งเป็นหน้าเป็นตาของชุมชน เทศบาลเข้ามาตัดหญ้าเดือนละหนึ่งครั้ง แต่เพราะชุมชนมันเยอะเนอะ มันไม่ทัน เราก็รวมกลุ่มกันเข้าไปถางขยะกิ่งไม้อะไรที่ดูรกรุงรัง ตัดมาแล้วไม่รู้เอาไปทิ้งไหน ก็เอามาเผาถ่านไร้ควัน เอาไปจำหน่ายให้ตามร้านค้า เงินที่ขายถ่านมาต่อยอดกิจกรรมในชุมชน จ่ายค่าน้ำค่าไฟในสำนักงานเพราะเราไม่มีนิติ ไม่มีแม่บ้าน ไม่มีรปภ. เราดูแลกันเองเลย
ในชุมชนเราก็จะหาจิตอาสาไปเรื่อย ๆ ชวนกันมา จากเดิมสี่ห้าคน เดี๋ยวนี้สิบกว่าคน กระจายตามซอยให้ดูแลกันทั่วถึง มีกลุ่มรับซื้อขยะ 0 บาท เอาขยะมาแลกน้ำมันพืช แลกอาหารกระป๋อง กลุ่มรับซื้อน้ำมันพืชใช้แล้วทุกวันอาทิตย์ กำไรจากน้ำมันก็เอามาร่วมทำกิจกรรมในชุมชน ซื้อของให้ผู้สูงอายุ ผู้ป่วยติดเตียง ซื้อนม ซื้อแพมเพิร์สให้ เรื่องที่จอดรถ ประธานชุมชนของเราก็ประกาศเรื่อย ๆ ว่า จอดรถอย่าให้กีดขวาง ให้เวลาเจ็บป่วยหรือไฟไหม้ รถจะได้เข้าถึง ได้ช่วยเหลือทัน คนอยู่อาศัยก็รับทราบกัน ก็ไม่ค่อยมีปัญหา ความสะอาดทั่วไปชาวบ้านก็ดูแลหน้าบ้านใครหน้าบ้านมันอยู่แล้ว บ้านไหนไม่มีคนอยู่ คนที่อยู่ใกล้ ๆ ก็ช่วยกันดูแล
คือในชุมชนเราอยู่กันแบบพี่น้อง มีความเอื้ออาทรกันตามชื่อหมู่บ้านเลย ตอนแรกเรามาอยู่ ทางการเคหะมีอบรมหลายโครงการ เรื่องดับเพลิง ดูแลสิ่งแวดล้อม ความเอื้ออาทรอยู่อาศัยร่วมกัน ยาเสพติดเรื่องสายใยรักจากครอบครัว เพื่อนบ้านก็ต้องผูกมิตรกัน เพื่อเป็นหูเป็นตาให้กัน มันดีกว่ากล้องวงจรปิดอีกค่ะ”
คัทธีญา ผาคำ
ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนรักษ์สิ่งแวดล้อม ชุมชนเอื้ออาทร 10/2 คลอง 10
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…