“เราทั้งคู่ไม่ได้มีพื้นเพอยู่ที่นี่แต่แรก จุ้ยเป็นคนน่าน ส่วนโชะเป็นคนเชียงราย เราเจอกันตอนบรรจุราชการครูที่หาดใหญ่ พอตัดสินใจอยู่ด้วยกันก็มาคิดถึงเมืองที่อยู่ใกล้บ้าน แล้วก็มาลงเอยด้วยการย้ายมาทำงานที่พะเยา
พอตัดสินใจแล้วจะใช้ชีวิตกันที่เมืองนี้ เราเลยลงมือปลูกบ้าน บ้านที่มีสวน มีพื้นที่ให้เราทำงานศิลปะและทำเวิร์กช็อปเล็กๆ (ครูจุ้ยเป็นครูศิลปะ ส่วนครูโชะสอนดนตรี – ผู้เรียบเรียง) คุยกันหลายรอบว่าบ้านเราควรจะเป็นแบบไหน จนมีโอกาสได้อ่านบทสัมภาษณ์ของพี่โจน จันได เราชอบวิธีคิดในการสร้างสมดุลชีวิตและปรัชญาในการสร้างบ้านดินของเขา นั่นเป็นส่วนสำคัญที่ทำให้เราทั้งคู่ตัดสินใจทำบ้านดิน
ทำไมต้องเป็นบ้านดินน่ะหรือ ข้อแรกคือความประหยัด ข้อต่อมาคือมันสอดรับกับทุ่งนาและสวนบริเวณนี้ และในฐานะที่เราทั้งคู่สนใจการเรียนรู้ผ่านกระบวนการศิลปะ บ้านดินจึงตอบโจทย์ที่สุด เราทำบ้านเองทุกขั้นตอน ได้ลองผิดลองถูก ได้ใช้ชีวิตและเรียนรู้ไปกับมัน หลายคนมักมองว่าบ้านดินดูแลรักษายาก แต่ก็เพราะเราเรียนรู้ไปกับมันตลอดเวลานี่แหละ เราจึงพบวิธีประยุกต์ให้บ้านดินมีความยั่งยืน อยู่ง่าย และอยู่สบายด้วย เราตั้งสโลแกนที่แห่งนี้ไว้ว่า live and learn mud house และตั้งชื่อบ้านว่า ‘บ้านดินคำปู้จู้’ โดยคำปู้จู้แปลว่าดอกดาวเรืองที่เราปลูกในบริเวณ
เพราะเราทั้งคู่เป็นครูสายศิลปะด้วย เราจึงตระหนักว่าศิลปะมันไม่ควรเรียนจบแค่ในห้องเรียน พอทำบ้านหลังนี้เสร็จก็เลยคิดจะเปิดเป็นพื้นที่กิจกรรมเสริมให้แก่นักเรียน แต่ก็ไม่คิดว่าจะทำให้เป็นทางการอย่างไร จนมาปี 2558 สำนักวัฒนธรรมเมืองพะเยามาเห็นถึงศักยภาพในการพัฒนาที่นี่ให้กลายเป็นศูนย์การเรียนรู้ของชุมชนและของเมืองได้ ซึ่งก็สอดรับกับสิ่งที่เราสอนอยู่คือเครื่องปั้นดินเผา โดยพะเยาก็มีแหล่งเตาเผาโบราณที่ชื่อเวียงบัว รวมถึงที่เราทำการเกษตรทฤษฎีใหม่ตามพระราชดำริของในหลวงรัชกาลที่ 9 อยู่แล้ว เราก็คิดว่าถ้าเปิดเป็นพื้นที่เรียนรู้ก็น่าจะได้นะ
ตอนนั้นมีโครงการเปิดแหล่งเรียนรู้ 60 แห่งทั่วประเทศ เพื่อเฉลิมพระเกียรติ 60 พรรษา สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี พื้นที่การเรียนรู้แห่งอื่นๆ ทั้งหมดล้วนเป็นพิพิธภัณฑ์ วัด ห้องสมุด หรือเป็นศูนย์การเรียนรู้ มีแค่ของเราที่เดียวเลยที่เป็นบ้านคน บ้านที่เราอาศัยอยู่จริงๆ
ที่นี่สอนทุกอย่างเท่าที่เราได้เรียนรู้มาค่ะ หลักๆ คือการทำบ้านดินประยุกต์ ทำเตาดิน งานเซรามิก ไปจนถึงการเกษตร ขณะเดียวกันเราก็เปิดให้ผู้ที่สนใจใช้พื้นที่เราทำเวิร์คช็อปเรื่องอื่นๆ อย่างดนตรี ศิลปะ ไปจนถึงการทำอาหาร เรามองสองแง่มุม อันดับแรกคือคุณมาเรียนเพื่อเพิ่มทักษะทางวิชาชีพ อย่างที่เราสอนทำบ้านดิน ก็มีหลายคนมาเรียนเพื่อไปสร้างพื้นที่ของตัวเอง หรือเรียนเพื่อเอาไปใช้ในเชิงธุรกิจ
ส่วนอันที่สองที่สำคัญกว่าคือ การมาเรียนเพื่อได้รู้จักตัวเอง หลายคนมักเข้าใจว่าการที่เราเรียนศิลปะ ปลายทางคือการเป็นศิลปิน แต่จริงๆ แล้วไม่ใช่เลย ศิลปะคือการทำความเข้าใจชีวิต มันเปิดโอกาสให้เราได้สำรวจความชอบของตัวเอง เข้าใจในธรรมชาติของวัตถุดิบ การถอดบทเรียนจากสิ่งที่เราผิดพลาด ไปจนถึงเรื่องของสมาธิ และปรัชญา
ยิ่งสิ่งที่เราสอนคืองานเครื่องปั้นดินเผาด้วย เราใช้ดินเป็นเครื่องมือในการสื่อสาร ถ้าเอาดินเข้าเตาแล้วมันแตก ระเบิดไป คุณรับกับความไม่แน่นอนนี้ได้ไหม ขณะที่คุณปั้นดิน คุณคิดว่านี่ดีที่สุดแล้ว แต่คุณอาจยังไล่อากาศออกจากดินไม่หมด ก็มีโอกาสระเบิดในเตาไปโดนงานของคนอื่นด้วย เราจึงต้องดูแลของตัวเองให้ดีที่สุด เพื่ออยู่ร่วมกับคนอื่น
การศึกษาที่ถูกต้องควรจะทำให้ชีวิตเราง่ายขึ้น แต่คุณสังเกตไหมว่ายิ่งเรียนในชั้นเรียนมาก เราจะยิ่งรู้สึกว่าทำไมยากจัง ที่เป็นอย่างนั้นก็เพราะเราอาจจะยังไม่รู้ว่าเราชอบอะไร การเรียนในห้องเรียนเป็นสิ่งจำเป็น เพราะทำให้เราได้ความรู้ไปประกอบอาชีพ แต่การเรียนนอกห้องเรียนก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะทำให้เราได้รู้จักตัวเอง และถ้าเรารู้จักตัวเองแต่เนิ่นๆ เราจะไม่มาเสียเวลาทำในสิ่งที่ไม่ชอบ และเราจะทุ่มไปทั้งตัวเพื่อสิ่งที่เรารัก ซึ่งไม่ว่าปลายทางจะเป็นอย่างไร แต่การค้นพบเส้นทางนี้อย่างน้อยๆ มันก็ทำให้เราภูมิใจ และพบว่าเรามีชีวิตและเรียนรู้ไปเพื่ออะไร”
ครูจุ้ย-ชลดา และครูโชะ-ศักดิ์ชัย เวยื่อ
ครูโรงเรียนเทศบาลและเจ้าของบ้านดินคำปู้จู้
“เมืองอาหารปลอดภัยไม่ได้ให้ประโยชน์แค่เฉพาะผู้คนในเขตเทศบาลฯแต่มันสามารถเป็นต้นแบบให้เมืองอื่น ๆ ที่อยากส่งเสริมคุณภาพชีวิตของผู้คนได้เช่นกัน” “งานประชุมนานาชาติของสมาคมพืชสวนโลก (AIPH Spring Meeting Green City Conference 2025) ที่เชียงรายเป็นเจ้าภาพเมื่อเดือนกุมภาพันธ์ 2568 ที่ผ่านมา เน้นย้ำถึงทิศทางการพัฒนาเมืองสีเขียว…
“ทั้งพื้นที่การเรียนรู้ นโยบายเมืองอาหารปลอดภัย และโรงเรียนสำหรับผู้สูงวัยคือสารตั้งต้นที่จะทำให้เชียงรายเป็นเมืองแห่งสุขภาพ (Wellness City)” “กล่าวอย่างรวบรัด ภารกิจของกองการแพทย์ เทศบาลนครเชียงราย คือการทำให้ประชาชนไม่เจ็บป่วย หรือถ้าป่วยแล้วก็ต้องมีกระบวนการรักษาที่เหมาะสม ครบวงจร ที่นี่เราจึงมีครบทั้งงานส่งเสริมสุขภาพ ป้องกันโรค การรักษาเมื่อเจ็บป่วย และระบบดูแลต่อเนื่องถึงบ้าน…
“การจะพัฒนาเมือง ไม่ใช่แค่เรื่องสาธารณูปโภคแต่ต้องพุ่งเป้าไปที่พัฒนาคนและไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า การศึกษา” “แม้เทศบาลนครเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโกแห่งแรกของไทยในปี 2562 แต่การเตรียมเมืองเพื่อบรรลุเป้าหมายที่ว่านี้ เกิดขึ้นก่อนหน้านั้นหลายสิบปี ในอดีต เชียงรายเป็นเมืองที่ห่างไกลความเจริญ ทางเทศบาลฯ เล็งเห็นว่าการจะพัฒนาเมือง ไม่สามารถทำได้แค่การทำให้เมืองมีสาธารณูปโภคครบ แต่ต้องพัฒนาผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของเมือง และไม่มีเครื่องมือไหนจะพัฒนาคนได้ดีไปกว่า ‘การศึกษา’…
“ถ้าอาหารปลอดภัยเป็นทางเลือกหลักของผู้บริโภคเชียงรายจะเป็นเมืองที่น่าอยู่กว่านี้อีกเยอะ” “นอกจากบทบาทของการพัฒนาชุมชนและสังคมสงเคราะห์ กองสวัสดิการสังคม เทศบาลนครเชียงราย ยังมีกลไกในการส่งเสริมเศรษฐกิจของพี่น้อง 65 ชุมชน ภายในเขตเทศบาลฯ โดยกลไกนี้ครอบคลุมการส่งเสริมสุขภาพ และช่วยดูแลสิ่งแวดล้อมในทางอ้อมด้วยกลไกที่ว่าคือ ‘สหกรณ์นครเชียงราย’ โดยสหกรณ์ฯ นี้เริ่มต้นมาตั้งแต่ปี 2560 หลักเราคือการสนับสนุนเศรษฐกิจชุมชน…
“แม่อยากปลูกผักปลอดภัยให้ตัวเองและคนในเมืองกินไม่ใช่ปลูกผักเพื่อส่งขาย แต่คนปลูกไม่กล้ากินเอง” “บ้านป่างิ้ว ตั้งอยู่ละแวกสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย เราและชุมชนฮ่องลี่ที่อยู่ข้างเคียงเป็นชุมชนเกษตรที่ปลูกพริก ปลูกผักไปขายตามตลาดมาแต่ไหนแต่ไร กระทั่งราวปี 2548 สำนักงานเกษตรอำเภอเมืองเชียงราย มาส่งเสริมให้ทำเกษตรปลอดภัย คนในชุมชนก็เห็นด้วย เพราะอยากทำให้สิ่งที่เราปลูกมันกินได้จริง ๆ ไม่ใช่ว่าเกษตรกรปลูกแล้วส่งขาย แต่ไม่กล้าเก็บไว้กินเองเพราะกลัวยาฆ่าแมลงที่ตัวเองใส่…
“วิวเมืองเชียงรายจากสกายวอล์กสวยมาก ๆขณะที่ผืนป่าชุมชนของที่นี่ก็มีความอุดมสมบูรณ์จนไม่น่าเชื่อว่านี่คือป่าที่อยู่ในตัวเมืองเชียงราย” “ก่อนหน้านี้เราเป็นพนักงานบริษัทเอกชนที่ต่างจังหวัด จนเทศบาลนครเชียงรายเขาเปิดสกายวอล์กที่ศูนย์การเรียนรู้ชุมชนดอยสะเก็น และหาพนักงานนำชม เราก็เลยกลับมาสมัคร เพราะจะได้กลับมาอยู่บ้านด้วย ตรงนี้มีหอคอยชมวิวอยู่แล้ว แต่เทศบาลฯ อยากทำให้ที่นี่เป็นแหล่งท่องเที่ยว ก็เลยต่อขยายเป็นสกายวอล์กอย่างที่เห็น ซึ่งสุดปลายของมันยังอยู่ใกล้กับต้นยวนผึ้งเก่าแก่ที่มีผึ้งหลวงมาทำรังหลายร้อยรัง รวมถึงยังมีเส้นทางศึกษาธรรมชาติบนภูเขา ในป่าชุมชนผืนนี้ จริง…