11 ปีจากจุดเริ่มของการแก้ปัญหาของเมืองเชียงใหม่ด้วยการใช้วัฒนธรรมเป็นตัวนำ จนกลายมาเป็นเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่

“รูปแบบของานยอสวยไหว้สาพญามังราย ฉลองครบรอบ 726 ปีเมืองเชียงใหม่ ที่ทางเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ได้มีส่วนร่วมจัดงานไปเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมานี้ แตกต่างจากปีที่ผ่านมาเล็กน้อย หนึ่งในความเปลี่ยนแปลงสำคัญ คือในที่สุดเราก็สามารถสืบค้นจากเอกสารโบราณเกี่ยวกับเครื่องบวงสรวงหอบรรพกษัตริย์ตามประเพณีดั้งเดิมได้ เราจึงมีการจัดเครื่องสักการะเป็นกับข้าวพื้นเมือง 9 อย่างตรงตามเอกสาร ไม่ใช่การถวายหัวหมูแบบธรรมเนียมเซ่นไหว้ของคนจีนเหมือนก่อน

หลายคนอาจสงสัยว่าจะอะไรกันหนักหนากับเครื่องเซ่นไหว้ ก็ต้องบอกว่าในเมื่อเราจะทำตามประเพณีแล้ว เราก็ควรเข้าใจความหมายในทุกบริบทของประเพณี ทำไมคนโบราณถึงเลือกใช้กับข้าว 9 อย่างนี้ ทำไมต้องถวายขันโตกแยกถาดเหล้า ถาดล้างมือ หรืออื่นๆ ไม่ใช่แค่ว่าพอมีพิธีกรรม เราก็แค่จัดไปตามพิธีกรรม ถ้าเป็นแบบนั้นเมืองไหนนำไปจัดก็ได้

ถึงป้าจะพูดแบบนี้ ก็ไม่ได้หมายความว่าศิลปวัฒนธรรมล้านนาจะต้องถูกแช่แข็งไปตามตำราเสมอนะ ป้าเชื่อว่าทุกอย่างต้องมีวิวัฒน์ที่สอดคล้องกับยุคสมัย แต่ก็ควรอยู่ภายใต้ความเข้าใจในรากเหง้า อย่างปีนี้เรายังนำเสนอองค์ความรู้เรื่องการตานต้นจ้อ ต้นจ้อคือตุงสำหรับสักการะชนิดหนึ่ง แต่มีขนาดเล็กลง เรานำต้นจ้อมาสักการะองค์สามกษัตริย์ โดยมีการประยุกต์ดีไซน์ให้ต่างออกไปจากเดิมบ้าง แต่ยังคงความหมายดั้งเดิมของต้นจ้ออยู่

อีกเรื่องที่สำคัญคือในทุกๆ พิธีกรรม ผู้คนที่เป็นหัวใจสำคัญของการจัดงาน ควรจะเป็นชาวบ้าน ชาวชุมชน ผู้เป็นเจ้าของวัฒนธรรมในพื้นที่ด้วย เพราะมันไม่ใช่แค่เรื่องความเชื่อ แต่ประเพณีล้านนายังเกี่ยวโยงกับเศรษฐกิจฐานรากของชุมชน ในบางพิธีกรรมที่คนภายนอกมองว่าสวยจัง แต่ฟันเฟืองสำคัญเบื้องหลัง คือฝีมือของคนทำตุง คนทำเครื่องดำหัว สล่าหัตถกรรมอื่นๆ เหล่านี้คือชาวบ้านธรรมดาที่ทำมาหากินอยู่ในเชียงใหม่ ตราบใดที่วิถีชีวิตคนเมืองและการท่องเที่ยวเชียงใหม่ยังผูกโยงอยู่กับศิลปวัฒนธรรม คนเหล่านี้ก็จะสามารถเลี้ยงชีพอยู่ได้อย่างภาคภูมิ

หรืออย่างการเผยแพร่ความรู้เรื่องเครื่องบวงสรวงที่เป็นอาหารพื้นเมือง อย่างลาบ หรือไก่คู่ตามจารีตดั้งเดิม ก็ยังช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเมืองได้อีก เราสามารถบอกได้ว่าเมนูที่คุณมากินที่เชียงใหม่เมนูนี้ อยู่ในเครื่องสักการะอารักษ์เมืองของเราเชียวนะ ขึ้นแท่นแบบเดียวกับภัตตาคารชื่อดังในมิชลินไกด์เลย

ปีนี้เป็นปีที่ 11 แล้วที่ป้าร่วมกับเพื่อนๆ จากหลายชุมชนในเขตเมืองเชียงใหม่ ขับเคลื่อนเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ จากจุดเริ่มต้นที่ป้าอยากมีส่วนในการแก้ปัญหาต่างๆ ของเมืองด้วยการใช้วัฒนธรรมเป็นตัวนำ ป้าภูมิใจที่คนตัวเล็กๆ อย่างพวกเราสามารถผลักดันหลายๆ เรื่องให้ประสบความสำเร็จ อย่างการรณรงค์เรื่องผางประทีปแทนการปล่อยโคมแก้ปัญหาสิ่งแวดล้อม การผลักดันให้คนในชุมชนมีส่วนในการจัดประเพณีหรือพิธีกรรมของเมืองเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจฐานราก แทนที่จะเป็นการให้รัฐจ้างออร์แกไนซ์จากที่อื่นมาทำงานเต็มรูปแบบเหมือนเมื่อก่อน

หรือที่ภูมิใจที่สุดคือการทำเวิร์คช็อปช่างฟ้อนที่เราสามารถสร้างเครือข่ายคนรุ่นใหม่จากสถาบันศึกษาต่างๆ กว่า 20 แห่งทั่วเมือง โดยทุกวันนี้เรามีช่างฟ้อนรุ่นใหม่มากถึง 22 คณะ หรืออย่างงานปีใหม่เมืองปีล่าสุดที่เทศบาลอยากให้มีช่างฟ้อนมาร่วมฟ้อนรำเป็นสิริมงคลจำนวนเท่าปีเกิดของเมืองเชียงใหม่คือ 726 คน เราก็ได้เหล่าคนรุ่นใหม่ที่เคยร่วมกิจกรรมกับเรา มาร่วมฟ้อนครบจำนวนโดยใช้เวลาในการรวบรวมไม่นาน

การได้เห็นเด็กสมัยใหม่หลายคนที่ชอบฟังเพลงเค-ป๊อบ หรือสนใจในวัฒนธรรมตะวันตก แต่ยังสามารถฟ้อนร่วมกับคนเฒ่าคนแก่ รุ่นแม่ รุ่นยายได้ เป็นเรื่องน่าปลื้มใจมากทีเดียว และป้าคิดว่าสิ่งนี้คือส่วนหนึ่งของดอกผลตลอด 11 ปีที่เครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่ได้ดำเนินการมา”

///

เสาวคนธ์ ศรีบุญเรือง

ผู้ประสานงานเครือข่ายชุมชนเมืองรักษ์เชียงใหม่

#WeCitizensTh #Learning #ChiangMai

กองบรรณาธิการ

Recent Posts

[THE RESEARCHER]<br />ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์<br />หัวหน้าโครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด เทศบาลเมืองลำพูน<br />นักวิจัยจากสถาบันวิจัยพหุศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่

พลังคน พลังโคมลำพูน: เมืองเล็ก ๆ ที่เปี่ยมไปด้วยพลังสร้างสรรค์ แม้ ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์ เป็นคนเชียงใหม่ เธอก็หาใช่เป็นคนอื่นคนไกลสำหรับชาวลำพูนเพราะก่อนจะเข้ามาขับเคลื่อนงานวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาดกับเทศบาลเมืองลำพูน เธอได้ทำวิจัยเกี่ยวกับเมืองแห่งนี้มาหลายครั้ง โดยเฉพาะโครงการขับเคลื่อนเยาวชนเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเป็นพลเมืองของเมืองแห่งการเรียนรู้ของ UNESCO ในปี 2566-2567 - นั่นล่ะ…

19 hours ago

[THE CITIZENS]<br />ปริยาพร วีระศิริ<br />เจ้าของแบรนด์ผ้าไหม “อภิรมย์ลำพูน”

“เป็นสิ่งวิเศษที่สุด ที่ผ้าไหมของจังหวัดลำพูนได้ปรากฏต่อสายตาผู้คนทั้งในและต่างประเทศ ทั้งเมื่อครั้งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ทรงให้การส่งเสริม และทรงฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญต่าง ๆ และกระทั่งในปัจจุบัน สมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีในรัชกาลที่ 10 ก็ทรงส่งเสริมผ้าไหมไทย และฉลองพระองค์ด้วยผ้าไหมยกดอกลำพูนในพระราชพิธีสำคัญเช่นกัน ดิฉันเป็นคนลำพูน มีความภูมิใจในงานหัตถศิลป์การทอผ้าไหมยกดอกนี้มาก ๆ   และตั้งใจจะรักษามรดกทางวัฒนธรรม   ทำหน้าที่ส่งต่อถึงคนรุ่นต่อไป…

5 days ago

[THE CITIZENS]<br />ไชยยง รัตนอังกูร<br />ผู้ก่อตั้ง ลำพูน ซิตี้ แลป

“ความที่โตมาในลำพูน เราตระหนักดีว่าเมืองเรามีต้นทุนทางวัฒนธรรมที่สูงมาก ทั้งยังมีบรรยากาศที่น่าอยู่ อย่างไรก็ดี อาจเพราะเป็นเมืองขนาดเล็ก ลำพูนมักถูกมองข้ามจากแผนการพัฒนาของประเทศ เป็นเหมือนเมืองที่มีศักยภาพ แต่ยังไม่ถูกปลุกให้ตื่นความที่เราเคยทำงานที่ศูนย์สร้างสรรค์งานออกแบบ (ปัจจุบันคือสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจสร้างสรรค์ (องค์การมหาชน) หรือ CEA - ผู้เรียบเรียง) ได้เห็นตัวอย่างความสำเร็จของกระบวนการพัฒนาย่านด้วยกรอบพื้นที่สร้างสรรค์ในหลายพื้นที่…

7 days ago

[THE CITIZENS]<br />ธีรธรรม เตชฤทธ์<br />ประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน

“ผมเป็นคนลำพูน และชอบทำกิจกรรมนอกห้องเรียนมาตั้งแต่เด็ก ปัจจุบันเป็นประธานสภาเด็กและเยาวชนจังหวัดลำพูน ควบคู่ไปกับกำลังศึกษาคณะรัฐศาสตร์ ชั้นปีที่ 4 มหาวิทยาลัยเชียงใหม่จากประสบการณ์การทำงานในสภาฯ ทำให้ผมเห็นว่า เยาวชนลำพูนมีศักยภาพที่หลากหลาย แต่สิ่งที่ขาดไปคือเวทีที่เปิดโอกาสให้พวกเขาได้แสดงความสามารถและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง นอกเหนือจากการสนับสนุนจากโรงเรียนหรือโครงการของภาคเอกชน ปี 2567 พี่อร (ดร.สุดารัตน์ อุทธารัตน์…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />ชนัญชิดา บุณฑริกบุตร<br />ผู้ดูแลพิพิธภัณฑ์ชุมชนเมืองลำพูน

“อาคารหลังนี้แต่ก่อนเป็นที่ประทับของเจ้าราชสัมพันธวงษ์ลำพูน (พุทธวงษ์ ณ เชียงใหม่) น้องเขยของเจ้าจักรคำขจรศักดิ์ เจ้าหลวงองค์สุดท้ายของลำพูน อาคารถูกสร้างขึ้นเมื่อปี 2455 หลังจากนั้นก็ถูกขายให้พ่อค้าชาวจีนไปทำเป็นโรงเรียนหวุ่นเจิ้ง สอนภาษาจีนและคณิตศาสตร์ โรงเรียนนี้เปิดได้ไม่นานก็ต้องปิด เพราะสมัยนั้นรัฐบาลเพ่งเล็งว่าอะไรที่เป็นของจีนจะเกี่ยวข้องกับลัทธิคอมมิวนิสต์ แต่หนูก็ไม่รู้หรอกว่าโรงเรียนนี้เกี่ยวข้องหรือเปล่า (ยิ้ม)  จากนั้นอาคารก็ถูกเปลี่ยนมาเป็นโรงเรียนมงคลวิทยาในปี…

1 week ago

[THE CITIZENS]<br />นงเยาว์ ชัยพรหม<br />คนทำโคมจากชุมชนชัยมงคล

“เราโตมากับวัฒนธรรมของคนลำพูน ชอบไปเดินงานปอย ร่วมงานบุญ ก่อนหน้านี้ก็เคยทำงานรับจ้างทั่วไป จนเทศบาลฯ มาส่งเสริมเรื่องการทำโคม โดยมีสล่าจากชุมชนศรีบุญเรืองมาสอน เราก็ไปเรียนกับเขา ตอนนี้อาชีพหลักคือการทำโคม ทำมาได้ 2 ปีแล้ว  สำหรับเรา โคมคืองานศิลปะ เป็นสัญลักษณ์และมรดกที่ยึดโยงกับวัฒนธรรมของคนบ้านเรา ตอนแรกเราไม่มีความคิดเลยว่ามันจะกลายมาเป็นอาชีพได้…

1 week ago