[ THE CITIZNES ] เมืองพนัสนิคม
ภูวิช บุญนาคกัลยกร
เจ้าของ I-Destiny Gallery Resort และผู้ร่วมก่อตั้งงานพนัสบันดาลใจ

Start
12 views
13 mins read

“หลังจากทำงานเป็นโปรดิวเซอร์รายการโทรทัศน์ที่กรุงเทพฯ ได้สิบกว่าปี มันก็ถึงจุดจุดหนึ่งที่ผมรู้สึกถึงความไม่ยั่งยืน จริงอยู่ รายการที่ผมทำค่อนข้างประสบความสำเร็จ แต่งานในวงการบันเทิงเนี่ยมันมีวาระของมัน ประกอบกับตอนนั้นแม่ก็เริ่มมีอายุมากขึ้นแล้ว แต่แกก็ยังคงเปิดร้าน ไม่ยอมหยุดทำงานสักที ผมจึงคิดว่าต้องทำอะไรสักอย่างให้เขารู้สึกวางใจที่เห็นว่าเรามีความมั่นคง ความคิดเรื่องการทำธุรกิจที่พักก็เริ่มขึ้น

แต่ก่อน ผมไม่เคยมองว่าพนัสนิคมจะเป็นเมืองท่องเที่ยวเลย แต่มองอีกมุม  พนัสนิคมก็ไม่เคยมีที่พักที่สามารถรับรองแขกผู้ใหญ่สักเท่าไหร่ ถ้าใครมาแต่งงานที่พนัสนิคม แขกงานแต่งเขาอาจต้องไปนอนชลบุรีแล้วขับรถมา จากเดิมที่คิดว่าเราจะปลูกบ้านสักหลังไว้อยู่เองตอนกลับมาเยี่ยมแม่ จึงแบ่งพื้นที่ทำเป็นที่พักแบบบูติกโฮเทลไปด้วย

นั่นล่ะ พอคิดจะทำโรงแรมจริงจัง คำถามก็คือแล้วถ้าแขกที่มาพักถามเราว่าพนัสนิคมมีที่เที่ยวอะไร หรือมีอะไรให้ดูบ้าง แล้วเราจะตอบเขายังไง ผมก็เลยเริ่มขี่จักรยานออกจากที่พักไปตามย่านต่าง ๆ สะพายกล้องไปตัวนึง แล้วไล่ถ่ายรูปเก็บไว้ ช่วงนั้นผมยังทำงานที่กรุงเทพฯ ก็อาศัยวันหยุดกลับมานอนบ้าน และไล่ถ่ายรูปมุมสวย ๆ เก็บไว้หมด ซึ่งผมพบว่าบ้านเกิดตัวเองเนี่ย มันมีย่าน มีตึก มีตลาด มีสะพาน มีสวน มีร้านรวงเก่าแก่ที่สวยงามไม่น้อยเลยนะ

จากนั้นก็คัดรูปที่ได้มาพรินต์ใส่กรอบ ทำเป็นแกลเลอรีภาพถ่ายที่บ้าน ชื่อ I-Destiny Gallery Resort จึงมีที่มาเช่นนี้ ผมอยากให้มันเป็นที่พักที่เป็นแกลเลอรีภาพถ่ายของดีของเมืองพนัสนิคมไปพร้อมกัน และก็ตั้งใจว่า ถ้าแขกที่มาพักกับเรา คุณไม่ต้องเอาแต่ถ่ายรูปอยู่โรงแรมหรอก ออกไปเดินเล่นรอบเมือง คุณจะเจอของดีที่ซ่อนอยู่อีกเพียบ  

และกลายเป็นว่าเพจเฟซบุ๊กที่ผมตั้งใจเอาไว้ขายที่พัก ทุกวันนี้มันกลายเป็นเพจลงรูปเมืองหรือรูปเทศกาลในพนัสนิคมที่ผมถ่ายพร้อมเขียนบันทึกถึงสถานที่ต่าง ๆ ไปเสียอย่างนั้น แล้วก็ดันมีคนติดตามเยอะมากเลยนะ จากตั้งใจทำโรงแรม พอเมืองมีงานอะไร เขาก็ชวนผมไปถ่ายรูป มีกระทั่งคนพนัสฯ มาจ้างให้ถ่ายรูปให้ด้วย แต่ผมไม่รับนะ (หัวเราะ) ผมมองว่าเป็นงานอดิเรกของผมที่ได้บอกเล่าเรื่องราวของเมืองให้ผู้คนได้รับรู้มากกว่า โดยหลังจากทำโรงแรมได้ 2 ปี ผมก็ตัดสินใจย้ายกลับมาบ้านเกิดอย่างถาวร

พอผมเปิดโรงแรมนี้ได้ครบ 5 ปี สิ่งที่ผมได้เรียนรู้จากเมืองนี้ ก็ทำให้ผมมั่นใจว่าเมืองมีของดีที่พร้อมจะนำไปต่อยอดสร้างโอกาสใหม่ ๆ เลยเริ่มจัด ‘งานพนัสบันดาลใจ’ เป็นโชว์เคสเล็ก ๆ ที่ผมเปลี่ยนลานจอดรถของโรงแรม ทำเป็นตลาด Art & Craft ของคนพนัสฯ ชวนนักสร้างสรรค์นำงานจักสานที่คนบ้านเราทำอยู่แล้ว มาดีไซน์ใหม่ให้ร่วมสมัย ซึ่งก็ได้รับผลตอบรับดีเลย จนสุดท้ายก็เลยมีอีกธุรกิจผุดขึ้นมาคือ I-Destiny Craft เป็นงานคราฟต์ร่วมสมัยของคนพนัสฯ แล้วหลังจากนั้นมันก็มีโพรเจกต์อื่น ๆ ผุดมาอีกเพียบ ทั้งการเล่าเรื่องเมือง การส่งเสริมงานหัตถกรรม ไปจนถึงอิเวนต์เกี่ยวกับ Food & Beverage

I-Destiny Gallery Resort กำลังจะเข้าสู่ปีที่ 10 แล้วครับ ตอนแรกที่เริ่มธุรกิจนี้ ผมไม่มีความคิดเลยว่าเราจะเข้าถึงโอกาสได้มากขนาดนี้ จริงอยู่ ทุกวันนี้พนัสนิคมยังคงประสบปัญหาที่ว่าเมืองยังไม่มีพื้นที่ให้คนรุ่นใหม่ได้เติบโต ซึ่งมันเกิดขึ้นในแทบจะทุกเมืองเล็ก ๆ ทั่วโลก แต่อย่างน้อยที่สุด สิ่งที่ผมทำมันอาจจะไปสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่พอเห็นโอกาส เราอาจเปลี่ยนเมืองทั้งเมืองไม่ได้ แต่เราสามารถทำในพื้นที่เล็ก ๆ ของเราได้ 

และที่สำคัญ เรื่องของเมืองเป็นเรื่องของทุกคน การที่ผู้ใหญ่และคนในเมืองมองเห็นสิ่งที่เราทำอยู่ และเข้ามาช่วยสนับสนุน ผมว่านี่คือกำลังใจและแรงผลักดันที่ดีมาก ๆ ซึ่งต้องขอบคุณชาวพนัสทุกคน และ บพท. ที่มาช่วยส่งเสริมและต่อยอด เพื่อให้พนัสนิคมมีความยั่งยืน และสามารถเป็นต้นแบบให้ชุมชนหรือเมืองอื่น ๆ ได้  

และจากที่ไม่ได้อินอะไรกับบ้านเกิดตัวเอง พอได้เรียนรู้มากเข้า มันกลับทำให้ผมรู้สึกภูมิใจที่เป็นคนพนัสฯ และมีส่วนทำให้ใครหลายคนมองเห็นมุมใหม่ ๆ ของพนัสนิคมอย่างทุกวันนี้”

___

ติดตาม I-Destiny Gallery Resort ได้ที่ https://www.facebook.com/iDestinyGalleryResort


#idestinygalleryresort #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #บพท #pmua #wecitizens