[The Mayor] วันชัย จงสุทธานามณี
นายกเทศมนตรีนครเชียงราย

Start
3 views
32 mins read

พลวัตการเรียนรู้ สู่เมืองเชียงรายที่น่าอยู่

“ถามว่าเชียงรายน่าอยู่อย่างไร คำตอบมีเยอะมากครับ
แต่สำหรับผม เชียงรายที่น่าอยู่ คือเมืองที่เปิดโอกาสให้ทุกคน
ได้เรียนรู้ เติบโต และใช้ศักยภาพของตัวเองสร้างชีวิตที่ดีขึ้น”

ในห้องประชุมบนชั้น 2 ของสำนักงานเทศบาลนครเชียงราย นอกจากจะเห็นโล่และเหรียญรางวัลด้านการบริหารและพัฒนาเมืองที่เทศบาลฯ แห่งนี้ได้รับมากมาย เรายังเห็นแผนภาพกรอบวิสัยทัศน์การพัฒนาเมือง พร้อมภาพถ่ายการปฏิบัติภารกิจที่หลากหลายเต็มสองข้างของผนัง กรอบวิสัยทัศน์เหล่านั้นมีชื่อระบุอย่างชัดเจน ดังนี้…

เมืองน่าอยู่ เมืองสิ่งแวดล้อมยั่งยืน เมืองสุขภาพดี เมืองอาหารปลอดภัย เมืองศิลปะ เมืองสร้างสรรค์ เมืองอารยธรรมล้านนา เมืองอัจฉริยะ และเมืองแห่งการเรียนรู้ 

มองเผิน ๆ คุณอาจตั้งข้อสงสัยว่าเมืองหนึ่งเมืองจะเป็นทุกอย่างให้ประชาชนมากขนาดนี้ได้อย่างไร? กระนั้น เมื่อเราได้สนทนากับ วันชัย จงสุทธานามณี นายกเทศมนตรีนครเชียงราย ผู้ที่อยู่เบื้องหลังการประสานความร่วมมือกับภาคส่วนต่าง ๆ ไปจนถึงองค์กรระหว่างประเทศ เพื่อหาวิธีพัฒนาเมืองของเขาไปพร้อมกับยกระดับศักยภาพของผู้คน เรากลับพบว่า ข้อความเหล่านี้อาจไม่ใช่แค่คำโฆษณา

“ไม่ว่าเราจะตั้งเป้าให้เมืองของเราพัฒนาไปสู่มาตรฐานแบบใดก็ตาม จุดเริ่มต้นอย่างแรกที่เราให้ความสำคัญคือการศึกษา และการสร้างนิเวศแห่งการเรียนรู้” นายกเทศมนตรีผู้พาเชียงรายเข้าเป็นสมาชิกเครือข่ายเมืองแห่งการเรียนรู้ของยูเนสโก เมืองแรกของประเทศไทย กล่าว

“ซึ่งใช่ครับ โครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ที่เราทำร่วมกับ บพท. เราก็เริ่มต้นด้วยหมุดหมายนี้” 

การสร้างนิเวศแห่งเมืองแห่งการเรียนรู้ที่จะทำให้เมืองเชียงรายเป็น “เมืองน่าอยู่… นครแห่งความสุข” ตามคำขวัญของเทศบาลฯ แห่งนี้ได้อย่างไร WeCitizens สนทนากับนายกฯ วันชัย ไขข้อสงสัยนี้ 

เชียงรายในช่วงขวบปีแรก ๆ ที่นายกฯ เข้ามาดำรงตำแหน่ง กับปัจจุบัน มีความแตกต่างกันมากน้อยแค่ไหนครับ

หากย้อนกลับไปเมื่อประมาณปี 2530 เชียงรายยังอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน จากเมืองที่เคยมีพื้นที่สีชมพู และได้รับผลกระทบทางอ้อมจากปัญหายาเสพติดจากสามเหลี่ยมทองคำ สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ท่านทรงมีความเมตตา ริเริ่มโครงการพัฒนาดอยตุงในช่วงปลายทศวรรษ 2520 เริ่มมีการรณรงค์ปลูกพืชทดแทนการปลูกฝิ่น และผมยังจำได้ดีว่าเชียงรายเพิ่งมีสถานีโทรทัศน์ ที่ช่วยในการสื่อสารความเป็นเมืองของเราได้มาก 

อย่างไรก็ตาม ถ้าเปรียบเทียบกับเชียงใหม่ที่อยู่ติดกัน ทั้งสองเมืองอาจมีขนาดพอ ๆ กัน และมีทรัพยากรธรรมชาติและการท่องเที่ยวไม่ยิ่งหย่อนไปกว่ากัน แต่เชียงรายกลับยังขาดโอกาสกว่ามาก และยังคงเผชิญกับปัญหาทั่วไปแบบเมืองในชนบท เช่น น้ำท่วม ถนนหนทาง และการจัดการขยะ จุดนี้เองที่ผมพบว่าผมสามารถนำความรู้ความสามารถมาช่วยในการพัฒนาเมืองนี้ได้ จึงเป็นที่มาที่ผมเข้ามาอยู่ตรงนี้ 

ซึ่งที่ผ่านมา เทศบาลเราพยายามพัฒนาในหลายประเด็นมาก ๆ แต่สิ่งที่ให้ความสำคัญที่สุดคือการพัฒนาการศึกษาให้แก่ผู้คนทุกช่วงวัย นี่เป็นเป้าหมายหลักในการออกแบบนโยบายการพัฒนาเมืองไม่ว่าจะในมิติใดก็ตาม 


น่าสนใจที่นายกฯ เปรียบเทียบกับเมืองเชียงใหม่ เพราะมองในกรอบที่เมืองสองเมืองมีอัตลักษณ์ที่คล้ายกัน ทั้งต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมล้านนา การเป็นเมืองศูนย์กลางด้านการศึกษา และเมืองท่องเที่ยว 

ผมมองเชียงรายกับเชียงใหม่ในลักษณะเดียวกับที่เกียวโตมีต่อโอซากา ราว 20 ปีที่แล้ว ผมมีโอกาสไปศึกษาดูงานที่เมืองต่าง ๆ ในญี่ปุ่น รวมถึงสองเมืองนี้ โอซากามีขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่กว่าเกียวโต แต่เกียวโตก็มีเอกลักษณ์ที่แตกต่างอย่างน่าสนใจ ผมสนใจแผนพัฒนาเมือง 10 ปี ของนายกเทศมนตรีเกียวโต ซึ่งให้ความสำคัญกับการปรับปรุงพื้นที่เมืองโดยเน้นโซนนิง ที่ผสมผสานความเป็นอดีตเข้ากับทิศทางการพัฒนาสู่อนาคต

ในตอนนั้น แนวคิดการพัฒนาเมืองโดยรักษาเอกลักษณ์ดั้งเดิมไว้ อาจดูเหมือนเป็นการย้อนกลับไปหาอดีต แต่เมื่อเวลาผ่านไป สิ่งที่เราเห็นก็คือความสำเร็จของเกียวโตในฐานะเมืองสร้างสรรค์ที่เติบโตอย่างยั่งยืน นี่จึงเป็นแรงบันดาลใจสำคัญในการออกแบบอนาคตของเชียงรายให้สอดรับไปกับบริบทของเราเอง

มีแผนชัดเจนว่าเชียงรายจะเป็นเมืองแห่งการเรียนรู้

เพราะการเรียนรู้คือต้นทุนของทุกสิ่ง อย่างที่คุณเห็นว่าเรามีการกำหนดทิศทางการพัฒนาไว้เยอะมาก แต่หัวใจสำคัญที่สุดที่จะไปยังเป้าหมายนั้น ๆ คุณต้องทำให้ประชาชนในเมืองมีองค์ความรู้ หรือมีสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนาตัวเองให้พร้อมก่อน  

นอกจากญี่ปุ่น ผมยังได้เดินทางไปศึกษาระบบการศึกษาที่สหรัฐอเมริกา ผ่านโครงการความร่วมมือกับคริสตจักรเชียงราย ซึ่งผมยังได้พานักเรียนในโรงเรียนสังกัดเทศบาลของเราเข้าร่วมซัมเมอร์คอร์สกับครอบครัวที่อเมริกาด้วย 

สำหรับเรื่องนี้ จะเห็นได้ว่าเราพยายามยกระดับมาตรฐานของโรงเรียนในสังกัดเทศบาล เพื่อจะสลัดให้หลุดจากภาพจำที่ว่าโรงเรียนเทศบาลเป็นโรงเรียนตัวเลือกอันดับรอง ๆ ของผู้ปกครอง จึงมีหลักสูตรสองภาษา (ไทย-อังกฤษ) มีการจัดตั้งศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีน มีโครงการแลกเปลี่ยนนักเรียนไปต่างประเทศ ไปจนถึงการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านดิจิทัลเชิงลึก และ AI ควบคู่ไปกับการสนับสนุนสวัสดิการให้แก่เด็กนักเรียน

ผมพูดได้อย่างมั่นใจว่าโรงเรียนในสังกัดของเรา มีมาตรฐานไม่เป็นรองโรงเรียนระดับท็อป ๆ ของจังหวัด คุณจะเห็นได้ว่าผู้บริหารในสำนักงานของเราหลายท่านก็ส่งลูกหลานเรียนในโรงเรียนเทศบาล รวมถึงผมที่ส่งลูกชายเรียนที่นี่ด้วย 

(ร.ต.อ. ธนรัช จงสุทธานามณี ลูกชายของวันชัย จบการศึกษาโรงเรียนเทศบาล 2 และโรงเรียนเทศบาล 6 ก่อนไปเรียนต่อปริญญาตรีสาขาเศรษฐศาสตร์ จุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย และปริญญาโท สาขานโยบายด้านการศึกษาสากล มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ปัจจุบันเป็นเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง-ผู้เรียบเรียง)

ที่เล่ามาดูจะเป็นการเรียนรู้ในห้องเรียนอย่างเดียว และกับการศึกษานอกห้องเรียนในกลุ่มประชากรวัยอื่นล่ะครับ

แน่นอนครับ เราพยายามปรับให้พื้นที่ต่าง ๆ ในเมืองส่งเสริมกระบวนการเรียนรู้ให้ครอบคลุมที่สุด อย่างแหล่งเรียนรู้ป่าในเมือง “ดอยสะเก็น : คีรีชัย ยามะ” ที่เราร่วมกับภาคเครือข่ายชุมชน และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศญี่ปุ่น (JICA) ปรับปรุงโรงเรียนร้างและพื้นที่รอบดอยสะเก็นให้เป็นเส้นทางศึกษาธรรมชาติ พร้อมทั้งมีจุดชมวิวตัวเมืองเชียงราย เป็นทั้งสถานที่ทัศนศึกษาและแหล่งท่องเที่ยวแห่งใหม่ไปพร้อมกัน

หรือ “มหาวิทยาลัยวัยที่สาม” ที่เรายกระดับโมเดลโรงเรียนผู้สูงอายุ ให้มีหลักสูตร การวัดผล และการมอบปริญญาบัตรจริงจังแบบมหาวิทยาลัย เปิดสอนหลักสูตรนอกห้องเรียนตามที่ผู้สูงอายุสนใจ ทำให้เป็นพื้นที่ทางสังคมใหม่ของคนวัยเกษียณ ไปพร้อมกับพื้นที่แสดงศักยภาพ ผ่านการเชื่อมร้อยกิจกรรมกับอิเวนต์ต่าง ๆ ของเมือง 

เรายังได้ปรับปรุง “สวนสาธารณะริมน้ำกก” และมีการทำทางเดินริมน้ำยาวตลอดสาย โดยหวังจะเชื่อมทางเดินตลอดความยาว 10 กิโลเมตรให้ได้ เพื่อเป็นที่พักผ่อนหย่อนใจ เสริมเข้าไปกับการจัดกิจกรรมส่งเสริมด้านศิลปวัฒนธรรม เช่นเดียวกับการยกระดับสวนสาธารณะแห่งอื่น ๆ ที่เรามีด้วยกันถึง 12 สวนให้เป็นมากกว่าพื้นที่สีเขียว แต่เป็นพื้นที่ส่งเสริมการเรียนรู้ให้คนในเมืองไปพร้อมกัน 

รวมถึง “ศูนย์จำหน่ายผลิตภัณฑ์ชุมชนและเกษตรปลอดภัย” ที่ไม่เพียงจำหน่ายผลิตภัณฑ์เกษตรปลอดภัยจากชาวบ้านในเทศบาลฯ แต่ยังมีนิทรรศการบอกเล่าถึงความสำคัญของอาหารปลอดภัย และเรากำลังร่วมกับทาง บพท. และอาจารย์จากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง พัฒนาพื้นที่ด้านข้างสวนสาธารณะหาดนครเชียงราย ให้เป็น “ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตร” 


ศูนย์เรียนรู้นวัตกรรมการเกษตร เป็นหนึ่งในผลลัพธ์ที่โครงการวิจัยเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด ที่เทศบาลฯ ร่วมกับ บพท. จัดทำขึ้น จึงอยากรู้ว่าการส่งเสริมการเรียนรู้ด้านนวัตกรรมการเกษตรจะส่งผลให้เชียงรายมีความน่าอยู่ รวมถึงการรับมือกับความท้าทายด้านสิ่งแวดล้อมที่เมืองเผชิญอยู่ตอนนี้อย่างไร

เวลาพูดถึงเชียงราย ทุกคนจะนึกถึงการท่องเที่ยว ศิลปวัฒนธรรม หรือธรรมชาติ ใช่ไหมครับ แต่จริง ๆ แล้ว หนึ่งในปัจจัยด้านเศรษฐกิจของเมืองเรายังมีการทำเกษตรกรรมอยู่ ที่ผ่านมา เทศบาลฯ ได้ส่งเสริมให้เกษตรกรในเขตเทศบาลฯ ปลูกพืชผักปลอดภัย มาส่งขายให้เรา เพื่อนำไปเป็นวัตถุดิบประกอบอาหารให้เด็ก ๆ ในโรงเรียน ขณะเดียวกัน เราก็มีพื้นที่จัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์เหล่านี้ รวมถึงเชื่อมช่องทางการจัดจำหน่ายให้พี่น้องเกษตรกรเหล่านี้ด้วย 

พอเราลงเสาหลักด้านอาหารปลอดภัยได้แล้ว ก็คิดว่าเราจะทำยังไงให้แนวคิดนี้ขยายออกไป รวมถึงทำอย่างไรให้เราสามารถนำนวัตกรรมใหม่ ๆ มาสร้างมูลค่าเพิ่มทั้งในเชิงปริมาณและคุณภาพให้แก่ผลิตภัณฑ์ได้อีก จึงนำมาสู่ความร่วมมือกับ บพท. และนักวิจัยจากมหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง จนเกิดเป็นแผนการจัดตั้งศูนย์การเรียนรู้แห่งนี้ขึ้น


สำหรับคำถามของคุณ ผมมองว่าการยกระดับนวัตกรรมการเกษตรนี่สำคัญเลย เพราะมันไม่ใช่แค่การหาเทคโนโลยีมาช่วยส่งเสริมผลผลิตที่ส่งผลโดยตรงต่อเศรษฐกิจ แต่ยังรวมถึงการสร้างจิตสำนึกด้านเกษตรปลอดภัยต่อคนในเมือง นี่อาจไม่ใช่แนวทางที่ทำให้เราสามารถแก้ปัญหาด้านสิ่งแวดล้อมได้ในทันที แต่ในระยะยาว เมื่อผู้คนมีจิตสำนึกด้านนี้ รวมถึงการเข้าถึงอาหารปลอดภัย ทุกคนก็จะร่วมกันหาแนวทางในการทำให้สิ่งแวดล้อมของเมืองดีขึ้น การที่คนในเมืองมีสำนึกร่วมแบบนี้นี่แหละ ที่เป็นจุดเริ่มต้นของความยั่งยืน อันนำไปสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่แท้จริง


สำหรับนายกฯ เชียงรายมีความน่าอยู่อย่างไร

เชียงรายเป็นเมืองที่มีต้นทุนด้านความน่าอยู่อยู่แล้ว ทั้งผู้คนที่มีอัธยาศัยไมตรี เมืองมีความสงบสุข อยู่ใกล้ธรรมชาติ ไหนจะต้นทุนด้านวัฒนธรรม และความเป็นเมืองศิลปะอีก ให้พูดว่าเชียงรายน่าอยู่อย่างไร คำตอบมีเยอะมากครับ 

แต่เชียงรายที่น่าอยู่สำหรับผม คือเมืองที่เปิดโอกาสให้ทุกคนได้เรียนรู้ เติบโต และใช้ศักยภาพของตัวเองสร้างชีวิตที่ดีขึ้น ถ้าเราส่งเสริมนิเวศแห่งการเรียนรู้อย่างมีประสิทธิภาพ ต้นทุนอันล้ำค่าของเชียงรายจะถูกต่อยอดอย่างเต็มที่ และกลายเป็นพลังในการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในเมืองต่อไป

#เทศบาลนครเชียงราย #มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง #หน่วยบริหารและจัดการทุนด้านการพัฒนาพื้นที่ #บพท #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #CIAP #wecitzens