[The Citizens]
กลุ่มลำลอง
สรวิชญ์ หงษ์พาเวียน, ญาณินท์ จอมวงศ์ และพุทธรักษ์ สุทธดุก

Start
12 views
17 mins read

บทสนทนาว่าด้วยเสียงของคนลำปาง ถึงสังคม เศรษฐกิจ และความหวังกับอนาคต จากกลุ่ม ‘ลำลอง’

คงไม่ต้องแนะนำกันแล้วว่ากลุ่มลำลองคือใคร เพราะกิจกรรมสร้างสรรค์ งานสื่อสารที่ร่วมสมัย ไอเดียเคลื่อนการพัฒนาเมืองลำปางให้ไปข้างหน้า และความแตกต่าง ถูกคิด ถูกทำ และถูกทำให้เห็นจริงว่า ถ้าอยากให้เมืองมีอะไร เป็นแบบไหน ก็แค่ทำมันขึ้นมา และไม่ต้องรอ

ต่อไปนี้คือมุมมองจากสมาชิกหลักของกลุ่มลำลอง ได้แก่ สรวิชญ์ หงษ์พาเวียน, ญาณินท์ จอมวงศ์ และพุทธรักษ์ สุทธดุก

โจทย์ของลำลองจึงไม่ใช่การบอกว่าเมืองควรเป็นอะไร แต่คือการทำให้คนในเมืองกล้าพูดว่าตัวเองอยากได้เมืองแบบไหน

ก้าว สรวิชญ์

“เรื่องของเมืองลำปาง สิ่งหนึ่งที่เราคิดกันเยอะมากในช่วงหลัง ๆ คือ “ใครควรเป็นคนเล่าเรื่องเมือง” เพราะที่ผ่านมา เมืองมักถูกเล่าโดยคนกลุ่มเดิม ๆ ในห้องประชุมเดิม ๆ วนเวียนกันอยู่แบบนี้มานาน เราเลยตั้งใจว่า ถ้าเป็นไปได้ ไม่ว่างานไหน ๆ เราอยากให้คนชุมชน คนลำปาง เป็นผู้เล่าเรื่องเมืองของเขาเอง

อย่างงาน บพท. ที่ผ่านมา เราเข้าไปช่วยทาง มช. เราก็เชิญผู้นำชุมชนกว่า 80 ชุมชนในเขตเมือง มานั่งคุยกันบนเวทีเดียวกัน

คนกลุ่มนี้คือหน่วยที่เล็กที่สุดของ Active Citizen เป็นคนที่ต้องเจอปัญหาจริงในชีวิตประจำวัน และต้องติดต่อประสานงานกับเทศบาล หน่วยงานรัฐ หรือโครงการจากส่วนกลางอยู่ตลอดเวลา ถ้าเสียงของเขาไม่ถูกนับ เมืองก็จะถูกออกแบบโดยคนที่ไม่ต้องอยู่กับผลลัพธ์ใด ๆ ซึ่งพวกเรามองว่ามันประหลาด เพราะคนที่ต้องรับมือกับผลกระทบคือคนในพื้นที่ แต่กลับไม่ใช่คนออกแบบแผน

โจทย์ของลำลองจึงไม่ใช่การบอกว่าเมืองควรเป็นอะไร แต่คือการทำให้คนในเมืองกล้าพูดว่าตัวเองอยากได้เมืองแบบไหน

ผมมองว่าสิ่งที่เราควรช่วยกันตั้งคำถามคือ วันนี้ลำปางอยู่ตรงไหนในโครงสร้างเศรษฐกิจระดับประเทศ และถ้ามองไปข้างหน้า เมืองมีทางเลือกอะไรบ้าง ไม่ใช่ในเชิงอุดมคติชวนฝัน แต่ในเชิงความเป็นไปได้ และในชีวิตจริง ที่ลงมือทำจริง จับต้องได้

ตั้งแต่ภาพใหญ่อย่างแนวคิดระเบียงเศรษฐกิจภาคเหนือ ไปจนถึงจุดเปลี่ยนสำคัญของจังหวัด อย่างการเฟดดาวน์ของโรงไฟฟ้าแม่เมาะ เม็ดเงินกว่าสองหมื่นล้านบาทที่เคยหมุนเวียนในระบบกำลังจะหายไป

คำถามคือ เมืองจะรับมือกับการเปลี่ยนผ่านนี้อย่างไร แล้วเราทำอะไรได้บ้าง จะหันไปหาเกษตรทางเลือกก็อาจจะมีคุณค่า และช่วยแก้ปัญหาความยากจนได้ในระดับหนึ่ง แต่เราก็ต้องยอมรับตรง ๆ ว่า มันไม่ใช่อุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จะรองรับแรงงานทั้งเมืองได้

การพูดความจริงแบบนี้อาจไม่สวยงาม แต่จำเป็น เพราะถ้าเราไม่เข้าใจข้อจำกัด เมืองก็จะวนอยู่กับความหวังลม ๆ แล้ง ๆ และสุดท้ายคนก็จะผิดหวังกับคำว่าการพัฒนาเมือง

กิ๊ฟ ญาณินท์

“ก่อนทำลำลอง ส่วนตัวเราไม่ได้คิดเรื่องเมืองควบคู่กับงาน เพราะเรามาจากสายดีไซน์ ทำงานออกแบบตอบโจทย์เป็นชิ้น ๆ แต่ด้วยความที่อยู่ที่นี่ เราก็รู้สึกหลายอย่างกับเมือง

พอได้ลงมือทำจริง กิจกรรมหลาย ๆ อย่างเกี่ยวกับเมือง ถึงได้รู้ว่าเหตุผลที่คนไม่สนใจเรื่องเมือง ไม่ใช่เพราะเขาไม่แคร์ แต่เพราะสิ่งที่ถูกสื่อสารออกมามันเข้าใจยากเกินไป งานวิจัย นโยบาย หรือแผนพัฒนา มักไม่เคยเล่าให้คนธรรมดาฟังว่า มันเกี่ยวกับชีวิตเขายังไง

บทบาทของเราคือการ “ย่อย” เรื่องพวกนี้ ให้เรื่องเมืองจับต้องได้ มันไม่ได้ยาก และย้ำว่านี่คือเรื่องของคุณ มันคือชีวิตคุณ คุณมีสิทธิ์ มีเสียง และคุณสามารถตั้งคำถามได้ ไม่ใช่แค่รับฟัง หรือรอคอยให้หน่วยงาน หรือใครก็ไม่รู้มาตัดสินใจให้อย่างเดียว

Message หลักจึงมุ่งไปที่การทำให้เรื่องเมืองยังคงความจริงจัง เห็นว่ามันซีเรียส แต่ไม่แข็งกระด้าง และหาวิธีการทำให้มันมีลักษณะของการส่งเสริมให้คนได้ลองคิด ลองส่งเสียง ผ่านพื้นที่ทดลอง เป็น sandbox ชวนคนมากล้าเข้ามาลองคิด ลองผิด ลองถูก

เพื่อให้เขาได้เริ่มมีส่วนเข้าไปกำหนดสิ่งต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับชีวิตของเขาโดยตรง นั่นก็คือ เมืองแบบไหนที่เขาอยากเห็น อยากให้เป็น อยากอยู่ และอยากช่วยสร้าง”

ฟาง พุทธรักษ์

“หลายปีที่ผ่านมากิจกรรมที่ลำลองทำ มีเสียงสะท้อนทั้งบวกและลบ มีคนไม่เข้าใจ มีคนตั้งคำถามแรง ๆ แต่ก็มีเด็ก ๆ เอากิจกรรมของเราไปใส่พอร์ต บางคนกลับมาถามว่า เมืองนี้ยังมีอะไรให้ลองทำอีกบ้าง

จริง ๆ สำหรับเรา แค่นี้ก็รู้สึกว่าสิ่งที่ทำมันเริ่มงอกงามแล้ว เพราะตลอดมา สิ่งที่ยากไม่ใช่ผลลัพธ์ แต่คือกระบวนการ คนไม่เข้าใจว่าทำไมต้องคิดเยอะ ทำไมต้องซับซ้อน

แต่สำหรับเรา งานของลำลองคือการทำงานกับ “วิธีคิด” ของคนในเมือง ความสนุก ความคิดสร้างสรรค์ เป็นแค่ตัวล่อ เป้าหมายจริงคือการเปลี่ยนวิธีมองเมือง และชวนคนแถวสอง แถวสาม ให้รู้สึกว่าพื้นที่สาธารณะเป็นของเขา เสียงของเขา และกำลังของเขา มีความหมายเหมือนกัน”

ก้าว สรวิชญ์

“ผมมองว่าเมืองน่าอยู่สำหรับเราไม่ใช่สูตรสำเร็จ แต่คือเมืองที่คนกล้าบอกว่าตัวเองต้องการอะไร และกล้ารับผิดชอบต่อเมืองของตัวเอง เป็นเมืองที่กลับมาแล้วรู้สึกว่า “มีอะไรให้ลอง”

ถ้าลำลองจะเป็นอะไรสักอย่าง เราอยากเป็นเหมือนสนามเด็กเล่น เป็น “ตัวกลาง” เป็นคนรุ่นกลาง ๆ ที่พยายามเอาประเด็นเรื่องเมืองมาเปิดในพื้นที่สาธารณะ ซึ่งความจริงแล้ว เมืองไม่ใช่ของหน่วยงานใดหน่วยงานหนึ่ง แต่มันเป็นของทุกคน

และเราอยากชวนให้คนมาลองคิด ลองทำ และถ้ามันเวิร์ก คนและเมืองก็จะค่อย ๆ เปลี่ยน เส้นทางสู่เมืองที่เราอยากอยู่ก็จะใกล้ขึ้นเรื่อย ๆ และเป็นเป้าหมายที่เราทุกคนช่วยกันเดินทางไปด้วยกัน”

ติดตามผลงานของกลุ่ม ‘ลำลอง’ ได้ที่ https://www.facebook.com/lamlong.lampang

#CIAP #โปรแกรมบ่มเพาะและเร่งรัดกระบวนการเพื่อมุ่งสู่การเป็นเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด #เทศบาลนครลำปาง #mdricmu #สถาบันวิจัยพหุศาสตร์ #มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ #มหาวิทยาลัยมหาสารคาม #pmua #บพท #livablesmartcity #เมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด