[ CITY MOVEMENT พนัสนิคม] เมื่อพนัสนิคมเป็นมากกว่าเมืองน่าอยู่

จักสาน อาหารถิ่น ดินแดนเอ็งกอ ทุนวัฒนธรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจ

“เครื่องจักสาน” “อาหารท้องถิ่น” “เอ็งกอ” และ “ผู้คน” ร่วมสำรวจต้นทุนทางศิลปวัฒนธรรมที่ช่วยเติมเต็มความสมาร์ทให้กับเมืองน่าอยู่ 

เมืองจักสาน กับการเริ่มต้นตั้งถิ่นฐานชาวพนัสฯ

จากเมืองที่สันนิษฐานกันว่าเป็นที่ตั้งของเมืองพระรถเมื่อกว่า 1,000 ปีก่อน พนัสนิคมได้รับการสถาปนาเป็นเมืองชั้นจัตวาเมื่อปี 2371 ในสมัยรัชกาลที่ 3 โดยท้าวทุม (พระอินทอาษา) เป็นผู้นำชาวลาวเข้ามาสวามิภักดิ์ และตั้งเมืองขึ้น โดยชาวลาวที่เข้ามายังได้นำภูมิปัญญาด้านการจักสานไม้ไผ่เข้ามาด้วย และนั่นคือจุดเริ่มต้นของ “เมืองจักสานพนัสนิคม”

ทั้งนี้ จากเดิมที่ชาวพนัสนิคมได้สานไม้ไผ่เป็นเครื่องใช้ในครัวเรือนและเครื่องมือจับสัตว์น้ำส่งต่อจากรุ่นสู่รุ่น ปี 2521 มูลนิธิส่งเสริมศิลปาชีพฯ ในสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิตติ์ ได้เข้ามาสนับสนุนให้เกิดการยกระดับงานหัตถกรรมพื้นบ้านและเปิดสอนทักษะออกแบบลวดลายเฉพาะตัว โดยเฉพาะ “ลายดอกพิกุล” ที่ต่อมาได้ขึ้นทะเบียนเป็นสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ของเมืองพนัสนิคม ในปี 2548 นับจากนั้น เครื่องจักสานของพนัสนิคมก็ถูกวางจำหน่ายไม่เพียงภายในประเทศ หากยังถูกส่งออกไปหลายประเทศทั่วโลกและมีกลุ่มตลาดที่ชัดเจน ไม่ว่าจะเป็น ศูนย์ส่งเสริมฝีมือจักสานด้วยไม้ไผ่ ที่ทำสินค้าระดับพรีเมียม ศูนย์จักสานใหญ่ที่สุดในโลก ที่มีจุดเด่นในการหลอมรวมภูมิปัญญาพื้นบ้านเข้ากับเทศกาลประจำปีของเมือง ต่อยอดไปจนถึงผู้ประกอบการรายย่อยอีกนับไม่ถ้วน

หมี่แดงแกงลาว รสชาติของพหุวัฒนธรรม

การเข้ามาตั้งถิ่นฐานของชาวลาวในพนัสนิคม ไม่เพียงนำมาซึ่งภูมิปัญญาการทำเครื่องจักสาน แต่พวกเขายังนำอาหารการกินแบบคนลาว เข้ามาในเมืองแห่งนี้ด้วย เช่นเดียวกับที่ชาวจีนเข้ามาตั้งรกราก ก็นำเมนูอาหารและขนมจากเมืองจีน เข้ามาเติมรสกลมกล่อมให้กับวิถีคนเมืองเช่นกัน ทั้งก๋วยเตี๋ยวเป็ด ขนมก้นถั่ว หอยทอด ฯลฯ ในขณะที่เมนู “หมี่แดงแกงลาว” หนึ่งในอาหารขึ้นชื่อของเมือง ก็เป็นผลลัพธ์ของการผสมผสานที่คนพนัสนิคมภาคภูมิใจ

หมี่แดงแกงลาว คือเมนูที่ปรุงขึ้นจากเส้นหมี่สีแดงอันเหนียวนุ่ม กับเครื่องแกงลาวที่หอมอร่อยจากเครื่องเทศ สมุนไพร และปลาร้า เป็นเมนูที่ไม่ปรากฏที่มา หากทราบอีกที คนพนัสนิคมก็อิ่มอร่อยกับเมนูที่มีมาหลายชั่วอายุไปแล้ว

เอ็งกอ ศิลปะการแสดงเพาะต้นกล้าเยาวชน
“เอ็งกอ” คือการแสดงพื้นบ้านของชาวไทยเชื้อสายจีนในอำเภอพนัสนิคม ซึ่งแสดงเฉพาะในงานสำคัญ เช่น งานบุญกลางบ้าน ที่จัดประจำทุกปี โดยเทศบาลยังจัด “มหกรรมเอ็งกอ” ซ้อนเข้าไปในงานใหญ่ดังกล่าวด้วย การแสดงนี้มีเอกลักษณ์ที่ผู้แสดงทาหน้าด้วยสีสันสดใส แต่งกายแบบจอมยุทธ์ และจำลองเหตุการณ์ตามตำนานของเหล่า 108 วีรบุรุษแห่งเขาเหลียงซานที่รวมพลังกันต่อสู้ขับไล่ทรราช

การแสดงเอ็งกอใช้ทั้งการเต้นตีไม้ ตีกลอง และโบกธงบนยอดไผ่ โดยผู้แสดงส่วนใหญ่เป็นเด็กผู้ชาย ตามต้นฉบับจากเมืองจีน กระนั้นเมื่อเอ็งกอมาเบ่งบานในวัฒนธรรมของคนพนัสฯ จึงมีการปรับเปลี่ยนองค์ประกอบบางอย่างเพื่อสะท้อนตัวตนของคนที่นี่ ไม่ว่าจะเป็นการใช้สีเขียวและเหลืองที่เป็นสีประจำเมืองในเครื่องแต่งกาย หรือการใช้หมวกสานที่สะท้อนเอกลักษณ์ของเมืองจักสาน เป็นต้น

ปัจจุบันพนัสนิคมมีคณะนักแสดงเอ็งกอที่มีการสืบทอดอย่างจริงจัง รวมถึงยังมีการบรรจุเอ็งกอเข้าไปในหลักสูตรวิชากิจกรรมชุมนุมในโรงเรียนเทศบาลบางแห่ง ซึ่งถือเป็นการเพาะต้นกล้าให้กับคนรุ่นใหม่ในเมืองนี้ เพื่อเป็นกำลังในการขับเคลื่อนเมืองต่อไป


“แต้มต่อทางวัฒนธรรมของพนัสนิคมที่ชัดเจน ได้สะท้อนภาพของความร่วมแรงร่วมใจของคนพนัสฯ ที่เห็นเด่นชัดที่สุดคือ ประเพณี “งานบุญกลางบ้านและเผยแพร่เครื่องจักสานพนัสนิคม” งานประจำปีที่จัดขึ้นทุกวันศุกร์-อาทิตย์ในสัปดาห์แรกของเดือนพฤษภาคม ณ สวนสาธารณะเทศบาลเมืองพนัสนิคม ของดีของเมือง ความน่าสนใจของกิจกรรมนี้ไม่เพียงแค่ฉากหน้าที่นำเสนอความชาญฉลาดในการประยุกต์ประเพณีบุญกลางบ้านของคนไทยภาคกลางในแบบฉบับเฉพาะตัว หากเป็นความร่วมแรงร่วมใจของผู้คนทั้ง 12 ชุมชนย่อยในเขตเทศบาลเมืองพนัสนิคม และชาวอำเภอพนัสนิคมที่เป็นหัวเรี่ยวหัวแรงสร้างสรรค์งานประจำปีนี้ให้เป็นรูปธรรมในทุก ๆ ปี จนเกิดเป็นภาพสะท้อนของเมืองที่ขึ้นชื่อว่าน่าอยู่ที่สุดในประเทศ – เมืองที่ขึ้นชื่อเรื่องสิ่งแวดล้อมดี และความสามัคคีของผู้คนที่ก่อให้เกิดความยั่งยืนและมั่นคง”

Wecitizens Editor

Recent Posts

WeCitizens : เมืองเชียงราย

ชวนอ่าน WeCitizens เมืองเชียงราย : เมืองนวัตกรรมการเกษตร Ebook ได้ที่ https://anyflip.com/jnmvd/iyvl/ Download PDF File : https://drive.google.com/.../1mQO8ZR9GTik02hfUPdS.../view... บอกเล่าเรื่องราวมุมมองเมืองน่าอยู่ที่ชาญฉลาด (Livable…

3 days ago

[City’s Movement]<br />บวรนคร

คนนครวัย 30 ปีขึ้นไปน่าจะคุ้นกับร้านหนังสือ “นาคร-บวรรัตน์” บนถนนราชดำเนิน ย่านท่าวัง ที่นี่คือร้านหนังสืออิสระที่เป็นพื้นที่จัดกิจกรรมอ่าน-เขียน และแสดงผลงานศิลปะ รวมถึงเป็นศูนย์รวมของนักเขียนและศิลปิน ทั้งจากกลุ่มวรรณกรรม “นาคร” เหล่านักเขียนรางวัล และศิลปินแห่งชาติที่แวะเวียนมาอยู่เสมอ จนกลายเป็นแรงขับสำคัญที่ทำให้เมืองนครมีชื่อในฐานะเมืองแห่งนักเขียนและศิลปิน อดีตร้านหนังสือแห่งนี้ตั้งอยู่ภายใน…

5 days ago

[The Citizens]<br />วาที ทรัพย์สิน

สมัยก่อนพ่อเป็นนายหนังตะลุงที่หวงวิชามากจนมีโอกาสเข้าเฝ้าในหลวง ร.9คำตรัสของพระองค์ท่าน เปลี่ยนความคิดพ่อไปอย่างสิ้นเชิง “สมัยก่อน นายหนังหรือผู้แสดงหลักในหนังตะลุง ส่วนใหญ่เขาจะหวงวิชามากนะครับ มันเหมือนศิลปะการแสดงที่ถ่ายทอดกันอย่างจำกัด และนายหนังแต่ละคนก็จะมีศาสตร์เฉพาะตัวในการแสดงเช่นเดียวกับคุณพ่อของผม (สุชาติ ทรัพย์สิน) แกก็เป็นคนหวงวิชามาก ๆ ใครมาขอให้สอนตอกหนังหรือเชิดหุ่นนี่ยาก กระทั่งปี 2527…

5 days ago

[The Citizens]<br />รัชฎาพร นรนวล

เมืองเรามีสวนสาธารณะขนาดใหญ่ที่มีความพร้อม แต่พื้นที่ระดับชุมชนที่ชาวบ้านได้มาจัดกิจกรรมร่วมกัน แบบที่ไม่ต้องใช้พื้นที่ถนนสาธารณะน่ะ ยังไม่มี ถ้ามีจะดีมาก ๆ “ครอบครัวพี่แต่เดิมเป็นชาวนาอยู่นอกเขตเทศบาล กระทั่งพี่ชายและพี่สาวสอบติดโรงเรียนกัลยาณีศรีธรรมราช แม่ก็เลยตัดสินใจย้ายเข้ามาทำงานในเมืองแม่มาปลูกบ้านอยู่แถวถนนพัฒนาการคูขวางราวปี 2521 ก่อนหน้าที่เขาจะตัดถนนเป็น 4 เลน ย่านที่เราอยู่ค่อนข้างเสื่อมโทรม เหมือนขยะใต้พรมของเมือง…

6 days ago

[The Citizens]<br />อัญชลี หนูรักษ์

การจะทำให้เมืองเราเป็นเมืองอัจฉริยะปัจจัยสำคัญที่ต้องมีคือการมีโรงเรียนที่ตอบโจทย์การศึกษาด้านเทคโนโลยี “เวลาพูดถึงโรงเรียนในสังกัดเทศบาล หรือกระทั่งโรงเรียนวัดเนี่ย คนส่วนมากมักนึกถึงการเป็นโรงเรียนขยายโอกาส หรือทางเลือกสุดท้าย ไม่ใช่ทางเลือกหลักของผู้ปกครองส่วนใหญ่นักอย่างไรก็ตาม กับโรงเรียนทั้ง 8 แห่งในสังกัดเทศบาลนครนครศรีธรรมราช ซึ่งเป็นโรงเรียนวัดทั้งหมดด้วย กลับแตกต่างออกไป เพราะที่นี่กลายเป็นโรงเรียนที่เด็ก ๆ ในนครต้องสอบแข่งขันเพื่อเข้าเรียน กลายเป็นโรงเรียนชั้นนำในกลุ่มปฐมวัยไปสิ่งนี้ต้องยกเครดิตให้นายกเทศมนตรีสมนึก…

6 days ago

[The Insider]<br />พัชรากร ขุนทอง

แม้เราจะพึ่งพาเทคโนโลยีเป็นเครื่องมือหลักแต่แก่นสารของมันคือการคิดนโยบายที่ตอบโจทย์ความต้องการของผู้คนหัวใจสำคัญจึงไม่ใช่เทคโนโลยี แต่เป็นผู้คน “หลังเรียนจบผมก็กลับมานครบ้านเกิด เข้าทำงานเป็นลูกจ้างเทศบาล ก่อนจะไต่เต้าขึ้นมาเรื่อย ๆ จนเป็นเจ้าหน้าที่วิเคราะห์แผนและนโยบายในปัจจุบันสี่ปีที่แล้ว ตอน ดร.โจ (กณพ เกตุชาติ) หาเสียงเพื่อรับเลือกตั้งนายกเทศมนตรีนครนครศรีธรรมราชสมัยแรก ท่านได้เสนอนโยบายเรื่องเมืองอัจฉริยะด้วยการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้เพื่อทำให้เมืองน่าอยู่ พอท่านได้รับเลือกเข้ามา บทบาทของผมคือการช่วยท่านเขียนแผนดังกล่าวผมได้เรียนรู้จาก…

6 days ago